xs
xsm
sm
md
lg

ทึ้งงบน้ำท่วมเรื่องอุบาทว์-อ่อนไหวต้องขยายผลหาคนผิด !!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

หลายคนคงจินตนาการไม่ออกจริงๆว่า ขณะที่ชาวบ้านชาวช่องแทบทั้งหมดกำลังกุลีกุจอช่วยการบริจาคเงินทอง ประเภทใครมีแรงลงแรง ใครมีเงินพอจะช่วยเหลือคนอื่นได้บ้างก็ตามสะดวก มากบ้างน้อยบ้างตามกำลังศรัทธา และมีจิตอาสาที่เต็มใจช่วยเหลือพี่น้องร่วมชาติกำลังเดือดร้อนแสนสาหัส แต่กลับยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ตอนแรกชาวบ้านคิดว่าพอจะฝากผีฝากไข้ได้ในยามยาก ที่ไหนได้กลับฉวยโอกาสรุมทึ้งงบประมาณของรัฐ และเลวร้ายไปกว่านั้นก็คือการ “อม”ของบริจาค ฉวยโอกาสนำไปใช้หาเสียง หาประโยชน์ทางการเมืองอย่างหน้าด้านที่สุด

เป็นความชั่วที่คาดไม่ถึง ไม่นึกว่ายังมีคนประเภทนี้อยู่ในประเทศ โดยเฉพาะเกิดขึ้นกับคนในรัฐบาลที่อ้างว่ามาจากคนจน “รากหญ้า” ตัวแทนไพร่ น่าจะเข้าใจถึงความลำบากทุกข์ยากได้ดีที่สุด แต่นี่กลับกลายเป็นตรงข้ามคิดแต่ฉกฉวยโอกาสอยู่ร่ำไป

ข่าวคราวเรื่องการทุจริต อมของบริจาคเริ่มแพร่ออกมาสู่สาธารณะได้เห็นมากขึ้น เริ่มจากสำนักงานของศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย(ศปภ.) เมื่อครั้งอยู่ที่อาคารสนามบินดอนเมือง ครั้งนั้นจะมีกลุ่ม ส.ส.พรรคเพื่อไทย และแกนนำคนเสื้อแดงหลายคนเข้าบัญชาการในลักษณะจุ้นจ้าน จนเรียกว่า “กร่าง” คับดอนเมืองกันเลยทีเดียว

เท่าที่ปรากฏเป็นข่าวก็มี การุณ โหสกุล จตุพร พรหมพันธุ์ ณัฐวุฒิ ใสเกื้อ ฐานิสร์ เทียนทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ยศวิศ ชูกล่อม(เจ๋ง ดอกจิก) ที่กำกับดูแลกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) นอกจากนี้ยังมีพวก ส.ส.สอบตก พวกสมาชิกบ้านเลขที่ 111 ที่เข้าไปสร้างความรำคาญอีกหลายคน

ขณะเดียวกันก็ไม่น่าแปลกใจว่าทำไมการบริหารจัดการภายในศูนย์ปฏิบัติการฯดังกล่าวเต็มไปด้วยความโกลาหลและสับสน การกระจายสิ่งของที่ประชาชนบริจาคตกค้างกองเป็นภูเขาเลากา เรือ ส้วมกระดาษ ส้วมลอยน้ำ ที่มีความจำเป็นเร่งด่วนกลับถูกทิ้งเอาไว้ ไม่ได้ส่งออกไปในแหล่งที่ชาวบ้านกำลังเดือนร้อนอย่างทั่วถึง แต่กลับมีข่าวว่ามีการบรรจุสิ่งของบริจาคเหล่านั้นในถุงยังชีพใหม่โดยให้แปะชื่อของ ส.ส.หรือนักการเมือง รัฐมนตรีสำหรับนำไปใช้หาเสียง ไม่เว้นแม้แต่ ทักษิณ ชินวัตร ที่รับรู้กันว่าร่ำรวยเป็นเศรษฐีแสนล้านกยังเอากับเขาด้วย รวมไปถึงการเลือกแจกในพื้นที่ฐานเสียงของตัวเอง หรือแม้แต่พื้นที่อิทธิพลของแกนนำเสื้อแดงบางคน สารพัด

สิ่งที่เกิดขึ้นชาวบ้านภายนอกเริ่มรับรู้มากขึ้นเรื่อยๆ และระยะหลังก่อนที่จะย้ายศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย กันอย่างฉุกเฉิน เนื่องจากต้องหนีน้ำท่วม ของบริจาคเหล่านั้นก็ถูกทิ้งเอาไว้ข้างหลัง บ้างก็ลอยเกลื่อนอย่างไร้ค่า ทำลายความรู้สึกของชาวบ้านทั้งคนที่ตั้งใจบริจาคช่วยเหลือพี่น้องคนไทยด้วยกันโดยไม่แบ่งแยก และคนที่กำลังประสบภัย กำลังอยู่ในภาวะอดอยากหิวโหย ไม่มีเรือสักลำที่จะออกมาหาอาหารหรือข้าวกล่องสักกล่อง แต่ของเหล่านี้กลับถูกทำให้กลายเป็นขยะไร้ค่า

ภาพความเหลวแหลกน่ารัดทดดังกล่าวที่ออกมา ทำให้ไม่น่าแปลกใจว่าทำไมระยะหลังถึงได้มีคนไปบริจาคกับหน่วยงานของรัฐแห่งนี้น้อยลงเรื่อยๆ เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้

จะเป็นเพราะด้วยเหตุผลดังกล่าวหรือเปล่าไม่อาจทราบได้ ทำให้ต้องมีการปรับระบบการบริหารจัดการใหม่ ลดบทบาทของคนเหล่านั้นลงไป โดยล่าสุดมอบหมายให้ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี จำเริญ ยุติธรรมสกุล เข้ามาควบคุมดูแลสิ่งของบริจาคในศูนย์ปฏิการฯทั้งหมด

อย่างไรก็ดีมีการของบประมาณในการจัดซื้อถุงยังชีพเพื่อนำมาแจกจ่ายประชาชนที่ประสบภัย มีการแบ่งราคาแยกเป็นราคา 300 บาท 500 บาท และ 800 บาท ซึ่งที่ผ่านมาก็มีเสียงวิจารณ์ว่าสิ่งของที่บรรจุอยู่ในถุงนั้นคุณภาพต่ำและไม่สมราคาในการจัดซื้อ

ขณะเดียวกันก็ไม่น่าแปลกใจเมื่อมีการตรวจสอบก็พบว่า หน่วยงานในการจัดซื้อถุงยังชีพก็คือกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) ซึ่งก็ทำให้หลับตานึกเห็นภาพของบางคนที่เคยมีบทบาทในการดูแลของบริจาคมาตั้งแต่ต้นนั่นเอง

สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการชี้ให้เห็นว่าคนในรัฐบาลพรรคเพื่อไทย และมีนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นอกจากการบริหารประเทศที่ไร้ประสิทธิภาพ ขาดการจัดการที่ดี ทำให้ความเสียหาย ความเดือดร้อนขยายวงกว้างออกไปอย่างแสนสาหัสแล้ว ยังมีการเปิดช่องให้มีการเบียดบัง เอาเปรียบรุมทึ้งทั้งของบริจาคและงบประมาณเข้าตัวเอง ขณะที่คนไทยส่วนใหญ่กำลังประสบภัย และที่อำมหิตไปกว่านั้นก็คือเป็นการหาเศษหาเลยเอากับพี่น้องที่เคยไว้วางใจเกือบทั้งสิ้น

ที่น่าเจ็บปวดไปอีกก็คือเมื่อมีการเปิดโปงการทุจริตมากขึ้นจนไม่สามารถดันทุรังปกปิดได้อีกต่อไป ก็จำเป็นต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเพื่อให้ได้ข้อสรุปภายใน 3 วัน ซึ่งก็เป็นไปตามคาดก็คือไม่สามารถจับมือใครดมได้

อย่างไรก็ดีกรณีการทุจริตเกี่ยวกับงบประมาณจัดซื้อของยังชีพ และอุปกรณ์ยังชีพในช่วงประสบภัยถือเป็นเรื่องอ่อนไหวต่อความรู้สึกของชาวบ้าน ซึ่งเรื่องการทุจริตโดยทั่วไปยังเป็นที่รังเกียจ มีหลายรัฐบาลที่ต้องอ่อนแอลงและต้องล้มลงไป ดังนั้นอย่าท้าทายความรู้สึกของชาวบ้านเป็นอันขาด โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่เดือดร้อนแบบนี้ อีกทั้งเมื่อหันมาพิจารณาถึงผลงานที่ห่วยแตกด้วยแล้วมันก็ยิ่งสองแรงบวก ระวังให้ดีก็แล้วกัน !!

กำลังโหลดความคิดเห็น