ทร.ทำใจอุทกภัยทำวืดเรือดำน้ำ เหตุต้องใช้งบฟื้นฟูประเทศ

ผบ.ทร.เผย น้ำท่วมกระทบงบประมาณ ส่อแห้วซื้อเรือดำน้ำเยอรมนี เหตุต้องใช้งบฟื้นฟูประเทศหลังน้ำลด นัดประชุมแบ่งพื้นที่ 23 พ.ย.นี้

พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเรืองรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานวันคล้ายวันสถาปนาครบรอบ 105 ปีกองทัพเรือ ว่า นับตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เปิดโรงเรียนนายเรือตั้งแต่วันที่ 20 พ.ย.2479 ปัจจุบันเราจะสร้างกองทัพเรือให้มีความเข้มแข็ง เพื่อให้สามารถดำเนินการรบได้ 3 มิติ และบูรณาการการปฏิบัติการร่วมกับ 3 เหล่าทัพ เพื่อสร้างความเข้มแข็งแสวงประโยชน์ร่วมกันในการปกป้องประเทศชาติ

ส่วนการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม นอกจากการใช้เรือและการผลิตเครื่องผลักดันน้ำด้วยระบบวอเตอร์เจ็ต ที่สามารถกำหนดทิศทางน้ำในคลองสาขาต่างๆ ได้ดีขึ้นแล้วเรายังช่วยเหลือประชาชนที่ยังประสบปัญหาน้ำท่วมขังเป็นระยะเวลานาน โดยประสานกับภาคเอกชนในการจัดรถ และเรืออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการสัญจรไปมา โดยทุกเหล่าทัพพยายามระดมสรรพกำลังเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน และเมื่อสถานการณ์น้ำลดลงมากขึ้น จะทำให้การฟื้นฟูต่างๆ สามารถทำได้รวดเร็วมากขึ้น และสามารถปรับเข้าสู่สภาวะปกติได้เร็วขึ้น ซึ่งเรื่องการฟื้นฟู รมว.กลาโหม จะประชุมเพื่อวางแผนและแบ่งมอบพื้นที่ในวันที่ 23 พ.ย.นี้ ซึ่งคงจะรวมถึงงบประมาณที่จะใช้ในการฟื้นฟูด้วย

พล.ร.อ.สุรศักดิ์ กล่าวว่า โครงการจัดซื้อเรือดำน้ำ ปัจจุบันทางกระทรวงกลาโหมให้พิจารณาถึงสถานภาพ และสถานการณ์ภัยพิบัติที่จะส่งผลกระทบรวมถึงงบประมาณด้วย โดยให้พิจารณาด้วยความรอบคอบ ซึ่งขณะนี้กองทัพเรือกำลังดำเนินการอยู่ ส่วนที่ขณะนี้เลยกำหนดเส้นตายของกองทัพเรือเยอรมนี การซื้อเรือดำน้ำนั้น ทางกองทัพเรือเยอรมนีจะเป็นผู้ตัดสินใจ ซึ่งเราได้ยื่นเวลาถึงวันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา แต่ความต้องการของกองทัพเรือต้องสามารถรบได้ทั้ง 3 มิติ ซึ่งเรายังคงความต้องการอยู่ และต้องปฏิบัติต่อไปเพื่อให้ศักยภาพกองทัพเข้มแข็ง ทัดเทียมกับนานานประเทศ โดยเฉพาะเพื่อนบ้านเราดำรงไว้ซึ่งความจำเป็น โดยเราได้มีการฝึกและเตรียมการ ทั้งนี้ กลาโหมสั่งให้เราทบทวนและพยายามหาวิธีที่ดีที่สุด เหมาะสมที่สุด

ผู้สื่อข่าวถามว่า เสียดายหรือไม่หากเยอรมนีขายเรือดำน้ำให้ประเทศอื่น พล.ร.อ.สุรศักดิ์ กล่าวว่า ไม่มีทางเลือก ทั้งนี้ กองทัพเรือไม่ได้ดูแบบอื่นหรือประเทศอื่นไว้ เนื่องจากอุทกภัยจะส่งผลกระทบต่องบประมาณก้อนใหญ่ กลาโหมจึงอยากให้กองทัพเรือพิจารณาให้รอบคอบ