xs
xsm
sm
md
lg

“สวนดุสิต” ชี้คนกรุงลดความเชื่อมั่นรัฐฯ-นายกฯ ปล่อยโฮไม่อ่อนแอแต่เสียภาพผู้นำ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หลั่งน้ำตาขณะปราศรัยต่อประชาชนที่ จ.นครสวรรค์ เมื่อ 5 พ.ย.54
“สวนดุสิตโพล” เผยคนกรุงเทพฯ-ปริมณฑลกว่าร้อยละ 60 เชื่อมั่นรัฐบาลลดลง เหตุแก้น้ำท่วมขาดประสิทธิภาพ ร้อยละ 59 เห็นว่านายกฯ ร้องไห้ไม่ได้แสดงความอ่อนแอ แต่กระทบภาพลักษณ์ผู้นำ บั่นทอนกำลังใจผู้ประสบภัย แนะควบคุมอารมณ์ให้ดีกว่านี้

วันนี้ (13.พ.ย.) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ได้เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเรื่องนายกรัฐมนตรีกับน้ำท่วม ในทัศนะของประชาชน โดยสอบถามคนกรุงเทพฯ และปริมณฑล พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 64.03 เห็นว่า ความเชื่อมั่นที่ประชาชนมีต่อรัฐบาลลดลง เพราะการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังขาดประสิทธิภาพ

ส่วนภาพที่นายกรัฐมนตรีร้องไห้นั้น ประชาชนร้อยละ 59.38 เห็นว่า ไม่ได้แสดงออกว่านายกรัฐมนตรีอ่อนแอ แต่ร้อยละ 40.62 เห็นว่า เป็นการแสดงออกถึงความอ่อนแอ อย่างไรก็ตาม ประชาชนร้อยละ 64.51 เห็นว่า การร้องไห้ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำของนายกรัฐมนตรี บั่นทอนกำลังใจของผู้ประสบภัย ดังนั้นนายกรัฐมนตรีจึงควรควบคุมอารมณ์ให้ดีกว่านี้

รายละเอียดผลการสำรวจความคิดเห็นจาก “สวนดุสิตโพล”

จากมหาอุทกภัยน้ำท่วมทำให้คนไทยและต่างประเทศต่างเฝ้าติดตามสถานการณ์ข่าวคราวความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ข่าว นายกฯ ร้องไห้ กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความอ่อนแอ ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การเป็นผู้นำประเทศ “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต จึงได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนที่อาศัยอยู่ ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 1,357 คน ระหว่างวันที่ 8-12 พฤศจิกายน 2554 สรุปผลได้ดังนี้

1. จากกรณี “น้ำท่วม” มีผลต่อการติดตามข่าวสารของประชาชนอย่างไร?

อันดับ 1 ติดตามข่าวสารมากขึ้น 85.29%
เพราะอยากรู้ข่าวคราวความเคลื่อนไหวต่าง ๆ เกี่ยวกับน้ำท่วมทั้งในเขตที่อาศัยอยู่และพื้นที่อื่นๆ ฯลฯ

อันดับ 2 ติดตามข่าวสารเท่าเดิม 10.43%
เพราะติดตามข้อมูลข่าวสารเป็นประจำ จะได้รู้ทันสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นประจำวัน ฯลฯ

อันดับ 3 ติดตามข่าวสารน้อยลง 4.28%
เพราะข่าวน้ำท่วมทำให้เกิดความเครียด วิตกกังวล, ไม่สะดวกในการติดตามข่าวเนื่องจากที่บ้านถูกตัดไฟ, อาศัยอยู่กับคนอื่น ฯลฯ

2. “สื่อ/แหล่งข่าว” ที่ประชาชนเชื่อมั่น หรือเชื่อถือมากที่สุดในการติดตามข่าว “น้ำท่วม”

อันดับ 1 โทรทัศน์ 78.06%
อันดับ 2 อินเทอร์เน็ต /เว็บไซต์ 9.44%
อันดับ 3 หนังสือพิมพ์ 7.40%
*อื่นๆ ได้แก่ วิทยุ ,สื่อบุคคล เช่น เพื่อน/คนรอบข้าง, ผู้นำชุมชน, เจ้าหน้าที่ฯ, ข้อความทางมือถือ ฯลฯ 5.10%

3.จากกรณี “น้ำท่วม” ณ วันนี้ ประชาชนมีความเชื่อมั่นต่อรัฐบาล มากน้อยเพียงใด?

อันดับ 1 เชื่อมั่นลดลง 64.03%
เพราะการบริหารจัดการ การประสานความร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมยังขาดประสิทธิภาพ ฯลฯ

อันดับ 2 เชื่อมั่นเหมือนเดิม 30.78%
เพราะรัฐบาลได้ทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถแล้ว น้ำท่วมครั้งนี้เป็นมหาอุทกภัยที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ฯลฯ

อันดับ 3 เชื่อมั่นมากขึ้น 5.19%
เพราะสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่เริ่มคลี่คลาย พอที่จะควบคุมได้บ้าง, การจัดตั้งคณะทำงานที่มีความรู้ความสามารถ เข้ามาทำงานแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ฯลฯ

4. จากข่าวที่นำเสนอภาพ นายกฯ “ร้องไห้” ถือว่าเป็นการแสดงถึงความอ่อนแอหรือไม่?

อันดับ 1 ไม่อ่อนแอ 59.38%
เพราะ เมื่อเจอสถานการณ์เช่นนี้ไม่ว่าจะเป็นหญิง หรือชาย ก็อาจจะแสดงอารมณ์อ่อนไหวออกมาได้เหมือนกัน, เป็นน้ำตาจากความเห็นอกเห็นใจมากกว่าเกิดจากความอ่อนแอ ฯลฯ

อันดับ 2 อ่อนแอ 40.62%
เพราะเป็นธรรมชาติของผู้หญิงที่มีความรู้สึกอ่อนไหว เปราะบาง โดยเฉพาะเมื่อเผชิญกับสถานการณ์หรือภาวะที่กดดัน กระทบกระเทือนต่อจิตใจ ฯลฯ

5. การร้องไห้ของนายกฯ ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ หรือความเป็นผู้นำของประเทศหรือไม่?

อันดับ 1 ส่งผลกระทบ 64.51%
เพราะเป็นการบั่นทอนขวัญและกำลังใจของคนไทยโดยเฉพาะผู้ประสบภัย, ทั้งคนไทยและต่างประเทศขาดความเชื่อมั่น, ในฐานะผู้นำประเทศควรควบคุมอารมณ์ให้ดีกว่านี้ ฯลฯ

อันดับ 2 ไม่ส่งผลกระทบ 35.49%
เพราะเป็นแค่การแสดงออกทางอารมณ์ คิดว่าคนส่วนใหญ่คงจะเข้าใจว่าสถานการณ์น้ำท่วมในขณะนี้เป็นอย่างไร ฯลฯ

6. จากกรณี “น้ำท่วม” ณ วันนี้ ประชาชนมีความเชื่อมั่นต่อนายกฯ ยิ่งลักษณ์ มากน้อยเพียงใด?

อันดับ 1 เชื่อมั่นลดลง 53.12%
เพราะสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ยังอยู่ในภาวะวิกฤต ไม่สามารถบริหารจัดการหรือแก้ไขปัญหาน้ำท่วมได้ ฯลฯ

อันดับ 2 เชื่อมั่นเหมือนเดิม 39.77%
เพราะเป็นปัญหาใหญ่ที่ยากต่อการแก้ไขและต้องใช้เวลาพอสมควรที่จะบรรเทาปัญหาให้ดีขึ้นได้, ไม่ว่าใครจะมาเป็นนายกฯ ในตอนนี้ก็ต้องประสบปัญหาแบบนี้เช่นเดียวกัน ฯลฯ

อันดับ 3 เชื่อมั่นมากขึ้น 7.11%
เพราะดูจากความตั้งใจและความกระตือรือร้นที่จะแก้ไขปัญหาน้ำท่วม, การลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและเข้าถึงผู้ประสบภัยอย่างใกล้ชิด ฯลฯ

7. ระหว่าง “รัฐบาล” กับ “นักวิชาการ” และ “สื่อมวลชน” ท่านเชื่อข้อมูล “น้ำท่วม” ของใคร? มากกว่ากัน

อันดับ 1 เชื่อ “สื่อมวลชน” มากกว่า 33.42%
เพราะมีหน้าที่นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ข้อเท็จจริงต่างๆให้กับประชาชนได้รับรู้ การรายงานข่าวแบบเกาะติดสถานการณ์ สะท้อนเนื้อหาในแง่มุมที่หลากหลายและลงไปในพื้นที่จริง ฯลฯ

อันดับ 2 เชื่อ “พอๆ กัน” 23.45%
เพราะ แต่ละฝ่ายน่าจะมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในแง่มุมที่แตกต่างกัน, สถานการณ์เช่นนี้เชื่อว่าทุกฝ่ายน่าจะหาหนทางในการแก้ไขปัญหามากกว่าจะมาขัดแย้งกันเอง ฯลฯ

อันดับ 3 เชื่อ “นักวิชาการ” มากกว่า 22.64%
เพราะเป็นผู้ที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน, ข้อมูลต่างๆ ที่นำเสนอสามารถอ้างอิงตามหลักวิชาการได้ ฯลฯ

อันดับ 4 ไม่เชื่อใครเลย 12.67%
เพราะข้อมูลสับสน ไม่ตรงกัน, ไม่เห็นมีใครจะแก้ปัญหาได้จริง, เชื่อจากประสบการณ์หรือสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองมากกว่า ฯลฯ

อันดับ 5 เชื่อ “รัฐบาล” มากกว่า 7.82%
เพราะข้อมูลต่างๆ ที่รัฐบาลได้รับล้วนมาจากหน่วยงานสำคัญและเป็นหน่วยงานหลักที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับเรื่องน้ำท่วม ฯลฯ
กำลังโหลดความคิดเห็น