“ปู” โต้โพลชี้ ปชช.ไม่เชื่อมั่น-อ้างสู้น้ำเต็มที่แล้ว แต่หลายปัจจัยเป็นอุสรรค

“ปู” แจงแก้น้ำท่วมเต็มที่แล้ว แต่มีหลายปัจจัยเป็นอุปสรรค หลังโพลไม่เชื่อมั่น วอนสื่อเห็นใจ ไม่ได้ร้องไห้ แค่มีอารมณ์ร่วมชาวบ้านที่กำลังทุกข์ สั่ง มท.-กทม.เร่งเจรจามวลชนเหนือแนวถุงทรายยักษ์ หลังโดนขู่รื้อ ให้คำมั่นเร่งระบายน้ำใน 2 วัน ปัด ศปภ.สั่งลดความสูงคันบิ๊กแบ็ก ระบุสถานการณ์ดีขึ้นหลังน้ำเข้าสู่ระบบไหลลงคูคลอง

เมื่อเวลา 14.50 น.วันที่ 13 พ.ย. นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มวลชนที่อยู่เหนือแนวคันถุงทรายยักษ์ หรือ บิ๊กแบ็ก ขู่รื้อคันกั้นน้ำ เนื่องจากไม่พอใจปริมาณน้ำที่สูงถึง 1.30 เมตร ต่างจากด้านล่างแนวบิ๊กแบ็กที่ระดับน้ำแค่ 60 เซนติเมตร ว่า รัฐบาลได้คุยกับมวลชนและมีข้อตกลงร่วมกันแล้วว่า จะมีการเร่งสูบน้ำ เพราะความจริงแล้วการกั้นบิ๊กแบ็กไม่ได้ทำให้ระดับน้ำที่อยู่เหนือบิ๊กแบ็กสูงขึ้น เป็นเพียงแนวกั้นเฉยๆ แต่ประชาชนอาจจะรู้สึกว่า ฝั่งหนึ่งน้ำไม่ลดลง แต่อีกฝั่งน้ำลดลง ซึ่ง ศปภ.ได้มีการประสานงานกับ กทม.ในการเร่งระบายน้ำที่เหนือคันบิ๊กแบ็กให้เร็วขึ้น เชื่อว่า ประชาชนที่อยู่เหนือคันบิ๊กแบ็กเองก็เห็นด้วย เพราะทาง ศปภ.จะเร่งระบายน้ำให้เร็วขึ้นใน 1-2 วันนี้

เมื่อถามว่า โดยสรุปแล้วไม่มีการรื้อคันกั้นน้ำบิ๊กแบ็กตามที่ ส.ส.ในพื้นที่เสนอใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า มีการเสนอในที่ประชุม ว่า มวลชนจะขอให้เปิดคันบิ๊กแบ็กในวันจันทร์นี้ แต่ที่ประชุมเห็นว่า หากมีการเร่งระบายน้ำให้เร็วขึ้นก็จะไม่ส่งผลกระทบอะไร เมื่อถามว่า มีข่าว ศปภ.มีคำสั่งให้ลดระดับความสูงของบิ๊กแบ็กลงมาเหลือที่ 30 เซนติเมตร น.ส.ยิ่งลักษณ์ ปฏิเสธว่า ไม่มีคำสั่งตรงนี้ แต่เป็นการหารือกันทั้งหมดในที่ประชุมยังคงทำอยู่ และขณะนี้ยังไม่มีการรื้อ ขณะที่มวลชนรอเราก็จะเร่งสูบน้ำออกไป น้ำก็จะลดลงบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่อยู่เหนือบิ๊กแบ็กลงได้บ้าง

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการเยียวยาเป็นพิเศษสำหรับผู้ที่ออกนอกคันกั้นน้ำบิ๊กแบ็กหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า มีอยู่แล้ว ได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทย กทม.ช่วยกัน โดยหลักผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดถ้าประชาชนได้รับผลกระทบต้องไปดูแลเยียวยา เช่น การตั้งโรงครัว เสริมเรือในจุดต่างและการดูแลพี่น้องประชาชน ถือเป็นหน้าที่ เมื่อถามต่อว่า แต่บริเวณดังกล่าวมีระดับน้ำสูงมากจะเร่งระบายอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ก็เร่งระบายน้ำภายใน 2 วันนี้ เนื่องจากวันนี้ภาพรวมระดับน้ำมีแนวโน้มที่ลดลง ประกอบกับมีการเร่งระบายน้ำ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนบริเวณดังกล่าวจะรู้สึกดีขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามถึงการกู้ถนนสาย 340 เพื่อลงสู่ภาคใต้แทนถนนพระราม 2 ว่าจะดำเนินการอย่างไร เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมากขึ้น เนื่องจากพื้นที่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา ประชาชนก็ยังคงได้รับความเดือดร้อนอยู่ นายกฯ กล่าวว่า ทุกอย่างวันนี้คือ การเร่งระบายน้ำที่ประชุมร่วมกับ กทม.ก็ดีขึ้น เพราะว่าน้ำแต่ละพื้นที่ไม่ได้มีปริมาณมากขึ้น ขณะเดียวกันน้ำเริ่มไหลลงสู่คลองต่างๆ และการระบายน้ำก็ทำได้ดีขึ้น ทั้งฝั่งตะวันออก และฝั่งตะวันตก เชื่อว่า ตรงนี้จะทำให้ลดแรงจากมวลชน รวมถึงรัฐบาลจะลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับประชาชน เชื่อว่า ไม่มีปัญหาอยู่ได้

เมื่อถามว่า รู้สึกอย่างไรที่ผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั้งกทม.และปริมณฑลของสวนดุสิตโพล ที่ระบุว่า ขาดความเชื่อมั่นในการแก้ไขปัญหาน้ำของรัฐบาลที่ขาดประสิทธิภาพ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ขอกราบเรียนพี่น้องประชาชนว่า คณะทำงานทุกคนทำงานอย่างเต็มที่ แต่การทำงานบางครั้งมีข้อมูลใหม่ๆ หลายๆ อย่าง และปัจจัยต่างๆ แน่นอนการทำงานอาจจะเกิดการสับสน แต่จริงๆ แล้วคณะทำงานวันนี้เราทำงานเป็นเอกภาพพอสมควร จากการที่เราได้เรียนพี่น้องสื่อมวลชน และพี่น้องประชาชนในการระบายน้ำ ทั้งฝั่งตะวันออก และฝั่งตะวันตก วันนี้เราคิดว่า เรายันได้ระดับหนึ่งแล้ว น้ำจึงยังถึงแค่บริเวณบางซื่อ ถ้าเราไม่ได้ทำอะไรเลยอาจจะหนักกว่านี้ก็ได้ ตั้งใจทำอย่างเต็มที่

ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่โพลระบุว่า ไม่อยากให้นายกฯ ร้องไห้ เพราะจะเป็นการบั่นทอนความรู้สึกของผู้ประสบภัย นายกฯ กล่าวว่า ไม่ใช่ร้องไห้ สื่อมวลชนที่ไปด้วยก็จะเห็นว่า เป็นเพียงการไปเห็นพี่น้องประชาชนในจังหวัดนครสวรรค์ จากที่เราเห็นว่า มีความทุกข์แล้วกลับมาดีขึ้น มีความสุข มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ก็แน่นอนอารมณ์ร่วมที่ปลื้มใจต่างๆ มีเพียงหยดน้ำตาคลอเบ้าเท่านั้น

“สื่อมวลชนขอความกรุณาไม่ได้ยืนร้องไห้ ไม่ได้อ่อนแอ แต่ดิฉันเป็นมนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนหนึ่ง ก็ย่อมมีหัวอกหัวใจที่จะคิดถึงความทุกข์ยากของพี่น้องประชาชน กราบเรียบว่า ไม่ได้อ่อนแอ และจะตั้งใจทำงานรับใช้พี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่” น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว