“ยิ่งลักษณ์” มอบ “เฉลิม” นั่งหัวโต๊ะประชุม ครม.หลังต้องนอนค้างสิงห์บุรี เหตุเฮลิคอปเตอร์ไม่มีเรดาร์ บินกลับกลางคืนไม่ได้ จับตาที่ประชุมถกรื้อบิ๊กแบ็กจากข่าว ส.ส.เพื่อไทยมีเอี่ยว พร้อมตรวจสอบ “ประชา” ให้รายละเอียดนายกฯ ไม่ชัด จนเกิดความสับสนในการให้ข่าว ขณะที่การรื้อบิ๊แบ็กส่งผลกระทบแล้ว ถ.วิภาวดีฯ-ห้าแยกลาดพร้าว น้ำเริ่มเอ่อท่วม รถเล็กสัญจรได้ ส่วนถนนพระราม 2 ยังไม่ท่วม แต่ซอย 69 น้ำสูง 1-1.20 เมตร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (15 พ.ย.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ยังอยู่ในระหว่างเดินทางกลับกรุงเทพฯ หลังจากวานนี้ (14 พ.ย.) ได้นอนค้างคืนที่ จ.สิงห์บุรี เนื่องจากเฮลิคอปเตอร์ไม่มีเรดาร์ และไม่รับรองในความปลอดภัยขณะเดินทางกลับในตอนกลางคืน ได้มอบหมายให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุมแทน ทั้งนี้ เรื่องที่ต้องติดตามยังคงเป็นเรื่องของการแก้ปัญหาน้ำท่วม
โดยเชื่อว่าที่ประชุม ครม.จะมีการสอบถามกรณีการรื้อบิ๊กแบ็กย่านดอนเมืองกันอย่างแน่นอน เนื่องจากมีนักการเมืองพรรคเพื่อไทยเข้าไปร่วม ซึ่งจะกระทบต่อภาพลักษณ์การบริหารจัดการของรัฐบาลต่อสายตาประชาชน นอกจากนี้ คงจะมีการสอบถาม พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการ ศปภ. ที่กำลังถูกจับตาหลังมีกระแสข่าววงใน ศปภ. ว่านายกรัฐมนตรีไม่สบายใจที่ไม่ให้รายละเอียดชัดเจนว่าเหตุการณ์เป็นมาอย่างไร ทำให้เกิดความสับสนในการให้ข่าว
ส่วนวาระ ครม.วันนี้ คงมีการรายงานการแก้ปัญหาน้ำท่วม และพิจารณาร่วมงานกับทีมผู้เชี่ยวชาญเนเธอร์แลนด์ระยะยาวหรือไม่ หรือจะรอเวลาหาตัวเลือกจ้างทีมงานต่างชาติอื่น
นอกจากนี้ คณะกรรมการเพื่อให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย (กฟย.) เสนอ ครม. เห็นชอบแนวทางการฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย 3 รายการ ใช้งบประมาณฟื้นฟูรวม 18,441.01 ล้านบาท อาทิ การฟื้นฟูท่าอากาศยานดอนเมือง การฟื้นฟูสถานศึกษาในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ หลังจากระดับน้ำลดลง 34 จังหวัด รวม 799 แห่ง เพื่อให้ทันต่อการเรียนการสอนก่อนเปิดภาคเรียนใหม่ช่วงปลายเดือน พ.ย.นี้
ขณะเดียวกัน ครม.จะอนุมัติกรอบเงินชดเชยประชาชน หลังจาก ครม.ครั้งที่แล้ว ได้อนุมัติกรอบชดเชยครัวเรือนละ 5,000 บาทให้ประชนชนเขตกรุงเทพฯ ที่ประสบภัยน้ำท่วม โดบกสน ครม.วันนี้ จะพิจารณาให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในเขตพื้นที่อื่นทั้ง 27 จังหวัด ใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2554 ซึ่งเป็นงบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพิ่มเติมของกระทรวงมหาดไทย วงเงินรวม 11,461.01 ล้านบาท จากผู้ที่ประสบภัยอีกกว่า 2 ล้านครัวเรือน
สำหรับสถานการณ์น้ำเข้าวันนี้ บริเวณถนนวิภาวดีรังสิต ตั้งแต่ห้าแยกลาดพร้าว จนไปถึงคลองบางซื่อ เริ่มมีน้ำเอ่อขึ้นในบางจุด โดยเฉพาะที่หน้าตึกอีสวอเตอร์ น้ำเริ่มขยายเป็นวงกว้าง โดยได้ท่วมพื้นที่ถนนเกือบเต็มทั้ง 4 เลน ในช่องคู่ขนานแล้ว แต่ระดับน้ำยังไม่สูงมากนัก
ขณะที่ บริเวณห้าแยกลาดพร้าว น้ำที่ลดลงเมื่อวานนี้ กลับมาเอ่อท่วมเพิ่มขึ้นเล็กน้อย รถขนาดเล็กยังสามารถสัญจรไปมาได้ เช่นเดียวกับที่ถนนวิภาวดีรังสิต อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าสาเหตุที่น้ำกลับมาเอ่อท่วมอีกครั้ง คาดว่าน่าจะมาจากการรื้อบิ๊กแบ็ก
ส่วนสถานการณ์น้ำบริเวณ ถนนพระราม 2 ซอย 69 ตั้งแต่เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (15 พ.ย.) พบว่า ระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยระดับน้ำในซอยสูงเฉลี่ย 1-1.20 เมตร ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้ให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่กันอย่างเต็มที่
กองบังคับการตำรวจจราจรแจ้งน้ำท่วมขัง ถ.พระราม2 ซ.69 น้ำได้เข้าท่วมล้อมห้างโลตัส ทางด้านหน้าห้างน้ำสูง 30 ซม. ด้านบริเวณหลังห้าง 40 ซม. ขณะที่ถนนสายหลักยังวิ่งได้ตามปกติ
ถนนคู่ขนานมอเตอร์เวย์ร่มเกล้า มีระดับน้ำท่วมขังสูง 5 ซม. รถเล็กผ่านได้ แต่ผิวการจราจรชำรุดเป็นหลุมเป็นบ่อ ทำรถผ่านได้ช้า
ขณะที่รอบวงเวียนบางเขน ระดับน้ำลดลงเหลือ 40 ซม. รถเล็กยังผ่านไม่ได้/รอบแยกเกษตร ระดับน้ำลดลง 2 ซม. เหลือ 40 ซม. รถเล็กยังผ่านไม่ได้