นราธิวาส - ผบ.ทบ.ร่วมประชุมร่วมกองกำลัง 3 ฝ่าย ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองในพื้นที่ 3 จชต.โดยเน้นย้ำจัดตั้งกองกำลังทหารพรานเพิ่มอีก 2 กรมจากเดิม 7 กรมเพิ่มทหารพรานอีก 3,000 นาย เพื่อให้กำลังพลครอบคลุมในการปฏิบัติทุกพื้นที่ใน 3 จชต.
เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (27 ก.ย.) ที่สโมสรร่มเกล้า ค่ายจุฬาภรณ์ ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. เดินทางพร้อมคณะ อาทิ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ เสนาธิการทหารบก เพื่อเข้าประชุมร่วมกองกำลัง 3 ฝ่าย ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ คือ นราธิวาส ปัตตานี และยะลา โดยมีระดับ ผู้ว่าราชการจังหวัด, ผู้บังคับการตำรวจภูธร, ผบ.ฉก.ทั้ง 3 จังหวัด, ผบ.ฉก.หมายเลข 2 ตัว รวมทั้ง ศอ.บต.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
โดยก่อนเข้าประชุม พล.อ.ประยุทธ์ ผบ.ทบ.ได้มอบพระพุทธสุวรรณภูมิพิทักษ์ จำนวน 3 องค์ ซึ่งจัดสร้างโดยเจ้าอาวาสวัดปริวาสราชสงคราม ยานนาวา กทม.ร่วมกับ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และพุทธศาสนิกชนที่ กทม.มอบให้กับพระสงฆ์ตัวแทนเจ้าอาวาสใน 3 จชต.นำไปประดิษฐานที่วัดเพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้สักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลกับชีวิต
ต่อจากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ผบ.ทบ.ได้เข้าประชุม ซึ่งใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง โดยมี พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 เป็นผู้กล่าวรายงานพร้อมบรรยายสรุปภาพรวมของสถานการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ รวมทั้งผลการปฏิบัติงานเชิงรุกในภาพรวมของ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ในห้วงปี 2554 ที่ผ่านมา ซึ่งพบว่าจากผลการปฏิบัติทั้งเชิงรุกเพื่อกดดันไล่ล่ากลุ่มก่อความไม่สงบ รวมทั้งการสร้างมวลชนสัมพันธ์กับชาวบ้านในพื้นที่ ทำให้สถานการณ์ความรุนแรงมีสถิติลดลงอย่างต่อเนื่องเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านๆ มา
ขณะเดียวกัน ทางด้าน กอ.รมน.รวมทั้ง ฉก.ทั้ง 5 หน่วยใน 3 จชต.ตลอดจนถึง ศปก.ตร.สน.และ ศอ.บต.ได้บรรยายสรุปถึงภาพรวมของการปฏิบัติที่อยู่ในความรับผิดชอบ เพื่อต่อยอดไปสู่การปฏิบัติในปีงบประมาณ 2555 ให้มีความต่อเนื่องและเห็นผลเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะ ศอ.บต.ที่ดำเนินตามกรอบของแผนพัฒนาพื้นที่พิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยคาดว่าในปีงบประมาณ 2555 นี้ทั้ง 3 หน่วยหลักคือ ทหาร ศอ.บต.และจังหวัด ต้องใช้งบประมาณเพื่อแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ เป็นจำนวนเงินกว่า 10,000 ล้านบาท ซึ่งรวมถึงโครงการจ้างงานเร่งด่วนจำนวน 1,400 ล้านบาทด้วย
สำหรับด้านกำลังพลซึ่งต้องมีการสับเปลี่ยนกำลังตามวาระ โดยมีการถอนกำลังทหารบกออกนอกพื้นที่เป็นบางหน่วย โดยจัดสรรกำลังพลที่เป็นทหารพราน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนในพื้นที่ 3 จชต.ให้เข้าปฏิบัติหน้าที่ทดแทน โดยตั้งแต่ต้นเดือน ต.ค.54 นี้ มีการจัดตั้งเพิ่มอีก 2 กรม จำนวนกว่า 3,000 นาย จาก 7 กรมที่มีอยู่เดิมในพื้นที่ 3 จังหวัด และจะมีการทยอยดำเนินการให้ครบตามจำนวนอีก 3 กรม เพื่อให้กำลังพลครอบคลุมในการปฏิบัติทุกพื้นที่ใน 3 จชต.อีกด้วย
หลังจากประชุมแล้วเสร็จ ผบ.ทบ.ได้มอบนโยบายและแนวทางในการปฏิบัติให้แต่ละหน่วยนำไปต่อยอดให้สอดคล้องกัน โดยเฉพาะการป้องปรามกลุ่มผู้ไม่หวังดี เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ระเบิดซ้ำรอยเหมือนที่ อ.สุไหงโก-ลกได้อีก โดยในช่วงบ่าย ผบ.ทบ.จะเดินทางไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บจากเหตุระเบิด 3 จุดที่ รพ.สุไหงโก-ลก ก่อนที่จะเดินทางไปตรวจเยี่ยมเครือข่ายวิทยุเครื่องแดงที่ โรงเรียนสุไหงโก-ลกอีกด้วย
เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (27 ก.ย.) ที่สโมสรร่มเกล้า ค่ายจุฬาภรณ์ ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. เดินทางพร้อมคณะ อาทิ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ เสนาธิการทหารบก เพื่อเข้าประชุมร่วมกองกำลัง 3 ฝ่าย ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ คือ นราธิวาส ปัตตานี และยะลา โดยมีระดับ ผู้ว่าราชการจังหวัด, ผู้บังคับการตำรวจภูธร, ผบ.ฉก.ทั้ง 3 จังหวัด, ผบ.ฉก.หมายเลข 2 ตัว รวมทั้ง ศอ.บต.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
โดยก่อนเข้าประชุม พล.อ.ประยุทธ์ ผบ.ทบ.ได้มอบพระพุทธสุวรรณภูมิพิทักษ์ จำนวน 3 องค์ ซึ่งจัดสร้างโดยเจ้าอาวาสวัดปริวาสราชสงคราม ยานนาวา กทม.ร่วมกับ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และพุทธศาสนิกชนที่ กทม.มอบให้กับพระสงฆ์ตัวแทนเจ้าอาวาสใน 3 จชต.นำไปประดิษฐานที่วัดเพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้สักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลกับชีวิต
ต่อจากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ผบ.ทบ.ได้เข้าประชุม ซึ่งใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง โดยมี พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 เป็นผู้กล่าวรายงานพร้อมบรรยายสรุปภาพรวมของสถานการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ รวมทั้งผลการปฏิบัติงานเชิงรุกในภาพรวมของ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ในห้วงปี 2554 ที่ผ่านมา ซึ่งพบว่าจากผลการปฏิบัติทั้งเชิงรุกเพื่อกดดันไล่ล่ากลุ่มก่อความไม่สงบ รวมทั้งการสร้างมวลชนสัมพันธ์กับชาวบ้านในพื้นที่ ทำให้สถานการณ์ความรุนแรงมีสถิติลดลงอย่างต่อเนื่องเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านๆ มา
ขณะเดียวกัน ทางด้าน กอ.รมน.รวมทั้ง ฉก.ทั้ง 5 หน่วยใน 3 จชต.ตลอดจนถึง ศปก.ตร.สน.และ ศอ.บต.ได้บรรยายสรุปถึงภาพรวมของการปฏิบัติที่อยู่ในความรับผิดชอบ เพื่อต่อยอดไปสู่การปฏิบัติในปีงบประมาณ 2555 ให้มีความต่อเนื่องและเห็นผลเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะ ศอ.บต.ที่ดำเนินตามกรอบของแผนพัฒนาพื้นที่พิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยคาดว่าในปีงบประมาณ 2555 นี้ทั้ง 3 หน่วยหลักคือ ทหาร ศอ.บต.และจังหวัด ต้องใช้งบประมาณเพื่อแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ เป็นจำนวนเงินกว่า 10,000 ล้านบาท ซึ่งรวมถึงโครงการจ้างงานเร่งด่วนจำนวน 1,400 ล้านบาทด้วย
สำหรับด้านกำลังพลซึ่งต้องมีการสับเปลี่ยนกำลังตามวาระ โดยมีการถอนกำลังทหารบกออกนอกพื้นที่เป็นบางหน่วย โดยจัดสรรกำลังพลที่เป็นทหารพราน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนในพื้นที่ 3 จชต.ให้เข้าปฏิบัติหน้าที่ทดแทน โดยตั้งแต่ต้นเดือน ต.ค.54 นี้ มีการจัดตั้งเพิ่มอีก 2 กรม จำนวนกว่า 3,000 นาย จาก 7 กรมที่มีอยู่เดิมในพื้นที่ 3 จังหวัด และจะมีการทยอยดำเนินการให้ครบตามจำนวนอีก 3 กรม เพื่อให้กำลังพลครอบคลุมในการปฏิบัติทุกพื้นที่ใน 3 จชต.อีกด้วย
หลังจากประชุมแล้วเสร็จ ผบ.ทบ.ได้มอบนโยบายและแนวทางในการปฏิบัติให้แต่ละหน่วยนำไปต่อยอดให้สอดคล้องกัน โดยเฉพาะการป้องปรามกลุ่มผู้ไม่หวังดี เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ระเบิดซ้ำรอยเหมือนที่ อ.สุไหงโก-ลกได้อีก โดยในช่วงบ่าย ผบ.ทบ.จะเดินทางไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บจากเหตุระเบิด 3 จุดที่ รพ.สุไหงโก-ลก ก่อนที่จะเดินทางไปตรวจเยี่ยมเครือข่ายวิทยุเครื่องแดงที่ โรงเรียนสุไหงโก-ลกอีกด้วย
