อดีต รมว.คลัง ประชาธิปัตย์ ฉะรัฐจัดงบขาดดุล 4 แสนล้าน ปูทางกู้เงินมหาศาล ทั้งที่เคยค้านรัฐบาลชุดก่อน ปรามอย่าอ้างเพื่อฟื้นฟูประเทศ เพราะเศรษฐกิจยังโตร้อยละ 2.5 แนะเลื่อนมาตรการลดภาษีนิติบุคคลออกไป 1 ปี นำเงินเข้ารัฐ 1 แสนล้าน ตั้งกองทุนฟื้นฟู พร้อมเลื่อนโครงการรถ-บ้านหลังแรก ลดภาระการกู้
วันที่ 9 พ.ย.นายกรณ์ จาติกวณิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อดีต รมว.คลัง กล่าวอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2555 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ว่า การตั้งงบประมาณขาดดุลไว้ถึง 4 แสนล้านบาท แสดงให้เห็นว่า รัฐบาลมีเจตนาต้องการกู้เงินจำนวนมหาศาล จึงไม่เข้าใจว่า ทำไมรัฐบาลชุดนี้เมื่อครั้งเป็นฝ่ายค้านเคยแสดงความไม่เห็นด้วยกับกู้เงินของรัฐบาลที่ผ่านมา แต่พอมาเป็นรัฐบาลกลับดำเนินการกู้เงินจำนวนมากเสียเอง ประกอบกับรัฐบาลมีแนวโน้มจะไม่มีการปรับการตั้งงบประมาณเพื่อนำไปสู่งบประมาณสมดุลในระยะยาว ดังนั้น ในระยะ 2-3 ปี รัฐบาลต้องชี้แจงต่อประชาชน
นายกรณ์ กล่าวว่า รัฐบาลอาจจะอ้างว่ากู้เพื่อไปฟื้นฟูประเทศหลังประสบภัยน้ำท่วม ไม่เห็นมีความจำเป็น เพราะการขยายตัวทางเศรษฐกิจยังขยายตัวประมาณร้อยละ 2.5 หลังจากประเมินความเสียหายจากน้ำท่วม ซึ่งเป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจไทยยังมีความแข็งแรง ประกอบกับรัฐบาลเองก็มีแผนงานอยู่แล้วในร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ คือ 1.ส่งเสริมการบริหารจัดการน้ำอย่างบูรณาการจำนวน 4.5 หมื่นล้านบาท และ 2.การเยียวยาฟื้นฟูและป้องกันความเสียหายจากอุทกภัยอย่างบูรณาการ 1.2 แสนล้านบาท รวมเป็น 1.6 แสนล้านบาท ทำให้ไม่เข้าใจว่าทำไมรัฐบาลถึงต้องกู้เงินเพิ่มอีกมากกว่า 2 แสนล้านบาท
“สำหรับข้อเสนอเพื่อการจัดทำงบประมาณ อยากเห็นรัฐบาลยุติการลดการจัดเก็บภาษีนิติบุคคลจากร้อยละ 30 เป็นร้อยละ 23 โดยขอให้รัฐบาลไปคุยกับกลุ่มผู้ได้รับประโยชน์ในส่วนนี้ว่าขอเลื่อนไปอีก 1 ปี ซึ่งเชื่อว่าจะเข้าใจ เพราะจะทำให้รัฐบาลมีรายได้ 1 แสนล้านบาทเพื่อนำเงินส่วนนี้ไปตั้งกองทุนให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีพื้นฟกิจการหลังจากน้ำท่วม และยกเลิกนโยบายที่ผิดกาลเทศะ เช่น รถคันแรก บ้านหลังแรก โดยให้เลื่อนไป 1 ปี เพื่อจะเอามาเงินใช้สำหรับการฟื้นฟูน้ำท่วมและลดภาระการกู้เงินให้น้อยลง ซึ่งจะสามารถจ้างแรงงานได้วันละ 300 บาท ถึง 3 เดือน” นายกรณ์ กล่าว
