xs
xsm
sm
md
lg

“จตุพร” ถูกแขวนชะตาพลิกผัน คุกยาว-พลาดโอกาสอัปเกรด!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

หากไม่พูดถึงประเด็นการทำงานแบบไร้ประสิทธิภาพเกี่ยวกับการจัดการเลือกตั้งให้เป็นไปตามกฎหมายโดยสุจริตและเที่ยงธรรมของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แล้ว เชื่อว่ากรณี “แขวน” จตุพร พรมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดง ว่าที่ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคมที่ผ่านมา ถือว่ามีนัยสำคัญหลายอย่างตามมา

ที่สำคัญการแขวนในครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อตัวเขาเข้าอย่างจัง มีลักษณะแบบ “พลิกผัน” ชั่วข้ามคืนแบบฉับพลันทันที

หากไล่เรียงกันทีละประเด็นก็จะเริ่มจากกรณีสำคัญที่สุดก่อนแล้วไล่ลงมาก็คือ หาก กกต.รับรองการเป็น ส.ส.เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคมพร้อมกับ 94 ส.ส.ที่ได้ประกาศไปแล้ว ซึ่งในจำนวนนั้นยังมีบรรดาแกนนำหรือ “หัวโจก” ของคนเสื้อแดงหลายคนรวมอยู่ด้วย จะมีผลต่อ “เอกสิทธิ์คุ้มครอง” ในลักษณะกึ่งอัตโนมัติ นั่นคือจะสามารถออกจากคุกและเข้าไปทำหน้าที่เป็น ส.ส.เป็นผู้ทรงเกียรติในสภาทันที

หมายความว่า คดีความต่างๆ ที่ติดตัวเขามาเป็นพรวนจะต้องชะลอออกไปก่อนชั่วคราว รวมไปถึงคดีผู้ก่อการร้าย คดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพที่เป็นชนวนสำคัญที่ทำให้เขาต้องเข้าไปอยู่ในคุกเวลานี้นั่นแหละ และที่ผ่านมาก่อนหน้านี้เขาก็ได้ใช้เอกสิทธิ์ ส.ส.คุ้มครองมาตลอดในสมัยสภาชุดที่แล้ว

ตรงกันข้ามกับ “เพื่อนพ้องน้องพี่” แกนนำคนเสื้อแดงอื่นๆ ซึ่งอาจจะยกตัวอย่างแค่กรณีของ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้เป็น ส.ส.จึงต้องถูกคุมขัง ถูกดำเนินคดี ต่างกรรมต่างวาระกันมา และในคราวนี้มันก็เหมือนโชคชะตาเล่นตลกอย่างไรไม่อาจทราบได้ เพราะในช่วง “เวลาสำคัญ” จตุพร กลับเข้าไปอยู่ในคุก ขณะที่อีกคนหรืออีกกลุ่มหนึ่งที่เคยอยู่ในคุกกลับเดินสวนออกมาหน้าตาเฉย

ถ้าเปรียบเทียบให้เห็นภาพระหว่างคนสองคนนี้ก็ต้องยอมรับความจริงว่า มันก็เหมือนช่วงชิงการนำอยู่ในที แม้จะยังไม่แสดงออกแน่ชัดนัก แต่รับรองว่าขางในลึกๆ ไม่ธรรมดาแน่นอน และที่ผ่านมา ฝ่ายจตุพร ก็มักเต้นฟุตเวิร์กตีกิน โชว์ลีลาอยู่ข้างนอกคุก สร้างวาทะอยู่ในสภา อยู่ในห้องแอร์มากกว่า

เมื่อทุกอย่างพลิกกลับตาลปัตรแบบนี้ โอกาสที่ จตุพร จะคว้าโควตารัฐมนตรี หรือตำแหน่งทางการเมืองเป็นบำเหน็จตอบแทนก็ย่อมมลายหายไปด้วย และโอกาสนั้นย่อมไปตกอยู่ที่ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ มากกว่าใคร

หากย้อนกลับไปในช่วงที่จตุพรถูกถอนประกันเนื่องจากสาเหตุปราศรัยจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์เมื่อวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะต้องการ “เสี่ยง” เพียงเพื่อต้องการ “เอาใจนายใหญ่” แต่อาจเป็นเพราะใส่อารมณ์มากไป เหิมเกริมมากไปจนลืมตัว และนำตัวเองเข้าไปอยู่ในคุกตั้งแต่นั้นมาจนพลาดโอกาสสำคัญในชีวิต

ขณะที่แกนนำเสื้อแดงอีกกลุ่มใหญ่ที่รวมเอา ณัฐวุฒิ อยู่ในนั้นด้วย กลับได้รับการช่วยเหลือจากฝ่ายรัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ด้วยนโยบาย “ปรองดองกับโจร” สามารถเดินลอยชายออกมาลงสมัคร ส.ส.และกำลังมีโอกาสจะได้มีตำแหน่งทางการเมืองในอีกไม่กี่วันข้างหน้าหลังจากสภามีการคัดเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ซึ่งแน่นอนอยู่แล้วว่าต้องเป็น ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวของทักษิณ ชินวัตร เท่านั้น

เมื่อพูดถึงการพลาดจากการรับรอง ส.ส.แบบ “ปล่อยผี” ล็อตใหญ่ดังกล่าว มันก็ย่อมส่งผลต่ออนาคตของจตุพรเข้าไปเต็มๆ ดังกล่าว ประการหนึ่งก็คือ มีโอกาสติดคุกยาว เพราะหลังจากนี้ไปเมื่อ กกต.รับรอง ส.ส.จนครบ 95 เปอร์เซ็นต์จนเปิดสภาได้แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องรีบ ไม่มีแรงกดดันอีกต่อไปแล้ว และแม้ว่าตามขั้นตอนเรื่องจะต้องไปถึงศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งมันก็ต้องใช้เวลา แต่นั่นไม่เท่ากับการเสียโอกาสสำหรับลุ้นเก้าอี้รัฐมนตรีในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ทำให้เสียอนาคต เสียหายหลายแสน อย่างน่าเจ็บใจที่สุด

อีกทั้งยังทำให้เขาพลาดโอกาสสำหรับการ “อัปเกรด” ตัวเองขึ้นมาเหนือคนอื่นในบรรดา “หัวโจก” คนเสื้อแดงด้วยกัน ทั้งที่ได้ทำทางมาอย่างดีแล้วเมื่อครั้งที่เป็น ส.ส.ในสภาคราวที่แล้ว เพราะได้ทิ้งระยะห่างจากณัฐวุฒิเอาไว้พอสมควร แต่คราวนี้กลายเป็นว่าเขาได้แต่มองให้อีกฝ่ายนั่งเก้าอี้สำคัญ เหมือนกับการหยิบชิ้นปลามันในช่วงพลิกผันชี้ขาดเสียด้วย

ขณะเดียวกัน เมื่อไม่ได้เป็น ส.ส.ก็ไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มกะลาหัว เขาก็ต้องถูกดำเนินคดีที่ติดตัวมาเป็นพรวนอย่างช่วยไม่ได้ ขณะที่บรรดาเพื่อนพ้องน้องพี่ แม้กระทั่ง เหวง โตจิราการ ที่เพิ่งเข้ามาโหนกระแสเสื้อแดง กระแสทักษิณ ในภายหลังก็ยังได้อานิสงส์จากการเป็น ส.ส.เข้าไปเต็มๆ ซึ่งหากพิจารณาในแง่มุมแบบนี้มันก็เป็นไปได้เหมือนกันว่าเป็นเรื่องของ “เวรกรรม” และเป็นกรรมติดจรวดดาวเทียมก็เป็นได้!!

กำลังโหลดความคิดเห็น