เกาะกระแส
โดย... ก้อนกรวด
00 ผ่านไปแล้วครับสำหรับ รายการ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน” ประเดิมครั้งแรกเมื่อวันเสาร์ที่ 1 ต.ค. ก็ไม่มีอะไรพิเศษนอกเหนือจากการ “ท่องสคริปต์” เพียงแต่ว่ามันอาจจะง่ายกว่าเดิมด้วยซ้ำไปเพราะเป็นการนั่ง “จ้อคนเดียว” อยากจะแก้ตัวอย่างไรก็ทำได้สะดวกไม่มีขัดคอ หรือถามซอกแซกให้รำคาญใจ ดังนั้นก็อย่าได้แปลกใจที่นอกจากพูดเรื่องการช่วยเหลือเรื่องน้ำท่วมตามหน้าที่แล้ว ก็ต้องแจกแจงนโยบายรถคันแรก และบ้านหลังแรก โดยเฉพาะอย่างหลังยืนยันหัวเด็ดตีนขาดว่าไม่ได้จงใจเอื้อประโยชน์ “แอสซีแอสเซท” นะค้า เชื่อป่าว !!
00 จาก “เรือดันน้ำ” มาถึง “หญ้าแพรก” ทำเอาหลายคนสะดุ้งตาโตกันเป็นแถว อุทานว่า เฮ้ย นี่เรามีผู้นำ “อ่อนหัด” อ่อนด้อยความรู้ได้ถึงเพียงนี้ แต่ถึงอย่างไรได้แต่หวังว่าเป็นความพลั้งเผลอ หลุดปากแค่ครั้งสองครั้ง ไม่ใช่สะท้อนออกมาจาก “ภูมิความรู้” ภายในส่วนบุคคล แต่ถึงอย่างไรก็ยังเอาใจช่วยให้อยู่นานอีกนิดหนึ่ง เพราะไหนๆก็มีคนหนุนตั้ง 15 ล้านเสียง เดี๋ยวจะเสียความรู้สึกเสียกลางคันเสียก่อน
00 ถือว่ากวนประสาทใช้ได้เหมือนกันสำหรับ ปชป.ที่อุตส่าห์เรียกร้องให้รัฐบาลเจียดเวลาให้ “ฝ่ายค้าน” ได้จ้อบ้าง ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่ามันเป็นไม่ได้ แต่ก็อยากได้คำตอบปฏิเสธกลับมาเท่านั้น อย่างไรก็ดีถ้าพูดกันตามความเป็นจริงเมื่อครั้งที่ มาร์ค-อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกฯก็ไม่ได้เปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านเหมือนกัน แม้จะอ้างว่าในยุคนั้นไม่มีผู้นำฝ่ายค้าน แต่ถ้าจะเปิดโอกาสมันก็ทำได้อยู่แล้ว แต่งานนี้ก็เจอตอกกลับมาไม่เคยมีธรรมเนียมถือว่า พอกัน ฮ่วย !!
00 พูดถึงเรื่องน้ำท่วมที่หนักหนาสาหัสในปีนี้ เพราะ “หนัก” และ “นาน” จนแทบจะทนต่อไปไม่ไหว ขณะเดียวกันได้เห็นมาตรการความช่วยเหลือของฝ่ายรัฐบาลก็ยังดูวังเวง ลักษณะที่ออกมาก็เป็นแบบทำอะไรไม่ถูกนั่งรอให้น้ำลดอย่างเดียว พร้อมทั้งสั่งการให้บรรดารมต.แบ่งสายแยกกันไปเยี่ยมเยียนปลอบขวัญชาวบ้าน โดยคำสั่งของ “นายกฯปู” กำชับให้แต่ละคนต้องนอนค้างอ้างแรมร่วมกับชาวบ้าน ซึ่งก็ได้ผลเมื่อ “ฯพณฯไพร่” ทั้งหลายต่างเชื่อฟังคำสั่งอย่างเคร่งครัดจน “น่าถีบ” เสียนี่กระไร
00 ประเภทนอนค้างอ้างแรมร่วมกับพวกไพร่ชาวบ้านระดับรากหญ้าให้เห็นน้ำเน่านั้นเมินเสียเถอะ เพราะเท่าที่เห็นมีแต่นั่งรถหรูไปด้อมๆมองๆแล้วเอาขาจุ่มน้ำ เอาของไปแจกฟังบรรยายสรุปตามสูตรประเดี๋ยวประด๋าวก็รีบเผ่นกลับ แต่ก็ดีไปอย่างแบบนี้แหละมันจะได้เห็นของจริงว่า “ธาตุแท้” เป็นอย่างไร ที่ผ่านมาเป็นเพราะ “สร้างภาพ” บังตาจนมองไม่เห็น
00 กลายเป็นว่าเวลานี้คงไม่อาจเชื่อถือใครได้อีกแล้ว เพราะแต่ละคนพูดจาอะไรต้องออกมาเป็นตรงกันข้าม อย่างเรื่อง “ถอนทหาร” พ้นชายแดนไทยด้านประสาทพระวิหาร รวมไปถึงพื้นที่อื่นที่เคยประจันหน้า ตอนแรกแม่ทัพภาคที่ 2 พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร ก็ยืนยันเมื่อมีคนเห็นการถอยกำลังออกมาว่า “แค่ปรับกำลัง” ไม่ใช่ถอน และสำทับด้วย ผบ.ทบ.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่า สับเปลี่ยน-พักฟื้นทหารที่เหนื่อยล้า แต่ล่าสุดเมื่อจนมุมก็ยอมรับว่า ใช่ อ้างว่าสถานการณ์ดีขึ้น ความสัมพันธ์ราบรื่นไม่จำเป็นต้องตรึงให้เปลืองงบประมาณ แต่ประเด็นก็คือทำไมต้องโกหกบิดเบือนอยู่ตลอดเวลา ถ้าจับไม่ได้ไล่ไม่ทันก็แถไปเรื่อย !!
00 มาอีกแล้วประเภทโทษคนอื่นพวกนี้ถนัดนัก ล่าสุดโฆษก “เด็จพี่” ก็ออกมาเฉไฉรับลูกคำพูดของ “เด็กเลี้ยงแกะ” อย่างจตุพร พรหมพันธุ์ ว่ากำลังมีการเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมืองกับกลุ่มเสียอำนาจจ้องล้มรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พูดเป็นตุเป็นตะกำลังให้ “นายแพทย์” คนหนึ่งเป็นคนเปิดเกม ทำไมไม่บอกไปเลยว่าเป็น “หมอตุลย์” เพราะเห็นกำลังล่าชื่อต้านการอภัยโทษให้แม้วไม่ใช่หรือ
00 อย่างไรก็ดีอยากจะบอกให้ “ตาสว่าง” เสียทีว่าถ้ารัฐบาลตั้งใจทำงาน มีผลงานเพื่อประโยชน์ของชาวบ้านส่วนใหญ่ โดยเสมอภาค ไม่เห็นแค่ประโยชน์ส่วนตัว แต่งตั้งคนที่มีความรู้ความสามารถ ไม่เล่นพวก ไม่นำคนห่วยๆ มาเป็นโฆษกฯ นำผู้ต้องหาคดีก่อการร้าย หมิ่นสถาบันฯมารับตำแหน่งกินเงินเดือนภาษีชาวบ้านแบบไม่คุ้มค่า ถ้าทำได้ก็ไม่มีใครเขาล้มได้หรอก ตรงกันข้ามมีแต่คนปกป้องดุจกำแพงเหล็ก
00 ดังนั้นอย่าสร้างกระแสมั่วๆ แบบคิดว่าคนอื่นเขาโง่ตามไม่ทัน แม้ว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจมีจริงก็ได้ แต่ถ้าตั้งหน้าตั้งตาทำงานเพื่อชาวบ้านจริงๆ ก็ไม่ต้องไปหวั่นไหว แต่เมื่อวัดจากผลสะท้อนที่ออกมาผ่านผลสำรวจต่างๆ เริ่มเห็นแล้วไม่ใช่หรือว่ามัน “ตกลงมาทุกด้าน” อย่างนี้ก็นับถอยหลังอยู่แล้ว ต่อให้ “สิบแม้ว” หรือ “สิบเจ้ามูลเมือง” ก็เอาไม่อยู่หรอก !!