“สุขุมพันธุ์” รับมึนประกาศอพยพพื้นที่พญาไทคืนที่ผ่านมา เผยลงพื้นที่ทั้งวันเลยผิดพลาดแต่ไม่เสียอาจทำให้ประชาชนเสียความรู้สึกไป 2 ชม. ย้ำจะเฝ้าติดตามการปรับใช้บิ๊กแบ๊กเป็นฝายน้ำล้น มั่นใจ กทม.จะรักษาเขตคลองสาน-ราษฎร์บูรณะ-ทุกครุ เป็นเขตปลอดน้ำท่วมได้
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาวานนี้สูงสุดอยู่ที่ 2.34 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง (ม.รทก.) คาดว่าวันนี้สูงสุดประมาณ 2.32 ม.รทก. และคาดว่าระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะลดลงเรื่อยๆ จนถึงปลายเดือนนี้ ส่วนระดับน้ำในคลองต่างๆ ส่วนใหญ่ลดลงและบางแห่งทรงตัว สำหรับปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่ต่างๆ เริ่มลดลงและบางพื้นที่แห้งแล้ว โดยเฉพาะบริเวณ 5 แยกลาดพร้าวซึ่งถือเป็นนิมิตหมายอันดี ส่วนถนนพระราม 2 ขณะนี้ยังไม่มีปัญหา ซึ่งได้นำเครื่องสูบน้ำไปติดตั้งแล้วทำให้ยังไม่มีน้ำเข้าพื้นผิวถนนน้ำ ได้แผ่ขยายแต่ไม่เร็วมากนัก
ทั้งนี้ กทม.เฝ้าติดตามสถานการณ์การปรับบิ๊กแบ็กเป็นฝายน้ำล้น โดยให้มีช่องทางให้ประชาชนสัญจรทางเรือ ขณะนี้ยังไม่เกิดผลกระทบที่ชัดเจน และจะต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์ต่อไป สำหรับฝั่งตะวันตก กทม.คาดว่าจะยังคงรักษา 3 เขตพื้นที่ ได้แก่ คลองสาน ราษฎร์บูรณะ และทุ่งครุ ให้เป็นเขตปลอดน้ำท่วมได้
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กล่าวด้วยว่า กรณีเกิดความผิดพลาดที่คืนวานนี้ (14 พ.ย.) ตนได้ประกาศให้พื้นที่เขตพญาไท ได้แก่ ซอยอินทามระฝั่งซ้าย ซอยประดิพัทธ์ฝังซ้าย และซอยวัดไผ่ตันเป็นพื้นที่อพยพนั้น เป็นความคลาดเคลื่อนโดยมีน้ำท่วมจริงแต่เป็นแค่บริเวณปลายซอยเท่านั้น ดังนั้น ตนจึงได้ลงนามยกเลิกประกาศดังกล่าวแล้ว และต้องขออภัยประชาชนด้วย ขณะเดียวกันได้กำชับให้ผู้อำนวยการเขตให้ตรวจสอบรายงานที่เสนอมาให้ละเอียด รอบคอบอย่างถี่ถ้วน ก่อนที่จะเสนอขึ้นมาอีกครั้ง
“ความผิดอยู่ที่ผม ผมมึนเองที่ออกพื้นที่ทั้งวัน ทุกคนต้องมีผิดพลาด หลักการทำงานของผมคือ ถ้าทำผิดก็ต้องรับผิด เข้าใจว่าทุกคนเหนื่อย เหนื่อยแล้วอาจจะเกิดความไม่รอบคอบบ้าง ส่วนจะเชื่อมั่นต่อหรือไม่นั้นก็ต้องถามประชาชน แต่ถึงจะผิดก็ไม่ได้เกิดความเสียหายมากมาย แต่แค่เสียความรู้สึก 2 ชั่วโมงครึ่ง ส่วนการขอรับเงินเยียวยา 5,000 บาทของรัฐบาลนั้น ไม่จำเป็นต้องถ่ายรูปเพื่อใช้เป็นหลักฐาน ทั้งนี้ขอให้ฝ่ายที่ไม่เกี่ยวข้องอย่าออกมาประกาศอะไรดีกว่า ซึ่งวานนี้ทางกระทรวงมหาดไทย (มท.) ยืนยันว่าไม่มีระเบียบข้อนี้” ผู้ว่าฯ กทม.กล่าว และว่า กทม.ได้ตั้งศูนย์ฟื้นฟูรวมกันเราทำได้ ที่เขตสายไหมขึ้นด้วย เพื่อฟื้นฟูพื้นที่ที่เกิดน้ำท่วม
รายงานข่าวแจ้งว่า การเปิดบิ๊กแบ็กนั้น ทำให้น้ำเข้าในกรุงเทพฯ กว่า 1 ล้านคิวต่อวัน ซึ่งส่งผลให้ระดับน้ำในคลองเปรมสูงขึ้นอีก 2 เซนติเมตรต่อวัน ยกตัวอย่างเช่น ถนนวิภาวดี-รังสิต น้ำจะลดลงภายใน 3 วัน กลับต้องใช้เวลาเป็น7 วัน นอกจากนี้ ส่งผลให้ในพื้นที่เขตดอนเมืองได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน โดยขณะนี้ปริมาณน้ำในเขตดอนเมืองลดลงและหากปริมาณน้ำในคลองรังสิตประยูรศักดิ์ลดก็จะทำให้สามารถระบายน้ำในเขตดอนเมืองลงคลองรังสิตฯ ได้ต่อไป