“อภิสิทธิ์” เห็นใจชาวบ้านจมน้ำเป็นเดือนยังไม่เห็นทางออก เหน็บ รบ.ไม่ชัดเจนแก้น้ำท่วม แนะควรเรียกประชุมผู้ว่าฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาทางดึงน้ำสู่ทะเล อย่าประเมินสถานการณ์ไปวันต่อวัน ระบุ พ.ร.บ.ป้องกันฯ ค้ำคอ ผู้ว่าฯ กทม.ต้องทำตามคำสั่ง รบ.อยู่แล้ว วอนอย่าปัดความรับผิดชอบสร้างความแตกแยก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้แสดงความผิดหวังต่อการตอบคำถามของ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ในฐานะ ผอ.ศปภ.ที่ชี้แจงในการประชุมสภาฯ ที่ดูเหมือนเป็นการยืนยันว่าไม่ตระหนักถึงความรับผิดชอบของ ศปภ.ในการที่จะดูแลเพื่อให้การบริหารจัดการมีความชัดเจนสำหรับประชาชน และที่สำคัญ ศปภ.ต้องรู้หน้าที่ตนเองในการหาวิธีที่จะป้องกันไม่ให้เกิดความขัดแย้งระหว่างประชาชนด้วยกันเอง ส่วนที่มีการลุกฮือประท้วงของประชาชนออกไปในหลายๆ พื้นที่ก็เพราะว่าไม่มีความชัดเจน เราต้องเห็นใจคนที่จมน้ำมาเป็นเวลานานเพราะยังมองไม่เห็นทางออก ฉะนั้นเขาก็ต้องการที่จะเรียกร้องและแทนที่เขาจะเห็นการดำเนินการของ ศปภ.ในเรื่องนี้อย่างเป็นระบบ แต่กลับกลายเป็นว่าเขาจะเห็นการตอบสนองของ ศปภ.ก็ต่อเมื่อมีการลุกขึ้นมาชุมนุม เพราะฉะนั้นก็ไม่แปลกที่จะมีการชุมนุมบ่อยขึ้น ซึ่งวิธีการที่ถูกต้องก็คือ ศปภ.ต้องเข้าไปเผชิญกับปัญหาเหล่านี้แล้วก็ส่งสัญญาณให้ชัดว่าจะแก้ไขปัญหาอย่างไรให้ประชาชนเข้าใจ
ผู้สื่อข่าวถามว่า การส่งสัญญาณอย่างที่ ศปภ.ทำอยู่คือ รอให้มีการปิดถนนก่อนแล้วค่อยเข้าไปดูแลมันจะทำให้เกิดปัญหาอะไรตามมาบ้าง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ก็จะทำให้การแก้ปัญหาไม่เป็นระบบ และต่อไปนี้ก็จะเป็นการสร้างความเข้าใจต่อประชาชนว่า การที่จะให้รัฐบาลเห็นความเดือดร้อนของตัวเองก็จะต้องมาทำแบบนี้ และก็ยังไม่เข้าใจเพราะหลายฝ่ายเรียกร้อง ศปภ.ในขณะนี้ให้เข้ามามีบทบาท แต่เมื่อฟังคำตอบจาก ศปภ.แล้วก็พบว่ามีการพยายามหนีปัญหาที่มันละเอียดอ่อน และพยายามโยนปัญหาเหล่านี้ไปยังท้องถิ่น ผู้ว่าฯ กทม. และจังหวัดใกล้เคียงแทน
ต่อข้อถามว่า น.ส.ยิ่งลักษ์ ชินวัตร นายกฯ ให้เหตุผลว่าไม่สามารถเข้ามาดูแลระบบน้ำของ กทม.ได้เพราะไม่มีความเข้าใจในระบบการระบายน้ำของ กทม. นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า นายกฯอย่าลืมว่ามีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ป้องกันฯ และวานนี้ตนได้พบกับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. ท่านก็บอกว่ามีคำสั่งของรัฐบาลโดยท่านนายกฯ หรือ ศปภ. ชัดเจนว่าให้ผู้ว่าฯ กทม.ดูการเปิดประตูระบายน้ำหรือการระบายน้ำไม่ให้กระทบกับพื้นที่กทม. ฉะนั้นผู้ว่ากทม.ก็ทำอย่างอื่นไม่ได้นอกจากทำตามคำสั่ง แต่ถ้าจะแก้ไขปัญหาศปภ.หรือนายกฯก็จะต้องตัดสินใจและ กทม.ก็พร้อมที่จะปฎิบัติตามอยู่แล้ว
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ถ้าเป็นตนจะจัดให้มีการประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดที่เกี่ยวข้องและในพื้นที่ที่ใกล้เคียงกันทั้งหมด รวมไปถึงหน่วยงานที่มีศักยภาพในการที่จะดึงน้ำเพื่อระบายไปสู่ทะเลจะทำกันอย่างไร ไม่ใช่ปล่อยให้ประเมินสถานการณ์ไปวันต่อวัน แม้กระทั่งกรณีของบิ๊กแบ็กเองที่ในขณะนี้น่าจะประเมินได้ว่า การเปิด-ปิดจะมีผลอย่างไร จะได้ตัดสินใจได้ถูกต้อง หากไม่มีการตัดสินใจ ประชาชนก็จะได้รับความเดือดร้อนมากขึ้น เราก็จะเห็นความขัดแย้งในสังคมมากขึ้น ซึ่งไม่เป็นผลดี จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลรีบดำเนินการ และการอภิปรายภายในวันอาทิตย์เราก็จะนำเรื่องนี้ไปพูดด้วย เพื่อที่จะให้รัฐบาลตระหนักมากขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า การเยียวยาของรัฐบาลยังไม่มีความชัดเจน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ตนเข้าใจว่ารัฐบาลมีความกังวลในเรื่องของวงเงิน ซึ่งตนก็ได้ให้ความเห็นไปชัดเจนแล้วว่ายอดเงินไม่ได้มากมายที่จะหามาไม่ได้ และก็มีรายการหลายรายการที่รัฐบาลสามารถทบทวนเพื่อปรับลดวงเงินเพื่อนำมาช่วยประชาชน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้นอกจากชาวบ้านแล้วยังมีบุคคลทีมีชื่อเสียงของสังคมเช่น นายอาทิตย์ อุไรรัตน์ ออกมาเคลื่อนไหวด้วย นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ขณะนี้จะมีหรือไม่มีชื่อเสียงตอนนี้เวลาจมน้ำก็เดือดร้อนด้วยกันทั้งนั้น และพื้นที่เมืองเอก บางกรวย บางบัวทอง ดอนเมือง ก็ยังเดือดร้อน ถามต่อว่า อยากฝากถึงการเคลื่อนไหวในลักษณะนี้ของประชาชน นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนยืนยันมาตลอดว่า การจะเคลื่อนไหวอะไรก็ขอให้อยู่ในกรอบของกฎหมาย แต่ว่าสิ่งที่ดีที่สุดคือ ศปภ.และรัฐบาลเดินหน้าเข้าไปเผชิญกับปัญหานี้อย่างเป็นระบบและก็ชี้แจงอย่างเป็นระบบ เพราะวันนี้ยังไม่มีใครที่จะให้คำตอบได้ว่าตกลงน้ำที่อยู่จะเริ่มลดเมื่อไหร่ หรืออย่างเช่นการกู้ถนนสาย 340 ตกลงแล้วมันมีความคุ้มค่าหรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามว่า ดูเหมือนว่า ศปภ.จะปล่อยให้มีม็อบเพื่อที่จะเอามากดดันการทำงานของ กทม. นายอภิสิทธิ์กล่าว่า ตนสังเกตจากคำตอบในการชี้แจงวันนี้ก็ยังดูเหมือนว่ายังมีการเล่นการเมืองกันอยู่ ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมาเล่นการเมืองในตอนนี้ จริงแล้วต้องแก้ปัญหาเพราะเป็นปัญหาของประเทศ ซึ่งทุกคนพยายามจะพูดว่าเราจะฝ่าวิกฤตไปด้วยกัน แต่วันนี้รัฐบาลและ ศปภ.พยายามที่จะแบ่งแยกคน ถือว่าเป็นการไม่มีความรับผิดชอบในการที่จะทำงานเพื่อส่วนรวม
“ขอย้ำว่ารัฐบาลพูดถึงนโยบายปรองดอง จากเดิมความขัดแย้งมีแค่เรื่องการเมือง แต่ในขณะนี้ยังนำเรื่องน้ำมาเป็นเงื่อนไขในความขัดแย้งอีก ซึ่งไม่ได้ช่วยเรื่องการปรองดองเลย” นายอภิสิทธิ์กล่าว
