ASTVผู้จัดการรายวัน - “สุกำพล” ยันไม่เจาะพระราม 2 ชี้ กายภาพถนนต่ำ สั่ง ทล.เคลียร์สิ่งกีดขวางทุกคลอง รื้อแท่งแบริเออร์ เปิดทางน้ำไหลผ่านสะดวก คาด กู้ถนนสาย 340 เสร็จใน 5-6 วัน สำรองลงใต้หากพระราม 2 ถูกน้ำท่วม ฟุ้งบิ๊กแบ็กช่วยชะลอน้ำด้านเหนือ กทม.
วันที่ 8 พ.ย. พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า การเตรียมเส้นทางสำรองกรณีที่ถนนพระราม 2 ถูกน้ำท่วมไม่สามารถสัญจรได้ โดยเร่งกู้ถนนกาญจนาภิเษก ช่วงบางบัวทอง-บางใหญ่ และเส้นทางหลวงหมายเลข 340 บางบัวทอง- สุพรรณบุรี เพื่อใช้เป็นเส้นทางเลี่ยงสู่ภาคใต้ ซึ่งมีน้ำท่วมสูงเป็นช่วงๆ โดยเฉพาะหน้าสมบัติบุรี ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร บางช่วงยาว 600 เมตรบ้าง 700 เมตรบ้าง แต่ก็มีอีกหลายช่วงที่ระดับน้ำเริ่มลดลงเหลือ 30 เซนติเมตร โดยจะวางท่อใส่ถุงทรายและสูบน้ำออก คาดว่า จะแล้วเสร็จใน 5-6 วันหลังจากนี้
ทั้งนี้ ยืนยันว่า แนวคิดในการเจาะถนนพระราม 2 เพื่อไม่ให้ขวางทางน้ำนั้น เป็นแนวคิดที่มาจากที่อื่น ไม่ใช่แนวคิดจากกระทรวงคมนาคม และจากการสำรวจทางกายภาพถนนพระราม 2 มีความสูงจากพื้นที่ด้านข้างไม่มากนั้น เพราะที่ผ่านมามีการทรุดตัวค่อนข้างมากด้วย การเจาะจึงไม่เหมาะสม ดังนั้น จะไม่ปิดกั้นทางน้ำ ถนนพระราม 2 อยู่ใกล้ทะเล จะต้องเร่งระบายน้ำลงทะเลให้เร็วที่สุด ซึ่งที่ผ่านมาได้ให้กรมทางหลวง (ทล.) เข้าไปเคลียร์คลองต่างๆ ที่ลอดผ่านถนนเพื่อไม่ให้มีสิ่งกีดขวางการไหลของน้ำ ส่วนแท่งแบริเออร์ที่กั้นอยู่กลางถนน สูง 80 เซนติเมตร ต้องเอาออกเพื่อให้น้ำไหลผ่านได้สะดวก ตอนนี้ต้องมอง 2 อย่าง คือ ทำให้น้ำไหลผ่านไปให้เร็วที่สุด และดูว่าถนนใช้ได้หรือไม่ ดูเป็นจุดๆ
ส่วนถนนพหลโยธิน ช่วง โรงกษาปณ์ วังน้อย ก็จะไม่มีการกู้เช่นกัน เพราะเคยกู้แล้วมีปัญหา จะเป็นการบล็อกน้ำ และทำให้น้ำเปลี่ยนทิศทางอาจจะเข้าตรงนวนคร และรางรถไฟ ถ้าน้ำทะลุเข้ามากำแพงอาจจะพังได้ ก็ปล่อยไปดีกว่า ซึ่งถือว่าคิดถูกเพราะขณะนี้น้ำน้อยลงแล้ว
พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า หลังจากวางแนวกระสอบทรายยักษ์ (บิ๊กแบ็ก) เสร็จระดับน้ำลดลงประมาณ 30 เซนติเมตร และทำให้น้ำจากด้านเหนือของ กทม.ไหลเข้ามาลดลงซึ่งตลอดแนวกว่า 20 กิโลเมตร มีซึมก็เสริมซ่อมไปเรื่อยๆ แต่ตอนนี้ไม่มีคนเข้าไปทำลาย หรือกรีดกระสอบแล้ว หลังจัดเจ้าหน้าที่คอยตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม กรมชลประทานให้ข้อมูลว่า หลังจากนี้ 2-3 วัน ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะต่ำ และจะเปิดประตูน้ำจุฬาลงกรณ์เพื่อระบายน้ำด้านเหนือแนวบิ๊กแบ็ก
เตรียมเปิดเส้นทางสำรองหากถนนพระราม 2 ถูกน้ำท่วม
ด้าน นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงการเตรียมเส้นทางสำรองกรณีที่ถนนพระราม 2 ถูกน้ำท่วมไม่สามารถสัญจรได้ ว่า ขณะนี้ได้เร่งเปิดพื้นผิวการจราจรบริเวณทางหลวงหมายเลข 9 ถนนกาญจนาภิเษก จากแยกบางใหญ่ถึงแยกบางบัวทองที่ระดับน้ำเริ่มลดลง และเปิดพื้นผิวการจราจรเส้นทางหลวงหมายเลข 340 บางบัวทอง-สุพรรณบุรี เพื่อใช้เป็นเส้นทางเลี่ยงสู่ภาคใต้ ซึ่งจะมีเส้นทางอ้อมไปทางจังหวัดนครปฐม นอกจากนี้ ยืนยันว่า จะไม่มีการปิดกั้นน้ำกั้นมวลน้ำไม่ให้เข้าสู่ถนนพระราม 2 เนื่องจากถนนสายดังกล่าวอยู่ในแนวทิศตะวันออก-ตะวันตก แม้จะมีการปิดกั้นน้ำก็จะยังคงไหลผ่านอยู่ดี อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้เร่งเจ้าหน้าที่จัดการเส้นทางระบายน้ำและสิ่งกีดขวางทั้งหมด เพื่อให้การระบายน้ำไปได้เร็วขึ้น คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 1-2 วันนี้ ทั้งนี้ การเจาะถนนพระราม 2 เพื่อระบายน้ำไม่เกิดประโยชน์แต่อย่างใด เนื่องจากถนนตั้งอยู่บนพื้นที่ต่ำและความลาดเอียงของผิวถนนค่อนข้างน้อย จึงไม่ส่งผลต่ออัตราความเร็วการไหลของน้ำ และหากปริมาณน้ำไม่ท่วมสูงมาก รถยังสามารถสัญจรได้ แต่หากเจาะถนนก็เท่ากับเป็นการตัดเส้นทางการจราจรโดยสิ้นเชิง