เชื้อชั่วไม่มีวันตาย

และแล้วรัฐบาลยิ่งลักษณ์ก็จำต้องถอยกรูด กลับไปตั้งหลักทบทวนใหม่แทบไม่ทัน

หลังลองเดิมพันเดินเกมเสี่ยง ฉวยจังหวะชุลมุน ประชาชนกำลังสำลักน้ำจากวิกฤติการณ์น้ำท่วมไทย ร่างพระราชกฤษฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ หมกเม็ดซ่อนกลช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษคดีทุจริตผู้หลบลี้หนีคดี กระสันต์อยากกลับประเทศไทยจนตัวซีดตัวสั่น

เสี่ยงตัดสินใจเดินเกมเสียวๆ พร้อมทั้งโยนหินถามทางไปในคราวเดียวกัน แต่ปรากฏเสียงสะท้อนกลับเชิงลบ สารพัดบาทาถาโถมจนหน้าตาเต็มไปด้วยรอยเท้า อาการตอบรับสนับสนุนแทบไม่มี นอกเหนือจากเครือข่ายคนเสื้อแดงที่หลับหูหลับตาเชียร์ ไม่เคยใช้สามัญสำนึกตรองดูว่าอะไรถูกอะไรควร

พ.ต.ท.ทักษิณ นายใหญ่ที่ยังคงเร้นกายอยู่ต่างประเทศ เหมือนคนตาบอดได้ยินแต่เสียง ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางในประเทศไทยถ่องแท้ ได้ใช้สมองปราดเปรื่องเรื่องศรีธนญชัย วาดวิมานบนอากาศเสกตัวเองให้กลับบ้านในเร็ววัน สั่งการผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์กมายังศูนย์บัญชาการใหญ่ในประเทศไทย ตามสไตล์นักคิดกล้าได้กล้าเสีย แต่ไม่เคยคิดลึกซึ้งไตร่ตรองถึงผลที่จะตามมาอย่างรอบด้าน แอบเดินเกม พ.ร.ฎ.อย่างลับๆ กำชับให้เป็นเรื่องปกปิดสุดยอด

กระนั้นก็ทำได้ไม่แนบเนียน ด้วยเหตุเพราะความบ้องตื้นของ ครม.เต้าหู้ยี้ หรือมีสปายสายลับที่ไม่เห็นดีเห็นงาม ไม่อยากพาตัวเองไปตกอยู่ในภาวะเสี่ยงคอขาด และมีรมต.น้ำดีจำนวนหนึ่งไม่อยากทำให้ชาติต้องมนต์ไปตามระบอบทักษิณ จึงออกมาเปิดโปงขบวนการเพทุบาย จนสังคมลุกฮือขึ้นมาสาปแช่งถึงแผนชั่วท่ามกลางวิกฤตชาติครั้งนี้

เมื่อถูกจับได้ไล่ทัน ถูกสังคมตั้งคำถามเชิงขยะแขยง ก็ทำให้ฉุกคิด ในที่สุดก็ต้องตลบกลับ 360 องศา จากที่เคยแอบดัดแปลง แก้ไข ให้เข้าทาง เข้าล็อกของตัวเอง ก็ต้องจำใจแก้ไขให้กลับไปเป็นเหมือนเดิม ประหนึ่งว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่รู้ว่าเป็นเพราะคิดว่าตัวเองฉลาดกว่าคนอื่นอยู่วันยังค่ำหรืออย่างไร คิดว่าคนอื่นกินแกลบกินหญ้ากระนั้นมั้ง จึงรู้ไม่เท่าทันพวกศรีธนญชัยเครือข่ายดาวเทียมอย่างพวก ฯพณฯท่าน

ความเคลื่อนไหวทั้งหมดทั้งมวลเหล่านี้ถูกจับได้โดยละม่อมจากสื่อและปัญญาชนในประเทศไทย ที่รัฐบาลเศษตะกอนชุดนี้พยายามผลักไสไปให้พ้นตัว กดหัวให้จมมิดไปกับกระแสน้ำ แต่ทำอย่างไรก็ไม่สำเร็จ กระแสต่อต้านรัฐบาลในประเด็นแหลมคมนี้ถูกจุดขึ้นมาครั้งแล้วครั้งเล่า จนร้อนรุ่ม ร้อนแรง คุโชนขึ้นเรื่อยๆ

ในที่สุดรัฐบาลก็ยากที่จะทานทนไฟบรรลัยกัลป์ เหมือนตกอยู่ในขุมนรก ยากที่จะทานทนกระแสต่อต้านของสังคม จำต้องยอมรับสภาพความพ่ายแพ้

เมื่อเห็นสถานการณ์ไม่สู้ดี มีผลเสียมากกว่าผลบวก ซ้ำยังจะทำให้อายุของรัฐบาลสั้นลงแบบกรรมติดจรวด จึงต้องถอยฉาก ตัดไฟแต่ต้นลม ไม่ให้ลุกลามบานปลาย เกิดเป็นวิกฤติซ้อนวิกฤติในรัฐบาล

พ.ต.ท.ทักษิณต้องรีบเขียนจดหมายออกตัว แก้ต่างแทนรัฐบาล มุสาว่าการใดๆ ที่รัฐบาลทำขึ้นล้วนไม่มีผลประโยชน์เกี่ยวเนื่องมาถึงตนเอง แก้ตัวน้ำขุ่นๆ ว่าทำไปตามประเพณีที่เคยปฏิบัติเฉกเช่นโอกาสมหามงคลที่ผ่านๆ มา

พร้อมทั้งสั่งการด่วนให้พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม เด็กในคาถามนต์ดำที่แบกภาระเรื่องเสี่ยงๆ นี้ จัดการตัดตอน ตัดไฟทันที ป้องกันไม่ให้ช็อตลามปามจนรัฐบาลต้องเสียชีวิต

ด้วยเพราะประเมินสถานการณ์ภาพรวมแล้ว หากดึงดันแข็งขืน “เจ๊งยับแน่นอน” กำไรไม่มีแถมหน้าตักหาย จำต้องล้มเลิกกลับไปกบดานคิดอ่านหาแผนใหม่ที่ไฉไลไร้คราบไคลสกปรกเช่นนี้

พ.ต.ท.ทักษิณ นักโทษหลบหนีคดี จำต้องกล้ำกลืนฝืนทน ระเห็จกายด้วยความหนาวเหน็บอยู่ต่อไป เพื่อรอคอยโอกาสประจวบเหมาะ

ฉะนั้นสังคมไทยคงไม่อาจนิ่งนอนใจ วางเฉยกับปฏิบัติครั้งใหม่ที่อาจยิ่งใหญ่แต่จัญไรกว่าเดิม!!