อดีต รมว.ยุติธรรม ชี้ ครม.ออก พ.ร.ฎ.อภัยโทษ ส่อช่วย “นช.แม้ว” ตั้งคำถามตัดเงื่อนไขแนบท้ายทำไม ทั้งที่กฤษฎีกาเคยคัดค้าน ซ้ำให้เป็นประชุมลับ ทั้งที่ตามปกติเป็นวาระเปิดเผย เชื่อวางแผน “ปู” มาประชุมไม่ทัน กันข้อหาเอื้อประโยชน์พี่ชาย
เมื่อวันที่ 15 พ.ย. นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ อดีต รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่ ครม.มีมติผ่านร่างพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ขอพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ...ว่า การพิจารณา พ.ร.ฎ.อภัยโทษ ถือเป็นวาระทั่วไปที่จะพิจารณากันในช่วงที่มีวาระสำคัญ เช่น เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวามหาราช ซึ่งการประชุม ครม.ที่ผ่านๆ มาจะเป็นการพิจารณาแบบเปิดเผย แต่รัฐบาลชุดนี้กลับมีการพิจารณาที่ไม่มีความโปร่งใส เพราะเป็นการประชุมลับ
นอกจากนี้ การที่ ครม.มีการตัดเงื่อนไขในส่วนของคำแนบท้ายของ พ.ร.ฎ.อภัยโทษ พ.ศ. 2553 ที่มีการระบุว่า ผู้ที่เข้าข่ายได้รับอภัยโทษจะต้องเป็นโทษที่ไม่เกี่ยวกับยาเสพติดและการทุจริตคอร์รัปชันออกไปนั้น ก็ต้องถามว่ารัฐบาลตัดออกทำไม ทั้งที่สำนักงานกฤษฎีกาก็เคยคัดค้านมาก่อน สุดท้ายเมื่อฝ่ายการเมืองมีนโยบายออกมาแบบนี้สำนักงานกฤษฎีกาก็คัดค้านไม่ได้
“หากรัฐบาลมีความจริงใจ จะตัดส่วนนี้ออกทำไม เพราะทำให้คิดได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหลบหนีคดีอาญา จะได้ประโยชน์ในส่วนนี้”
นายพีระพันธุ์กล่าวต่อว่า ตนยังทราบมาว่าการพิจารณา พ.ร.ฎ.พระราชทานอภัยโทษในวันนี้ ไม่ได้อยู่ในวาระการประชุม ครม.ตามปกติ ทำไมอยู่เป็นวาระสอดแทรกเข้ามาประชุมได้อย่างไร ซึ่งสอดคล้องกับที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไม่ได้มาเข้าร่วมประชุม โดยอ้างว่าไม่สามารถเดินทางกลับมาจาก จ.สิงห์บุรีได้ทัน ตนเห็นว่าเป็นข้ออ้างเพื่อให้นายกฯ ไม่ต้องมาเข้าร่วมประชุม และเป็นแผนการณ์ของรัฐบาล เพราะหากนายกฯ มาประชุมและร่วมลงมติกับ ครม.ในเรื่องดังกล่าวจะเข้าข่ายผลประโยชน์ขัดกันและอาจมีความผิดได้