“ยิ่งลักษณ์” ย้ำหลักเกณฑ์เยียวยาผู้ประสบอุทกภัย บ้านเสียหายทั้งหลังให้ 2 หมื่น เครื่องใช้ในบ้านสูญเสียได้เพิ่มอีก 1 หมื่น ส่วนบ้านเรือนที่ถูกน้ำท่วมขังเกิน 7 วันให้ 5 พัน ส่วนข้อเสนอ “มาร์ค” ที่ให้ช่วยเหลือแบบขั้นบันได โยนทีมงานพิจารณาศึกษา ปัดตอบ พ.ร.ฎ.อภัยโทษ ลุ้น ครม.ถกเยียวยาเพิ่มพื้นที่น้ำท่วมนาน ขณะที่กระทรวงแรงงานเดินหน้าเสนอค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท 7 จังหวัด
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มาตรการเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยได้กำหนดเรื่องการเยียวยาไว้ 2 ส่วน คือ บ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายทั้งหลังจะได้รับเงิน 20,000 บาท และหากเครื่องใช้ในบ้านได้รับความเสียหายจะได้รับเพิ่มอีก 10,000 บาท
ส่วนพื้นที่ที่น้ำท่วมขังเกิน 7 วันจะได้รับเงินช่วยเหลือ 5,000 บาท ซึ่งในกรณีของเงินช่วยเหลือดังกล่าวได้ฝากไปถึงผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ ให้ช่วยเร่งรัดสำรวจความเสียหายของบ้านเรือนประชาชน และเสนอเรื่องเข้ามาหลังจากที่รัฐบาลได้อนุมัติในหลักการไปแล้ว เพื่อจะได้ดำเนินการเยียวยาให้ทั้งหมดอย่างทั่วถึง ส่วนรายละเอียดในแต่ละพื้นที่ที่มีความแตกต่างกันออกไปจากหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้นั้น ทางแต่ละเขตจะเสนอเรื่องเข้ามายังรัฐบาลเอง ซึ่งจะมีการพิจารณารายละเอียดอย่างรอบคอบ
น.ส.ยิ่งลักษณ์ยืนยันว่า รัฐบาลจะให้การดูแลประชาชนอย่างทั่วถึง และไม่จำเป็นรอให้น้ำลดก่อนถึงจะจ่ายเงินเยียวยา ซึ่งหากพบว่าพื้นที่ได้รับความเสียหายก็จะจ่ายเงินช่วยเหลือให้ทันที ส่วนกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้นำฝ่ายค้าน ได้เสนอให้รัฐบาลมีการเยียวยาประชาชนแบบขั้นบันไดนั้น ต้องขอให้ทีมงานได้ศึกษารายละเอียดก่อน
ส่วนกรณีที่รัฐบาลเตรียมออกร่าง พ.ร.ฎ.ขอพระราชทานอภัยโทษ ที่มีกระแสข่าวว่าเอื้อประโยชน์ให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พี่ชายนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (22 พ.ย.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานการประชุมด้วยตัวเองตามปกติ หลังจากสัปดาห์ก่อน มอบหมายให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่แทน เนื่องจากไม่สามารถเดินทางกลับจาก จ.สิงห์บุรีได้ทัน จนมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากการที่ที่ ครม.ประชุมลับร่าง พ.ร.ฎ.ขอพระราชทานอภัยโทษ ที่มีข่าวว่าออกหลักเกณฑ์การขอพระราชทานอภัยโทษเอื้อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จนถูกมวลชนออกมาต่อต้าน
สำหรับวารถการประชุมสำคัญคงไม่พ้นการประเมินสถานการณ์อุทกภัยทั้งประเทศไทยภายหลังจากมีสัญญาณที่ดีขึ้นตามลำดับ ประกอบกับบางพื้นที่ระดับน้ำได้ลดลงแล้ว
ขณะที่ คณะกรรมการฟื้นฟู 3 ด้าน ทั้งคณะกรรมการด้านฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐาน คณะกรรมการฟื้นฟูด้านเศรษฐกิจอุตสาหกรรมและความเป็นอยู่ของประชาชน และคณะกรรมการฟื้นฟูด้านคุณภาพชีวิต โดยนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการเพื่อให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย (กฟย.) เตรียมเสนอให้เสนอกรอบงบประมาณและโครงการฟื้นฟู 62 จังหวัดให้ ครม.พิจารณา พร้อมกับหารือการเยียวยาและช่วยเหลือประชาชนที่อยู่ในพื้นที่น้ำเน่าท่วมขังยาวนานที่เป็นผลกระทบมาจากการวางกระสอบทรายยักษ์ หรือบิ๊กแบ็ก
นอกจากนี้ กระทรวงต่างๆ ได้ให้ ครม.พิจารณาอนุมัติจำนวนมาก เช่น กระทรวงแรงงาน เสนอให้มีการพิจารณากำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำปี 2555 ตามที่ที่ประชุมคณะกรรมการค่าจ้างกลาง มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 40% ทุกจังหวัดทั่วประเทศทำให้มี 7 จังหวัดที่ได้ค่าจ้างถึง 300 บาท
กระทรวงการคลังเสนอกรอบการเจรจาหรือความตกลงเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อน และอนุสัญญาหรือความตกลงฯ ที่ยังไม่มีผลใช้บังคับ จำนวน 10 ฉบับกับประเทศต่างๆ ไม่ต้องเก็บภาษีซ้ำซ้อนกันอีกต่อไป
กระทรวงมหาดไทยขออนุมัติเปลี่ยนแปลงรายการโครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2554 พร้อมกับเสนอแต่งตั้งข้าราชการประจำกระทรวง เป็นต้น
