xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กตู่” ย้ำ “ในหลวง” ทรงสู้กับความยากจน-ธรรมชาติ ให้คนไทยอยู่รอด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.(แฟ้มภาพ)
“ผบ.ทบ.” ยกย่องลูกน้องพระเอกตัวจริง ย้ำเป็นแค่ผู้ช่วยพระเอก ปลื้มใจลูกน้องเสียสละ ยอมรับนอนไม่หลับรู้สึกเครียด แต่แพ้ไม่ได้ แพ้แล้วประเทศเสียหาย เร่งศึกษาพระราชดำริ “ในหลวง” แก้ปัญหาน้ำ ย้ำทรงเป็นกษัตริย์สมัยใหม่สู้รบกับความยากจน-ธรรมชาติเพื่อให้คนไทยอยู่รอด วอนคนไทยเห็นแก่ส่วนรวมอย่าสร้างบ้านขวางทางน้ำ พร้อมให้ตัดงบกองทัพช่วยเหลือน้ำท่วม

วันนี้ (4 พ.ย.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ได้รับมอบเงินจำนวน 1 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือกำลังพลกองทัพบกที่ปฏิบัติการช่วยน้ำท่วมจากบริษัท ริโก้ ไทยแลนด์ จำกัด และรับมอบเรือกู้ภัย เรือพาย ถุงยังชีพและเสื้อชูชีพจากธนาคารไทยพาณิชย์

โดย พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า บริษัท ริโก้ ได้ยืนยันว่าจะไม่ย้ายฐานการผลิตออกจากประเทศไทย มีแต่จะขยายฐานการผลิต และยังมอบเงินเดือนให้พนักงานตามปกติ ส่วนเงินที่มอบให้ 1 ล้านบาทจะนำไปดูแลกำลังพลของกองทัพบก ซึ่งจะมอบให้สมาคมแม่บ้านทหารบกจัดของขวัญให้กำลังพลเรียบร้อยแล้ว ซึ่งน้ำใจจากทุกภาคส่วนทำให้กองทัพบกมีกำลังใจทำงาน ส่วนการดูแลสุขภาพกำลังพลระหว่างทำงานนั้น ตนสั่งให้ทุกหน่วยมีแพทย์ประจำหน่วย โดยมอบให้ รพ.ทหารทั้ง 37 แห่งทั่วประเทศจัดแพทย์เคลื่อนที่ลงมาดูแล ส่วนหนึ่งจะไปดูแลประชาชนและกำลังพลในพื้นที่ อีกส่วนก็จะจัดให้ในหน่วยทหารเวลาทหารกลับหน่วยจะได้มีแพทย์ดูแล ทหารเราต้องดูแลกันแบบนี้ทั้งอาหารการกินและสุขภาพพลานามัย ไม่อย่างนั้นจะไม่แข็งแรงและไม่สบาย ตอนนี้โชคดีที่ยังไม่มีใครป่วยหนัก

ผู้สื่อข่าวถามว่า สถานการณ์น้ำในปัจจุบันเป็นอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เท่าที่ฟัง ศปภ. ว่าน้ำเริ่มลดลงเป็นแนวโน้มที่ดี ขณะนี้ทำอย่างไรให้ประชาชนเดือนร้อนน้อยที่สุด ส่วนพื้นที่ประตูระบายน้ำคลองสามวา ซึ่งนำกำลังสารวัตรทหาร 200 นายเข้าไปควบคุมนั้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ต้องให้เครดิตเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำงานเต็มที่ การทำหน้าที่โดยตรงน่าจะเป็น ของตำรวจมากกว่า ขอให้ทหารทำงานในยามไม่ปกติจะดีกว่า

ต่อข้อถามว่า จากเทปพระดำรัสในหลวง ที่มีพระราชดำริเกี่ยวกับการป้องกันน้ำท่วมเมื่อปี 2538 กระทั่งปัจจุบันไม่สามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมได้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ได้ทบทวนและศึกษาดูหลายอย่าง ซึ่งต้องทำพนังกั้นน้ำหลายกิโลเมตร แต่ที่ผ่านมายังทำไม่ครบสมบูรณ์ เช่น 85 กม.ก็ทำได้แค่ 70-75 กม. ที่สำคัญคือ ความเข้าใจของประชาชนว่าผลประโยชน์ของชาติอยู่ตรงไหน เราจะรักษาบ้านเมืองของเราอย่างไร ทุกคนจะต้องมีส่วนได้ส่วนเสีย ส่วนได้คือประโยชน์ที่รัฐต้องไปดูแลทุกข์สุขของประชาชน ส่วนเสียคือ ทุกคนต้องยอมเสียสละบ้าง เช่น การเสียภาษี หรือสิ่งอื่นๆ ถ้าคิดแต่ไม่ทำก็มีปัญหาเกิดขึ้น หลังจากนี้เราควรจะต้องทบทวนว่าที่พระองค์ท่านรับสั่งทั้งหมดทำได้ครบหรือยัง อะไรที่ต้องทำให้ครบ ในหลวงฯท่านทรงริเริ่มมาตั้งแต่ทรงครองราชย์ไม่ใช่เพิ่งมาคิดเมื่อปี 2538 ท่านทรงต่อสู้เรื่องน้ำ เรื่องป่าไม้มาตลอด เหมือนกับเป็นองค์พระมหากษัตริย์ ที่ทรงนำประเทศชาติสู้รบกับธรรมชาติ ให้ประเทศไทยปลอดภัย ประชาชนต้องเข้าใจ รัฐบาลใช้กฎหมายอย่างเดียวคงไม่ได้ ต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลปะ

“พระองค์ท่านทรงริเริ่มทั้งหมดในการดูแลประเทศไทย ผมถึงบอกว่าประเทศไทยเรามีพระมหากษัตริย์ที่มีพระคุณอันประเสริฐต่อประเทศไทยมาโดยตลอด ทุกพระองค์ทำเพื่อประเทศชาติมาตลอด และในวันนี้พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์สมัยใหม่ คือไม่ได้สู้รบกับข้าศึก แต่สู้กับความยากจน และรบกับธรรมชาติเพื่อให้คนไทยอยู่รอดปลอดภัย ฉะนั้นรัฐบาลต้องสนองพระราชดำรินี้ และดำเนินงานต่อตามที่พระองค์ท่านเริ่มไว้ ไม่ใช่พระองค์ท่านเริ่มไว้แล้วต้องทำเองจนจบคงไม่ใช่” ผบ.ทบ.กล่าว

ต่อข้อถามว่า สิ่งก่อสร้างต่างๆขวางทางน้ำทำให้เกิดน้ำท่วม พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ทุกคนก็รู้อยู่แล้ว แต่วันนี้พูดไม่ได้ ไปตำหนิติติงชาวบ้านที่เขาเดือนร้อนคงไม่ได้ ต้องรอให้ความเดือนร้อนบรรเทาลงก่อนแล้วเรียกมาคุยว่าจะทำอย่างไรต่อไป ถ้ายังอยู่ในคลองระบายน้ำอย่างนี้ก็กีดขวางทางน้ำไปครึ่งคลองแล้ว ทำอะไรก็ลำบากต้องมาพูดคุยหาทางความพอดีมาเจอกัน หากไม่ให้เขาอยู่ที่นี่แล้วจะให้ไปอยู่ที่ไหน เพราะชาวบ้านที่อยู่ส่วนมากยากจนรัฐบาลก็ต้องดูแลเขา

เมื่อถามว่า ความคืบหน้าในการกู้สนามบินดอนเมือง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ความคืบหน้าในการวางกระสอบทรายเป็นไปด้วยดี ทาง รมว.คมนาคมรับผิดชอบอยู่ ทางทหารสนับสนุนกำลังพลดำเนินการตามแผน ซึ่งตนได้สั่งให้ตรวจสอบว่า ถ้ามีคนเข้าไปเพิ่มจะทำให้งานเดินหน้าได้เร็วขึ้นหรือไม่ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณของกระสอบทรายขนาดใหญ่ที่มีอยู่ด้วย แต่เราพยายามเร่งทำให้เร็วที่สุด ส่วนที่มองว่า รัฐบาลบริหารงานไม่ดี พยายามปัดความรับผิดชอบให้หน่วยงานต่างๆ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า คงไม่ใช่วันนี้ทุกคนต้องร่วมมือกันแก้ปัญหา ทั้งรัฐบาล กทม. ตำรวจ ประชาชน ปัญหาขณะนี้มีเรื่องเดียวคือ การบังคับใช้กฎหมาย โดยเฉพาะการพังพนังกั้นน้ำ ซึ่งต้องแก้ไขกันให้ได้จึงจะเป็นไปตามแผนงาน โดยนายกรัฐมนตรีคงไม่ได้วางแผนเอง เพราะท่านมีคณะทำงานที่มีความรู้เรื่องน้ำคอยให้คำปรึกษาและวางแผน ส่วนจะผิดหรือถูกขอให้แก้ปัญหาเรื่องน้ำ และฟื้นฟูให้ได้ก่อนค่อยมาทบทวนว่า เกิดอะไรขึ้นต้องทำอย่างไรต่อ หรือแก้ปัญหาอย่างไรไม่ให้เกิดขึ้นอีก อย่างกรณีการเปิดประตูระบายน้ำคลองสามวา เปิดแล้วน้ำก็ไม่ลด และยังคงท่วมเหมือนเดิมทั้งข้างบน ข้างล่าง และที่สำคัญน้ำจะเข้ามายังคลองแสนแสบ และคลองด้านตะวันออกทั้งหมด เมื่อเอ่อล้นขึ้นมาจะท่วมนิคมอุตสาหกรรมบางชัน และลาดกระบัง แล้วเข้ากรุงเทพฯ ทางด้านเขตบางกะปิ

เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าจะทำให้เศรษฐกิจเป็นอัมพาต พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ต้องแก้ปัญหาตามสถานการณ์ ขณะนี้วางแผนแล้วว่าจะป้องกันตรงไหนไม่ให้น้ำเข้าพื้นที่ชั้นใน เหมือนกับการสู้รบ ต้องเปลี่ยนกลยุทธ์และกลวิธีไปเรื่อยๆ สำหรับน้ำถ้าผ่านทางนี้ไม่ได้ ก็ไปทางซ้ายขวา และตลบหลังคล้ายกับข้าศึก ดังนั้น ต้องวางแผนสกัดกั้น ซึ่งเราจะรั้งหน่วงไปเรื่อยๆ และกำลังทหารจะถอยออกมาทีละขั้น และทิ้งส่วนป้องกันไว้ เพื่อดูแลทุกข์สุขประชาชน อีกส่วนหนึ่งเอามาใช้ในตัวเมือง ถ้าเป็นภาษาทหารเรียกว่า การรบหน่วงเวลา เพราะสถานการณ์เกิดขึ้นแล้ว น้ำมาแล้ว ซึ่งการสู้รบครั้งนี้ไม่ถือว่าเราแพ้ เพราะเราแพ้ไม่ได้ ถ้าแพ้ประเทศชาติเสียหายกว่านี้ ตอนนี้ยังถือว่าไม่แพ้ เรายังสู้กันอยู่ เพียงแต่ข้าศึกมามาก

เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่ ศปภ.จะย้ายไปอยู่ต่างจังหวัด พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า น่าจะอยู่ในกรุงเทพฯ เพียงแต่หาที่อยู่กันให้ได้ หากอยู่กันได้ก็สั่งการได้ ต้องไม่ลืมว่าการย้ายไปอยู่ต่างจังหวัดมีปัญหาเรื่องระยะทาง ทำให้มีภาระมากขึ้น ทั้งเรื่องที่พักคนทำงาน ความทันสมัยก็อยู่ในกรุงเทพฯ หากยังอยู่ในตึกกระทรวงพลังงานได้ ส่วนของตนก็อยู่ได้ ตนวางแผนว่าหากน้ำท่วมกองทัพบกได้เตรียมเรือเพื่อนำเรือไปเยี่ยมลูกน้อง ส่วนที่กังวลว่าปริมาณน้ำมีมากกว่าพื้นที่ กทม.นั้น คิดว่าเดี๋ยวน้ำก็ลง เพราะมีทางลงอยู่แล้ว อย่างไรก็ต้องผ่าน ไม่ให้ผ่านคงไม่ได้ น้ำเหนือต้องลงใต้

เมื่อถามว่า เหตุใดไม่ปล่อยให้น้ำผ่านตรงๆ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ต้องพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้มีผลกระทบกับศูนย์สั่งการ ศูนย์ราชการ พระราชวัง ซึ่งเป็นโบราณสถาน หากพังจะซ่อมไม่ได้ จึงพยายามเบี่ยงให้มากที่สุด เพื่อให้มีผลกระทบน้อยที่สุด ถ้าปล่อยให้ท่วมทั้งหมดก็ทำได้เหมือนกัน แต่อย่างไหนจะเสียหายมากกว่ากัน เราพยายามให้เสียหายน้อยที่สุด ที่สำคัญอย่าเครียด ตนก็รู้สึกเครียดเหมือนกัน ยังบ่นกับลูกน้องเลยว่านอนไม่หลับ เพราะห่วงลูกน้องและประชาชน คิดว่าทุกคนก็เป็นเช่นนี้ ตอนนี้ประเทศไทยเป็นอย่างนั้น

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เราต้องใช้วิกฤตเป็นโอกาส ทำให้ประชาชนเข้าใจและมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาของประเทศ ทุกส่วนต้องปรับเข้าหากัน ทุกวันนี้ทุกประเทศมองที่ผลประโยชน์ชาติเป็นหลัก หากมองแต่ประโยชน์ตัวเอง หรือพรรคพวกประเทศคงไปไม่ได้ อย่าลืมว่าต่างประเทศเขาดูเราอยู่ว่า เราจะแก้ปัญหาได้อย่างไร และเขาจะอยู่ประเทศไทยต่อไปหรือไม่ ต้องย้ายการลงทุนหรือไม่ ประเทศเราถูกจ้องมองอยู่ หากเรามัวแต่ทะเลาะกันคงไม่ดี การลงทุนไปประเทศอื่นหมดแล้วจะทำอย่างไร

เมื่อถามว่า เมื่อกองทัพถูกตัดงบประมาณในการพิจารณางบประมาณปี 2555 พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทุกกระทรวงก็โดนหมด กระทรวงละ 10% เพื่อนำไปช่วยน้ำท่วม ซึ่งต้องยอมรับว่าส่งผลกระทบต่อการทำงานโดยเฉพาะงบซ่อมบำรุง การจัดหาต่างๆจะลดลง เพราะงบประมาณส่วนใหญ่ 60-70% เป็นของกำลังพล ซึ่งไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เราไม่ได้เรียกร้อง เพราะรู้ดีว่าประเทศมีปัญหา ขาดแคลน ต้องดูแลประชาชนและฟื้นฟู ซึ่งยอมรับได้ แต่สิ่งไหนที่สำคัญหากรัฐบาลมีงบประมาณเราจะขอกลับมาใหม่ ซึ่งเป็นงบกลางของรัฐบาล ตนเข้าใจถึงปัญหาของประชาชน เบี้ยเลี้ยงไม่มีก็ไม่เป็นไร ถึงไม่มีเงินก็ขอให้มีข้าวกินก็พอ

“อยากให้การทำงานของทหารเดินไปข้างหน้า ผมรู้สึกชื่นใจเพราะลูกน้องก็ยังโอเค และเชื่อมั่นในการบังคับบัญชา สั่งการไปทุกคนทำได้พร้อมไปพัฒนาและคิดต่อ ตั้งแต่ ผบ.สั่งการไป แม่ทัพ ผบ.พล. ผู้การกรม จนถึงพลทหาร ก็ไปคิดต่อออกมาเป็นผลงานให้เห็น สิ่งสำคัญที่ปลื้มและยินดีคือ เราไม่คิดถึงผลประโยชน์ เสียสละ ไม่ห่วงใยชีวิตตนเอง สะท้อนใจว่า เราเป็นผู้บังคับบัญชาเขา ต้องดูแลลูกน้องให้ดีที่สุด ทหารอยู่ด้วยการปกครองบังคับบัญชาอยากให้กองทัพเป็นปึกแผ่น อยากทำงานของเรา ตามกระบวนการประชาธิปไตย” ผบ.ทบ.ระบุ

เมื่อถามว่า รู้สึกอย่างไรที่คนมองว่าบทบาทการแก้ปัญหาน้ำท่วมของ ผบ.ทบ.เปรียบเหมือน นายกรัฐมนตรีคนหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า คงไม่ใช่ นายกรัฐมนตรีมีอยู่แล้ว คือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และมีรัฐบาลที่ถูกต้องตามกฎหมาย “ผมไม่ได้เป็นพระเอก ผมเป็นได้แค่ผู้ช่วยพระเอก ลูกน้องของผมต่างหากที่เป็นพระเอก”
กำลังโหลดความคิดเห็น