แม่ทัพภาคที่ 1 เผย น้ำท่วม กทม.แล้ว 50% หวังผู้เกี่ยวข้องบริหารจัดการปัญหาน้ำได้ เพื่อไม่ให้ขยายวงกว้างออกไปอีก ยังเชื่อป้อง “นิคมฯบางชัน-ลาดกระบัง” ได้ หลังเตรียมพร้อมคันกั้นน้ำเต็ม 100% แล้ว ระบุ ผบ.ทบ.สั่งทหารรวบรวมบทเรียนเสนอรัฐบาลหาทางแก้น้ำท่วมระยะยาว บอกหลังน้ำลดเตรียมจัด “บิ๊กคลีนนิ่งเดย์” กำจัดขยะ-น้ำเน่าเสีย
พล.ท.อุดมเดช สีตบุตร แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวภายหลังรับมอบแพจำนวน 21 ลำ และเครื่องอุปโภคบริโภคจำนวน 1 คันรถ จากโรงเรียนวังน้ำเย็นวิทยาคม และชมรมนักศึกษาววิชาทหารจังหวัดทหารบกสระแก้ว ถึงสถานการณ์น้ำท่วม ว่า ขณะนี้ยังมีพื้นที่ที่มีปัญหา คือ ดอนเมือง หลักสี่ สายไหม และที่เริ่มมีปัญหา คือ บางแค และ ทวีวัฒนา ภาพรวมขณะนี้น้ำท่วมในพื้นที่ กทม.50% เราหวังในเรื่องการบริหารจัดการน้ำ ถ้าบริหารจัดการได้ดี คงบรรรเทาความเดือดร้อนได้ แต่เป็นรื่องของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงที่จะชี้แจง กองทัพภาคที่ 1 เป็นหน่วยที่ให้การช่วยเหลือประชาชนจะพยายามทำให้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้
พล.ท.อุดมเดช กล่าวว่า ขณะนี้เราใช้ศักยภาพทั้งหมดตามที่ ผบ.ทบ.สั่งการ และรับนโยบายจากรัฐบาลมา โดยจัดทั้งกำลังพล และยุทโธปกรณ์ทุกอย่างส่งลงไปในพื้นที่น้ำท่วม
ส่วนพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมบางชัน และนิคมฯลาดกระบัง เราได้จัดกำลังไปช่วยป้องกันเมื่อ 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งที่นิคมฯลาดกระบัง มีจำนวน 2 กองร้อย โดยทุกจุดที่ทำคันกั้นน้ำมีความพร้อม 100% ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์น้ำที่จะเข้าไปจะมีผลกระทบแค่ไหน ซึ่งทั้งสองแห่งขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำ ถ้าไม่มากเกินไปก็สามารถป้องกันได้แต่ถ้าน้ำมาก และมีการรั่วทะลุจำเป็นจะต้องใช้กำลังพลและบริษัทต่างๆ ในนิคมฯต้องช่วยกันแก้ไข ซึ่งขณะนี้นิคมฯบางชัน ได้เตรียมความพร้อม 100% และหวังว่า สามารถป้องกันได้
ส่วนถ้าน้ำทะเลหนุนในช่วงกลางเดือน พ.ย.นี้ จะมีผลต่อแนวกั้นน้ำทั้ง 2 ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาหรือไม่นั้น พล.ท.อุดมเดช กล่าวว่า ขณะนี้เราได้มอบพื้นที่ให้หน่วยรับผิดชอบชัดเจน และมีการเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง ถ้าคันกั้นน้ำรั่วและไม่รีบดำเนินการทิ้งไว้จะแก้ไขลำบากจึงต้องมีการลาดตระเวนและเฝ้าตรวจ โดยต้องร่วมมือกับประชาชนในพื้นที่
ส่วนพื้นที่กรุงเทพฯชั้นใน ก็มีความเป็นห่วง ซึ่งขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการที่ถูกต้อง และเป็นไปในจังหวะที่เหมาะสม และบริหารที่ดี คิดว่า กรุงเทพฯชั้นในน่าจะรอดจากการถูกน้ำท่วมได้ ส่วนกำลังพลที่ออกไปช่วยเหลือมีความเพียงพอ เพราะเราจัดทหารจากหน่วยจากต่างจังหวัดเข้ามาเป็นหน่วยกองหนุนกระจายตามจุดต่างๆ ที่สำคัญ
อย่างไรก็ตาม ตนไม่อยากให้สถานการณ์ทำความเดือดร้อนให้ประชาชนมากกว่านี้ โดยพยายามเฝ้าติดตาม บริหารกำลังพล อุปกรณ์ต่างๆให้มีความทั่วถึงมากที่สุด ทั้งนี้ เราไม่ได้ประเมินน้ำต่ำ และเราเตรียมการในระดับที่สูงไว้ก่อน รวมถึงเตรียมแผนต่างๆ ไว้อย่างครบถ้วน
ทั้งนี้ น้ำที่อาจจะมุดตามท่อเราก็ระมัดระวังและเตรียมการสูบน้ำในจุดต่างๆ ทหารพยายามป้องกันในระดับหนึ่ง ส่วนที่ดูแลมาก คือ การช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนในการสัญจรบนถนนต่างๆ
พล.ท.อุดมเดช กล่าวว่า ส่วนแผนการฟื้นฟู เราได้รับการประสานจากหน่วยต่างๆ เพื่อจัดทำเป็นโครงการ “บิ๊ก คลีนนิ่งเดย์” ในบางจุดที่สามารถทำได้ นอกจากนี้ ผบ.ทบ.ยังกำหนดนโยบายการบำบัดน้ำเน่าเสีย โดยใช้จุลินทรีย์ นอกจากนี้ กองทัพภาคที่ 1 ยังต้องดำเนินการเก็บขยะจำนวนมาก โดยใช้กำลังพลร่วมมือกับเทศบาล โดยได้สั่งการให้หน่วยรองที่รับผิดชอบไปดำเนินการ หลังจากน้ำลด
สำหรับแนวทางฟื้นฟูอื่นๆ จะเตรียมสำรวจความเสียหายจะได้รู้ว่าในแต่ละพื้นที่ต้องทำอย่างไร เช่น การซ่อมแซมบ้านเรือน ซ่อมแซมถนนที่ชำรุด นอกจากนี้ ผบ.ทบ.ยังได้ให้หน่วยต่างๆที่รับผิดชอบในพื้นที่รวบรวมข้อคิดเห็นของหน่วยจากข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเพื่อจะดูว่า ปัญหาแต่ละพื้นที่ควรแก้ไขอย่างไร เพื่อนำข้อคิดเห็นเหล่านั้นมารวมกันนำเสนอผ่านกองทัพบกต่อไป เช่น ควรจะขุดคลอง หรือลอกคลอง หรือขยายเพิ่ม เพื่อทำเป็นช่องทางน้ำ หรือทำแก้มลิงที่ไหนบ้าง เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาระยะยาว และเพื่อช่วยเหลือรัฐบาลในการรับข้อมูลอีกทางหนึ่งในฐานะผู้ปฏิบัติที่ได้ทำงานใกล้ชิดกับประชาชน เพราะทุกคนคงไม่อยากเจอสภาพปัญหาอย่างนี้ต่อไป โดยกองทัพพร้อมร่วมมือกับรัฐบาลทุกอย่าง