“ประยุทธ์” ควง “เสธ.ทบ.” ติดตาม 6 ตามยุทธศาสตร์ “รุก-รับ” ตรงจุดทุกฝ่าย ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ระบุไม่มีปัญหาสภาลดงบดับไฟใต้ 3 พันล้าน จนกองทัพต้องกระเบียดกระเสียน แต่ต้องรับสภาพหากดำเนินการไม่เต็มที่ ส่วนทหารใจเกินร้อยอยู่แล้ว แม้อาวุธยุทโปกรณ์ไม่เต็มร้อย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมด้วย พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล เสนาธิการทหารบกและนายทหารชั้นผู้ใหญ่เดินทางลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้เพื่อติดตามสถานการณ์และติดตามความคืบหน้าในการปฏิบัติการ แก้ไขปัญหาความรุนแรงในพื้นที่ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนลงพื้นที่ว่า ครั้งนี้จะลงไปติดตามการดำเนินงานของยุทธศาสตร์ทั้ง 6 ข้อ ที่ได้กำหนดลงไปก่อนหน้านี้ ซึ่งเราจะมาดูกันว่าเราจะปรับยุทธวิธีอย่างไรเพื่อให้ตรงกับความต้องการของทุกฝ่าย ทั้งงานเชิงรุกและรับ หรือการพัฒนาจะต้องเดินหน้าไปด้วย จะต้องแก้หลายๆ มิติ ไม่ใช่มิติเดียว การรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งมีหลายอย่างที่เป็นสาเหตุและเงื่อนไขให้เกิดเหตุการณ์ ช่วงที่ผ่านมาเราก็ปฎิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัดตามกฎหมาย ซึ่งถือว่าเป็นช่องว่างและโอกาสของฝ่ายตรงข้ามที่พยายามใช้ความรุนแรงกับ ฝ่ายเราและประชาชนที่บริสุทธิ์
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาได้ให้ พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล เสนาธิการทหารบก ลงไปกำกับดูแลในพื้นที่พร้อมทั้งทำงานร่วมกับ พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.)ภาคที่ 4 เนื่องจากตนติดภารกิจในการสั่งการในการแก้ปัญหาน้ำท่วมตามนโยบายของรัฐบาล แต่งานอื่นๆ นั้นได้ย้ำอยู่เสมอว่าจะต้องไม่บกพร่อง งานที่เรารับผิดชอบในภาพรวมนอกจากเรื่องน้ำท่วมแล้ว เราต้องดูแลและป้องกันชายแดนทั้ง 7 กองกำลังให้เรียบร้อยด้วย โดยเฉพาะในพื้นที่เขาพระวิหารได้ให้ พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นผู้ดูแลตามนโยบายที่ได้กำหนด ส่วนกรณีที่รัฐบาลมีการแปรญัตติตัดลดงบประมาณของกองทัพในส่วนการปฏิบัติงาน ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้จำนวน 3 พันล้านบาทนั้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า งบประมาณส่วนใหญ่ร้อยละ 60-70 เป็นงบของกำลังพล อีกส่วนหนึ่งเป็นงบการดำเนินงานด้านธุรการและงบการซ่อมบำรุงและจัดหายุทโธปกรณ์
“จะทำอย่างไรได้ ในเมื่อมีความจำเป็น เมื่อประเทศชาติมีภัยและมีการใช้จ่ายงบประมาณ ดังนั้นการที่จะถูกลดงบประมาณลงไปบ้างก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ต้องขอชี้แจงว่างบประมาณของกองทัพบกถูกลดไปร้อยละ 10 แต่ถ้าเมื่อลดไปแล้วก็ต้องยอมรับความจริงว่ามันจะเกิดอะไรบ้าง จะต้องยอมรับสภาพกัน เช่น ลดงบซ่อมแซมยานพาหนะ ยุทโธปกรณ์ต่างๆ ก็จะเสื่อมโทรม และหากถ้าไม่จัดซื้อใหม่ๆ ในวันนี้แต่ไปจัดหาวันหน้าก็จะสิ้นเปลือง ผมไม่ได้ว่าอะไรแต่ต้องกระเบียดกระเสียนกัน หากเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น เราก็ทำงานได้ไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่คิดว่าทุกคนเข้าใจ เพราะใจพวกเราเกินร้อยอยู่แล้ว เครื่องไม้เครื่องมือไม่ถึงร้อยก็ไม่เป็นไร แต่เราจะพยายามทำให้ดีที่สุด เพื่อประเทศของเรา” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
