xs
xsm
sm
md
lg

“สุกำพล” คาดกู้ถนน 340 เสร็จเย็นนี้-เล็งวางบิ๊กแบ็กอีก 1 พันถุงกู้ดอนเมือง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สภาพน้ำท่วมถนนหมายเลข 340 ขณะที่กำลังเร่งกู้ วานนี้(12พ.ย.)
รมว.คมนาคม คาดกู้ถนน 340 เสร็จเย็นนี้ มั่นใจไม่กระทบประชาชน เพราะระดับน้ำไม่สูงมาก พร้อมใช้ถุงทรายยักษ์อีก 1 พันถุงกั้นวิภาวดีขาเข้าหน้าดอนเมือง ก่อนเร่งสูบน้ำออกจากสนามบิน เผยหลังน้ำลดซ่อมแซมรันเวย์เสร็จใน 2 เดือน



เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 13 พ.ย. ที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงการกู้ถนนสาย 340 บางบัวทอง-สุพรรณบุรี เพื่อใช้เป็นเส้นทางลงภาคใต้ หลังจากจะปล่อยให้ถนนพระราม 2 เป็นเส้นทางที่น้ำไหลผ่านลงทะเลว่า การกู้สาย 340 ช่วงระหว่างหน้าหมู่บ้านสมบัติบุรี ซึ่งเป็นจุดที่น้ำขึ้นสูง เราดำเนินการเร่งสูบออก ซึ่งประชาชนไม่ค่อยเห็นด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ตนขอยืนยันว่าน้ำที่อยู่ในถนนนั้นมีปริมาณไม่มาก หากสูบออกไปแล้วจะไม่ทำให้เดือดร้อนเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่งเราเร่งสูบน้ำออกบ้างแล้ว คาดว่าภายในเย็นวันนี้ (13 พ.ย.) น่าจะสูบน้ำออกหมดเรียบร้อย

ผู้สื่อข่าวถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่าหากถนนพระราม 2 น้ำท่วมสูงสุด รถก็ยังสามารถสัญจรได้ พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า ตนคงตอบไม่ได้ว่าน้ำจะมีปริมาณสูงมากแค่ไหน แต่หากมีน้ำมาและผ่านไปแล้ว หรือระดับน้ำไม่สูงมากนัก เชื่อว่ารถจะสามารถสัญจรได้ ตนคาดว่าโอกาสที่น้ำจะท่วมขังนานเป็นไปได้น้อยมาก เนื่องจากเราได้เคลียร์ทางไว้เรียบร้อยแล้ว

เมื่อถามว่ายืนยันได้หรือไม่ว่าถนนสาย 340 รถเล็กจะสามารถสัญจรได้เมื่อใด พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า ตนคาดว่าภายในช่วงเย็นของวันนี้ (13 พ.ย.) บริเวณหน้าหมู่บ้านสมบัติบุรี คงจะเรียบร้อย หากจุดที่เรากู้อยู่สามารถสูบน้ำออกหมด ซึ่งขณะนี้ปัญหาอยู่ตรงที่ทราย เนื่องจากการขนส่งทรายเป็นไปด้วยความยากลำบาก ทรายจึงมาช้า จึงไม่ทันที่เราจะใช้ได้ทันเวลา การกู้ถนนเส้นนี้ เราต้องบอกว่าน้ำยังสามารถซึมเข้าถนนได้อยู่ เพราะมีความยาวถึง 700 เมตร ดังนั้น เราจะสูบให้แห้งทั้งเส้นคงเป็นไปไม่ได้ แต่หากมีน้ำบนพื้นผิวถนนบ้าง เราก็สามารถเปิดการจราจรได้แล้ว ส่วนถนนสาย 9 เราก็เร่งกู้ด้วย ยืนยันว่าจะทำให้เร็วที่สุด

เมื่อถามว่าการเคลียร์เส้นทางบนทางด่วนโทลล์เวย์ เพื่อให้การเดินทางสะดวกมากยิ่งขึ้น ได้ดำเนินการไปถึงไหนแล้ว พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า ขณะนี้ทางตำรวจกำลังเคลียร์อยู่ ซึ่งคาดว่าบนโทลล์เวย์น่าจะเคลียร์รถหมดแล้ว ส่วนด้านล่างทางกรมทางหลวงกำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งเรื่องนี้ดำเนินการได้วันละไม่กี่ชั่วโมง เนื่องจากมีประชาชนใช้รถมาก การดำเนินการตรงนี้จึงทำให้กีดขวางการจราจร เราจึงต้องเร่งทำในเวลากลางคืน จึงเป็นไปด้วยความล่าช้า

เมื่อถามว่าวางแผนในการกู้สนามบินดอนเมืองอย่างไรบ้าง พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า เมื่อวานเราได้มีการประชุมกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งฝ่ายบริหาร กระทรวงคมนาคม กทม. และทางท่าอากาศยาน ซึ่งเราได้หารือกันว่าถนนวิภาวดีขาเข้า ด้านหน้าท่าอากาศยานที่พังไป เราก็จะนำถุงทรายยักษ์ (บิ๊กแบ็ก) ไปวาง โดยใช้รถของกองทัพบกนำไปวาง โดยการนำรถแบ็กโฮขึ้นบนรถพ่วง เพื่อนำมาขนบิ๊กแบ๊กประมาณ 1,000 ถุง ไปวางตลอดแนว เพื่อเป็นการชะลอน้ำไม่ให้ห้ามเข้า จากนั้นการสูบน้ำออกนั้น ทางการท่าอากาศยานจะต้องเร่งซ่อมเครื่องสูบน้ำ 4 เครื่องที่จมน้ำอยู่ อย่างไรก็ตาม การสูบน้ำออกก็ต้องคำนึงถึงประชาชน เพราะหากเร่งสูบน้ำออกทาง กทม.จะมีปัญหาหรือไม่ เพราะน้ำที่ขังอยู่ในสนามบินดอนเมืองนั้นมีปริมาณมาก หรือจะปล่อยให้น้ำไหลออกตามธรรมชาติ จากนั้นเมื่อสูบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะต้องกู้ซ่อมแซมรันเวย์ ทั้งนี้ คาดว่าหากสนามบินแห้งแล้ว การกู้รันเวย์เพื่อให้เครื่องบินขึ้นลงได้นั้น คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 60 วัน

พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวยืนยันถึงกระแสข่าวชาวบ้านที่อยู่เหนือแนวคันบิ๊กแบ็กไม่พอใจและต้องการที่จะให้รื้อบิ๊กแบ็กออกว่า ตนขอทำความเข้าใจว่าระดับน้ำเหนือบิ๊กแบ็ก สูงกว่าข้างในบิ๊กแบ็กจริง แต่ที่สูงกว่าไม่ใช่เพราะเราสูบน้ำออกแต่อย่างใด การที่เราวางบิ๊กแบ๊กไม่ใช่เป็นการกั้นน้ำไม่ให้เข้า กทม.แต่อย่างใด เป็นเพียงแค่การชะลอน้ำเท่านั้น เพราะทุกวันนี้น้ำยังไหลเข้ามายัง กทม.อยู่ตลอดเวลา เพราะแนวบิ๊กแบ็กมีความยาว ซึ่งหากไม่มีรอยรั่วคงเป็นไปไม่ได้ แต่ทั้งนี้ระบบสูบน้ำทาง กทม.มีการสูบได้ดีขึ้น สูบได้มากขึ้น จึงทำให้น้ำข้างในบิ๊กแบ็กลดลงเร็ว ส่วนน้ำข้างนอกก็ลดลงบ้าง ดังนั้นเราจึงไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้น้ำจากข้างนอกบิ๊กแบ็กสูงขึ้น

เมื่อถามว่าจะมีการส่งเจ้าหน้าที่ไปทำความเข้าใจกับชาวบ้านบริเวณนั้นหรือไม่ พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า เราได้คุยกันหลายครั้งแล้ว แต่เป็นหน้าที่ของอีกฝ่าย ไม่ใช่หน้าที่ตน เพราะตนมีหน้าที่สร้างไม่ได้มีหน้าที่เจรจาแต่อย่างใด

สำหรับกรณีที่ กทม.มีข้อเสนอให้กู้ถนนเพชรเกษมอีกเส้นทางหนึ่ง เพื่อใช้ในการลงภาคใต้ จะได้หรือไม่ พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า ถนนเพชรเกษมนั้นเป็นเส้นที่ขวางทางน้ำ เป็นแนวตะวันตก-ตะวันออก ดังนั้นหากเรากู้จะส่งผลให้ด้านบนน้ำท่วมแน่นอน ดังนั้น การกู้ถนนในครั้งนี้เราไม่ใช่จะดูแค่ถนนเพียงอย่างเดียว แต่เราต้องดูเรื่องการจราจรและน้ำด้วย เราจึงกู้สาย 340เนื่องจากเป็นแนวเหนือ-ใต้ น้ำจึงจะไม่กระทบต่อประชาชนแน่นอน

ส่วนกรณีที่ทาง กทม.เร่งให้ ศปภ.ไปรื้อแบริเออร์บนถนนพระราม2 ออกให้หมด เนื่องจากขวางทางน้ำ พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า เรารื้อแน่นอน เรามีทีมในการรื้ออยู่แล้ว แต่ต้องรื้อเป็นจุดๆ หากน้ำมาจุดใด เราจึงจะรื้อ จะให้ไปรื้อออกหมดคงเป็นไปไม่ได้ เพราะมีระยะทางยาว

กำลังโหลดความคิดเห็น