xs
xsm
sm
md
lg

ครม.เงาเสนอรัฐเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยแบบขั้นบันได

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี
ที่ประชุม ครม.เงา ปชป. แนะ รบ.ตั้งเกณฑ์เยียวยาน้ำท่วมใหม่ เสนอจ่ายแบบขั้นบันได จี้ ศปภ.เป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยปัญหา “บิ๊กแบ็ก-ประตูระบายน้ำ” ซัดอย่าโยนให้เป็นหน้าที่ของผู้ว่าฯ จังหวัดอย่างเดียว จวก เอาเรื่องน้ำท่วมมาอ้างเลื่อนขึ้นค่าแรง 300 บ.เริ่ม 1 เม.ย.55 หัวชนฝาค้านอภัยโทษหรือการนิรโทษกรรมให้ “นช.แม้ว” ชี้ขัดต่อหลักนิติรัฐ และนิติธรรม

วันนี้ (23 พ.ย.) นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ส.ส.กทม. ในฐานะโฆษก ครม.เงา พรรคประชาธิปัตย์ แถลงภายหลังการประชุม ครม.เงา ว่า ครม.เงามีมติในเรื่องน้ำท่วมว่า มีมติเรื่องข้อเสนอแนะกรณีเงินช่วยเหลือน้ำท่วม โดยอยากให้ทำเป็นขั้นบันได เช่น กรณีน้ำท่วมขัง 7 วันจะได้รับเงิน 5,000 บาท ส่วนคนที่ถูกน้ำท่วมบ้าน 7 วันถึง 1 เดือนจะได้รับเงินเยียวยา 10,000 บาท ส่วนใครที่ถูกน้ำท่วมเกิน 1 เดือน จะได้รับเงิน 15,000 บาท ซึ่งอยากให้รัฐบาลพิจารณาเรื่องดังกล่าวโดยด่วน นอกจากนี้ หลักเกณฑ์เรื่องการรับเงินเยียวยายังคงมีความสับสนอยู่ จึงอยากให้ กทม.และศปภ.ร่วมกันพูดถึงหลักเกณฑ์กับประชาชนให้ชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง

นายอรรถวิชช์กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.เงายังมีความกังวลว่าในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมของรัฐบาล โดยขณะนี้อยากวิงวอนให้ ศปภ.ทำงานอย่างบูรณาการ เนื่องจากขณะนี้ยังไม่เห็นว่ามีการทำงานที่มีการบูรณาการร่วมเรื่องน้ำเลย โดยเฉพาะปัญหาแนวคันบิ๊กแบ็ก และประตูระบายน้ำ เพราะทั้ง จ.นนทบุรี และกทม.มีข่าวออกว่ามีการเกี่ยงกันระว่างผู้ว่าฯ นนทบุรี และผู้ว่าฯ กทม.ในการแก้ไขปัญหา ทั้งนี้ ศปภ.ต้องเป็นตัวกลางในการไกล่เกลี่ยอย่าโยนให้เป็นเรื่องของผู้ว่าฯ คนใดคนหนึ่งอย่างเดียว เพราะไม่อย่างนั้นการบูรณาการจะไม่เกิดประโยชน์กับประชาชน

นายอรรถวิชช์กล่าวว่า ส่วนประเด็นเรื่องการอภัยโทษหรือการนิรโทษกรรมเอื้อประโยชน์ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น ทาง ครม.เงาเห็นว่า จุดยืนของพรรคคือ การไม่สนับสนุนการดำเนินการของรัฐที่ขัดต่อหลักนิติรัฐ และนิติธรรมไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใดก็ตาม

ขณะที่ นายสรรเสริญ สมะลาภา ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เรื่องของการขึ้นค่าแรง 300 บาทในวันที่ 1 เม.ย.55 นั้นเป็นเรื่องที่น่าเห็นใจทั้งฝ่ายนายจ้างและลูกจ้าง ซึ่งเราได้เคยแนะนำมาแล้วว่าเงินที่นำไปใช้ในโครงการประชานิยมต่างๆ และมีคนได้รับประโยชน์น้อย เช่น นโยบายรถคันแรก สามารถนำเงินในส่วนนี้ไปชดเชยให้กับผู้ประกอบการในการจ่ายค่าแรงให้ลูกจ้างได้ครบ 300 บาท ซึ่งการใช้เรื่องน้ำท่วมแล้วมาเลื่อนการจ่ายค่าแรงถือเป็นข้ออ้าง นอกจากนี้ เมื่อเลื่อนมาเป็นวันที่ 1 เม.ย.55 ก็จะมีเพียง 7 จังหวัดนำร่องท่านั้นที่จะได้ค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท แต่อีกกว่า 70 จังหวัดต้องรอถึงปี 56 ถึงจะได่ค่าแรง 300 บาท ดังนั้น การทำนโยบายเรื่องนี้จึงถือเป็นการขัดแย้งตอนหาเสียงว่าได้ 300 บาทพร้อมกันทุกคน

นายสรรเสริญกล่าวต่อว่า ที่ประชุม ครม.เงายังมีความเป็นห่วงถึงตัวเลขของลูกจ้างที่จะต้องตกงานอีกมาก ซึ่งขณะนี้ตัวเลขยังไม่นิ่งว่าจะมีผู้ตกงานอีกกี่คน นอกจากนี้ การกู้นิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ก็มีความล่าช้ากว่ากำหนด การเยียวยาและชดเชยเงินรัฐบาลต้องคิดถึงค่าเสียโอกาสต่างๆ เช่น บริษัทหยุดการผลิต ทำให้สูญเสียรายได้ แรงงานที่ไม่ได้ทำงานก็ขาดรายได้ ซึ่งถือเป็นความสูญเสียทางเศรษฐกิจเช่นกัน โดยเฉพาะบริษัทอุตสาหกรรมที่อาจจะไม่ได้รับเงินประกันหากไม่ใช่ความเสียหายที่เกิดจากภัยพิบัติ แต่เป็นการบริหารจัดการน้ำของรัฐบาลที่ผิดพลาดด้วย ซึ่งเรื่องนี้เราก็เป็นห่วงและจะนำประเด็นนี้มาอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย

นายอรรถวิชช์กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องของค่าแรง 300 บาท ที่รัฐบาลมีมติเลื่อนไปเป็นวันที่ 1 เม.ย.55 นั้น ทาง ครม.เงาต้องตำหนิการดำเนินการดังกล่าว เพราะเมื่อมีการเลื่อนกำหนดขึ้นค่าแรงเป็นวันที่ 1 เม.ย.55 แต่การลดภาษีนิติบุคคลจาก 30 เปอร์เซ็นต์ เหลือ 23 เปอร์เซ็นต์ กลับไม่มีการเลื่อนตาม และจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.55 เป็นข้อบ่งชี้ว่าการประกาศตอนหาเสียงการขึ้นค่าแรงจะนำมาแลกเปลี่ยนจากการลดภาษีนั้นต้องล่าช้าออกไปอีก เพราะส่งผลต่อลูกจ้างรายวัน เพราะได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม และสุดท้ายก็หนีไม่พ้นช่วยคนรวยก่อนคนจน เพราะมาตรการภาษียังทำตามกำหนดการเดิมคือ 1 ม.ค. แต่การช่วยลูกจ้างอย่างการเพิ่มค่าแรงเป็น 300 บาท เป็น 1 เม.ย.55 ก็อยากถามว่าทำไมต้องเลื่อนด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น