xs
xsm
sm
md
lg

ทักษิณคิด-ยิ่งลักษณ์กับเพื่อไทยทำ เสื่อมเร็วเกินคาด!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผ่าประเด็นร้อน

ทำไปทำมาสิ่งที่คิดว่าจะเป็น “ภาพบวก” ช่วยเป็นแรงส่งให้รัฐบาลพรรคเพื่อไทยภายใต้การนำของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีความมั่นคงสร้างความเชื่อมั่นให้กับชาวบ้านรวมไปถึงสังคมภายนอก กลายเป็นว่าเวลานี้ทำท่าจะออกมาในทางตรงกันข้ามเสียแล้ว

กรณีการเคลื่อนไหวของ ทักษิณ ชินวัตร ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งในกรณีการขอวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่น ข่าวการนำนักธุรกิจมาเจรจาเรื่องธุรกิจพลังงานด้านน้ำมันและก๊าซในพื้นที่ทับซ้อนระหว่างไทย-กัมพูชาในอ่าวไทย หรือแม้แต่ข่าวการคืนหนังสือเดินทางหรือ “พาสปอร์ตสีแดง” ล้วนทำให้เสียความรู้สึกอย่างไม่น่าเชื่อ

ล่าสุดยังมีการบรรจุเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญใน “นโยบายเร่งด่วน” ของรัฐบาลเข้ามาอีก มันก็ยิ่งไปกันใหญ่ เพราะทุกเรื่องที่ออกมาล้วนทำให้คนทั่วไปเข้าใจได้ดีว่า ทำเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวของทักษิณ ชินวัตร เท่านั้น กลายเป็นว่า สิ่งที่เคยบอกว่า “ทำทันที” นั้น ไม่ได้เกี่ยวกับชาวบ้านเลยแม้แต่น้อย หรืออย่างมากก็ “ให้รอไปก่อน”

ความรู้สึกและความเข้าใจดังกล่าวไม่ใช่พูดหรือคิดขึ้นมาเอง แต่สะท้อนตรงกันผ่านทางผลสำรวจจากสำนักต่างๆล้วนออกมาตรงกัน รวมไปถึงบทวิเคราะห์จากสื่อต่างประเทศก็มีทัศนะแบบเดียวกัน ออกมาในเชิง “รู้ทัน” ทำให้เสียงวิจารณ์ดังกระหึ่มผิดคาด

อย่างไรก็ดี สิ่งที่กลายเป็นประเด็นใหญ่และอ่อนไหวต่อความรู้สึกของชาวบ้านที่มีความระแวงมาก่อนหน้านี้อยู่แล้ว มีอยู่สองเรื่องหลักก็คือ ข่าวการนำนักธุรกิจต่างประเทศเข้ามาเจรจาแบ่งผลประโยชน์ในเรื่องธุรกิจด้านน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในพื้นที่ทับซ้อนระหว่างไทย-กัมพูชาในอ่าวไทย และเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่บรรจุเป็นนโยบาย “เร่งด่วน” ของรัฐบาล

ทั้งสองเรื่องล้วนเป็นเรื่องที่ชาวบ้าน “รู้ทัน” เกิดความหวาดระแวงและจับตา

มองอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้วว่าถ้ามีโอกาสจะต้องทำแบบนี้อยู่แล้ว เพียงแต่คาดไม่ถึงว่าจะกล้าลงมือรวดเร็วถึงเพียงนี้ เพราะไม่ว่ามองในมุมไหนล้วนเป็นเรื่อง “ผลประโยชน์ส่วนตัว” ถูกมองไปในทางลบว่ากำลังใช้อำนาจรัฐ “ครอบงำ” ผ่านทางรัฐบาลที่มีน้องสาวของตัวเองเป็นนายกรัฐมนตรีใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบ

ภาพที่ออกมาในแง่ลบดังกล่าวได้สะท้อนผ่านทางผลสำรวจความคิดเห็นของชาวบ้านผ่านทางสำนักต่างๆล้วนออกมาตรงกันว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม และเตือนให้ ทักษิณ หยุดพฤติกรรมดังกล่าวทันที พร้อมทั้งให้โอกาสนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้พิสูจน์ฝีมือด้วยตัวเอง

อย่างไรก็ดี ความรู้สึกที่เกิดขึ้นผ่านทางผลสำรวจดังกล่าวถือว่าน่าแปลกใจไม่น้อย เพราะก่อนหน้านี้ในช่วงพรรคเพื่อไทยหาเสียงเลือกตั้ง และมีการผลักดันให้น้องสาวคือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กระโดดลงสู่สนามการเมืองและใช้ประสบการณ์เพียงแค่ 40 กว่าวันเท่านั้นสามารถ “สร้างกระแส” จนเอาชนะพรรคประชาธิปัตย์ที่นำโดยอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อย่างถล่มทลาย ซึ่งในตอนนั้นมีการรณรงค์กันอย่างเต็มที่ว่า “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ” รวมไปถึงหากต้องการให้ ทักษิณ กลับบ้านก็ต้องเลือกพรรคเพื่อไทยเข้ามาเยอะๆ ซึ่งก็ได้ผล

ขณะเดียวกัน ด้วยภาพลักษณ์ที่ถูกนำมาตอกย้ำอยู่ตลอดเวลาว่า ทักษิณเป็นคนที่สามารถทำให้รายได้ของชาวบ้าน และมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จึงทำให้เกิดความเชื่อมั่นว่าเขาจะเป็นบันดาลให้ได้ทุกอย่าง

ภาพที่ปรากฏออกมาในแง่ลบดังกล่าว มันก็ทำให้มีการประเมินได้ทันทีว่าอาจเป็นเพราะทำให้ “เสียความรู้สึก” แม้นาทีนี้อาจยังไม่ถึงขั้นที่เรียกว่า “ทรยศต่อความไว้วางใจ” เพียงอยู่ในขั้นเริ่มต้น ผ่านมาได้ไม่ถึงเดือน แต่ภาพความเคลื่อนไหวที่ออกล้วนออกมาในทาง “ผลประโยชน์ส่วนตัว” เข้ามาแทรกแซงสั่งการรัฐบาลให้ทำตามความต้องการ ขณะที่นโยบายเร่งด่วนที่เคยรับปากเอาไว้ช่วงตอนหาเสียง ที่เกี่ยวกับเรื่องปากท้องกลับทำท่าให้เห็นว่าจะมีการ “บิดพลิ้ว” หรือทำไม่ได้ทันที ทำไม่ได้ทั้งหมด เหมือนกับว่าเรื่องของทักษิณมาก่อน ขณะที่เรื่องของชาวบ้านค่อยว่ากันทีหลัง

นอกจากนี้ สิ่งที่เริ่มทำให้ความรู้สึกของชาวบ้านเริ่มเปลี่ยนไปก็น่าจะมาจากความเคลื่อนไหวที่จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยบรรจุเป็น “นโยบายเร่งด่วน” ของรัฐบาลหน้าตาเฉย จนเกิดเป็นคำถามว่า เป็นความเร่งด่วนเพื่อทักษิณ ใช่หรือไม่ เพราะไม่ว่ามองในมุมไหนชาวบ้านไม่เห็นได้ประโยชน์ตรงไหน ขณะเดียวกันอีกด้านหนึ่งก็มองเห็นอย่างชัดเจนว่านี่คือกระบวนการที่จะหาทางลบล้างความผิด และกลับเข้ามามีอำนาจทางการเมืองอีกครั้ง

ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น มันก็ไม่น่าเชื่อว่าจะทำให้ความรู้สึกของชาวบ้านเปลี่ยนไปในทางลบได้เร็วเกินคาด แต่มันก็ช่วยไม่ได้ เพราะในเมื่อไม่แคร์ต่อความรู้สึก คิดว่าคนอื่นรู้ไม่ทัน อดใจไม่ไหวชิงเปิดเกมรุกตั้งแต่ต้นมือ มันก็ย่อมเกิดปฏิกิริยาต่อต้านกลับมาทันทีเหมือนกัน แต่ที่น่าหนักใจก็คือ เมื่อบรรยากาศเกิดความระแวงเกิดขึ้นไม่เหมือนก่อน ก็น่าเป็นห่วงว่ารัฐบาลที่ถูกมองว่าเป็น “โคลนนิ่ง” จะเดินหน้าต่อไปได้อย่างไร!!
กำลังโหลดความคิดเห็น