xs
xsm
sm
md
lg

กองทัพเรือสัตหีบจัดกิจกรรมรำลึกวันกองทัพเรือ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา - ทหารเรือในพื้นที่อำเภอสัตหีบ ร่วมจัดพิธีทำบุญตักบาตร เพื่ออุทิศส่วนกุศลแด่ดวงพระวิญญาณพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ผู้ทรงเป็นรากฐานกองทัพเรือไทย

ที่บริเวณลานมะรีน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน กองทัพเรือ ค่ายกรมหลวงชุมพร อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี พลเรือตรี เวทย์วีระ ทรงวรวิทย์ รองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน เป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง แด่พระสงฆ์ 24 รูป ร่วมกับผู้บังคับบัญชาหน่วยขึ้นตรง ข้าราชการ และครอบครัว เพื่อรำลึกและอุทิศส่วนกุศลแด่ดวงพระวิญญาณพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ผู้ทรงเป็นรากฐานกองทัพเรือไทย ในครั้งทรงเสด็จพระราชดำเนินมาทรงเปิดโรงเรียนนายเรือ เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2449 กองทัพเรือ จึงได้ถือเอาวันที่ 20 พฤศจิกายนของทุกปี เป็นวันกองทัพเรือ

และในโอกาสพิธีมหาอันเป็นกุศล พระครูวิศาลธรรมากร เจ้าอาวาสวัดเทพประสาท (วัดเตาถ่าน) ประธานฝ่ายสงฆ์ ประธานสงฆ์ พร้อมคณะสงฆ์ที่เดินทางเข้าร่วมรับบิณฑบาต ได้มีมติเห็นพร้องที่จะนำสิ่งของที่รับบิณฑบาตทั้งหมด ส่งมอบให้กับศูนย์พักพิงช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยต่อไป

ส่วนที่หน้ากองบัญชาการ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง กองทัพเรือ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี นาวาเอก สมชาย ณ บางช้าง รองผู้บัญชาการ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง กองทัพเรือ (รอง ผบ.สอ.รฝ.) พร้อมผู้บังคับบัญชาหน่วยขึ้นตรงและเหล่าข้าราชการในสังกัด ได้ตั้งแถวรับฟังสารจาก พลเรือเอก สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) เนื่องในวันกองทัพเรือ ผ่านทางคลื่นวิทยุกองทัพเรือ

โดยวันดังกล่าวเหล่าทหารเรือ จะพร้อมใจรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ผู้ทรงก่อตั้งโรงเรียนนายเรือ อันเป็นรากฐานให้กับกองทัพเรือไทย ที่นับเป็นจุดเริ่มต้นของการทหารเรือไทยตามแบบตะวันตก ก่อกำเนิดเป็นกองทัพเรือที่ทันสมัยเข้มแข็ง และมีวิวัฒนาการเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

นอกจากนั้น นาวาเอก สมชาย ณ บางช้าง รองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง กองทัพเรือ ยังได้เป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 50 รูป ร่วมกับข้าราชการ และครอบครัว เพื่อรำลึก และอุทิศส่วนกุศลแด่ดวงพระวิญญาณ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5)

ทั้งนี้ กองทัพเรือไทย มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน หากย้อนไปในสมัยโบราณที่ยังมิได้มีการแบ่งแยกกำลังรบทางเรือออกจากทางบก จวบจนรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงเริ่มมีการแบ่งแยกกำลังรบทางเรือออกจากทางบก เมื่อครั้งเริ่มแรกตั้งกรมทหารเรือนั้น กิจการทหารเรือบางประเภทยังขาดบุคคลที่มีความรู้ความชำนาญ จำเป็นต้องจ้างชาวต่างประเทศเข้ามารับราชการตามตำแหน่งหน้าที่ต่างๆ

อาทิ ผู้บังคับการเรือ และผู้บัญชาการป้อมต่างๆ ต่อมาภายหลังเหตุการณ์ รศ.112 (พ.ศ.2436) พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำริว่า กิจการของทหารเรือเท่าที่อาศัยชาวต่างประเทศเข้ามาประจำตำแหน่งหน้าที่ต่างๆ นั้น ไม่อาจที่จะหวังในด้านการรักษาอธิปไตยของชาติได้ดีเท่ากับคนไทยเอง

พระองค์มีพระราชประสงค์ให้จัดการศึกษาแก่ทหารเรือไทย ให้มีความรู้ความสามารถเพียงพอที่จะรับตำแหน่งหน้าที่ต่างๆ ในเรือแทนชาวต่างชาติ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ นายพลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ (เสด็จเตี่ย) พระราชโอรส เสด็จไปทรงศึกษาวิชาการทหารเรือยังประเทศอังกฤษ

ภายหลังจากที่ทรงสำเร็จการศึกษาวิชาการทหารเรือ และกลับมารับราชการในกรมทหารเรือ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กรมทหารเรือ จัดการฝึกสอนวิชาการทหารเรือขึ้น โดยเริ่มตั้งโรงเรียนขึ้นครั้งแรกที่บริเวณอู่หลวงใต้วัดระฆัง ตรงข้ามท่าราชวรดิฐ

สำหรับอบรมนายทหารชั้นประทวน หรือฝ่ายช่างกล และเดินเรือ ต่อมาในปี พ.ศ.2434 ได้ตั้งโรงเรียนนายสิบขึ้น และในปี พ.ศ.2440 ได้จัดตั้งโรงเรียนนายร้อยทหารเรือขึ้นอีกโรงเรียนหนึ่ง จนถึงปี พ.ศ.2442 ได้จัดตั้งโรงเรียนนายเรือ มีที่ตั้งอยู่ ณ วังนันทอุทยาน (สวนอนันต์) มีนายนาวาโท ไซเดอลิน (Seidelin) เป็นผู้บังคับการโรงเรียนนายเรือเป็นคนแรก

ต่อมาในปี พ.ศ.2443 เมื่อสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมจักรพรรดิพงศ์ สิ้นพระชนม์ พระราชวังเดิม กรุงธนบุรี ซึ่งเป็นที่ประทับได้ว่างลง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาพระราชทาน พระราชวังเดิม กรุงธนบุรี ให้เป็นที่ตั้งของโรงเรียนนายเรือ ตั้งแต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2443 เป็นต้นมา กับได้พระราชทานพระราชหัตถเลขาในสมุดเยี่ยมของโรงเรียน ความว่า วันที่ 20 พฤศจิกายน ร.ศ.125 เราจุฬาลงกรณ์ ปร.ได้มาเปิดโรงเรียนนี้ มีความปลื้มใจ ซึ่งได้เห็นการทหารเรือ มีรากหยั่งลงแล้ว จะเป็นที่มั่นสืบต่อไปในภายหน้า ทางราชการทหารเรือ จึงได้ถือเอาวันที่ 20 พฤศจิกายน ของทุกปี เป็นวันกองทัพเรือตราบจนปัจจุบัน





กำลังโหลดความคิดเห็น