ตำรวจส่อแววสนอง “เสื้อแดง” เตรียมยุติคดี นปช.ส่งอีเมลข่มขู่นักข่าวช่อง 7 อ้างถามไอซีทีแล้ว หาต้นตอคนส่งไม่ได้ ขณะราชบัณฑิตยฯ บอกข้อความ “จัดให้หน่อย” ไม่เข้าข่ายข่มขู่ สอดคล้องความเห็น “เฉลิม” เคยตีความกลางสภาทุกวลี ด้านเสื้อแดงอีกกลุ่มอ้างชื่อ “ชมรมสื่อมวลชนเพื่อประชาธิปไตย” ยื่นหนังสือผู้บริหารช่อง 7 ลงโทษ “สมจิตต์” ฐานบังอาจจี้ใจดำ ถามรองนายกฯ จนเสียมวย ผิดจรรยาบรรณสื่อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเย็นวันที่ 21 พ.ย. น.ส.สมจิตต์ นวเครือสุนทร ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 ได้รับการติดต่อจาก พ.ต.ท.อภิชาติ นาคสุข พนักงานสอบสวนในคดีที่ น.ส.สมจิตต์ แจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.พรทิพย์ ปักษานนท์ ในข้อหาข่มขู่ทำให้เกิดความกลัวจากการส่งต่ออีเมลลูกโซ่ในเครื่อข่ายคนเสื้อแดง ที่มีเนื้อหาว่า “จำหน้าหล่อนไว้นะครับ เจอหน้าที่ไหน จัดให้หน่อยนะครับ” โดย พ.ต.ท.อภิชาติ แจ้งว่า ได้ทำหนังสือไปยังกระทรวงไอซีที เพื่อให้ช่วยตรวจสอบถึงต้นตอการโพสต์ข้อความดังกล่าว แต่ทางไอซีที ตอบกลับมาว่า ไม่สามารถที่จะหาต้นตอได้ เนื่องจากต้องมีอีเมลเฮดเดอร์ มาตรวจสอบ ซึ่งหาก น.ส.สมจิตต์ ไม่สามารถที่จะให้ข้อมูลในส่วนนี้ได้ ก็จะสอบปากคำ น.ส.พรทิพย์ เพิ่มเติม แต่เท่าที่ทราบ น.ส.พรทิพย์ เป็นเพียงผู้ส่งข้อความต่อในหมู่เพื่อนของตนเองเท่านั้น จึงไม่เข้าข่ายการทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ อีกทั้งทางพนักงานสอบสวนยังได้ทำหนังสือไปยังราชบัณฑิตยสถาน เพื่อให้คำจำกัดความเกี่ยวกับคำว่า “จัดให้หน่อย” ว่า เข้าข่ายการข่มขู่ทำให้เกิดความกลัวได้หรือไม่ ซึ่งได้รับการตอบกลับมาว่า ไม่ได้เข้าข่ายให้เกิดความกลัว หรือความตกใจ ดังนั้น ในชั้นต้นนี้ หากไม่มีหลักฐานเพิ่มเติมทางพนักงานสอบสวนเห็นว่า ไม่เข้าข่ายที่จะส่งฟ้อง แต่ก็ต้องดูว่า หลังจากสรุปสำนวนส่งให้อัยการ ทางอัยการจะเห็นตรงกับพนักงานสอบสวนหรือไม่
อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า คดีดังกล่าวมีการแจ้งความตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ผ่านมาเกือบ 3 เดือนแล้ว แต่พนักงานสอบสวนกลับเพิ่งแจ้งความเห็นเบื้องต้นในการสรุปสำนวนมายัง น.ส.สมจิตต์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับเหตุการณ์การปะทะคารมระหว่าง น.ส.สมจิตต์ สัมภาษณ์ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เรื่อง การออกพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา อีกทั้งข้ออ้างที่ระบุว่า มีการยื่นให้ราชบัณฑิตยสถานให้คำจำกัดความนั้นก็สอดคล้องกับคำพูดของ ร.ต.อ.เฉลิม ที่ตอบคำถามกระทู้สดในสภาว่า คำว่า “จัดให้หน่อย” ตามราชบัณฑิตยสถาน ไม่ได้หมายถึงการข่มขู่ และ น.ส.พรทิพย์ ซึ่งเป็นผู้ส่งต่ออีเมล ก็พูดชัดเจนว่า ไม่ชอบคำถามที่ น.ส.สมจิตต์ ถามต่อนายกฯ ถือเป็นสิทธิ์ตามระบอบประชาธิปไตยได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 45 ถ้าตนเป็นตำรวจลงบันทึกประจำวันจะแจ้งเลยว่า “ไม่เข้าข่ายตามที่จะส่งฟ้อง”
อีกทั้งประกอบกับในวันนี้ (21 พ.ย.) ได้มีตัวแทนกลุ่มที่เรียกตัวเองว่าชมรมสื่อมวลชนเพื่อประชาธิปไตย ยื่นหนังสือต่อผู้จัดการฝ่ายข่าว ช่อง 7 เพื่อให้ดำเนินการลงโทษ น.ส.สมจิตต์ โดยระบุว่า ได้ตั้งคำถามกับ ร.ต.อ.เฉลิม ในลักษณะหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และเลือกข้างพรรคการเมืองซึ่งถือว่าขัดต่อจริยธรรมของสื่อมวลชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบการเคลื่อนไหวของชมรมดังกล่าว พบว่า ล่าสุด เมื่อวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา บุคคลกลุ่มนี้ได้เข้าร่วมกับ นายสิงห์ทอง บัวชุม อดัตผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย แถลงข่าวจัดงานทำบุญวันเกิด 4 ภาคให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในโอกาสครบรอบวันคล้ายวันเกิด 62 ปี ที่วัดแก้วฟ้า โดยในการจัดงานครั้งดังกล่าวถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่ามีกิจกรรมที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากในงานดังกล่าวได้นำรูปหล่อพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์มาร่วมพิธีและใช้ชื่องานว่า “62 ปี คืนคนดีกลับบ้าน บูชาคุณแผ่นดิน” โดยหลายฝ่ายเห็นว่าเป็นการมิบังควรที่นำ พ.ต.ท.ทักษิณ ไปเทียบเคียงกับรูปหล่อของบูรพกษัตริย์ เนื่องจากมีการนำรูป พ.ต.ท.ทักษิณ ขนาดเท่าตัวจริงวางอยู่ตำแหน่งด้านหลังเป็นประธาน และนำรูปหล่อบูรพกษัตริย์มาตั้งบวงสรวง