วานนี้ (4 พ.ย. ) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ได้รับมอบเงินจำนวน 1 ล้านบาทจากบริษัท ริโก้ไทยแลนด์ จำกัด เพื่อช่วยเหลือกำลังพลกองทัพบก ที่ปฏิบัติการช่วยน้ำท่วม และรับมอบเรือกู้ภัย เรือพาย ถุงยังชีพ และเสื้อชูชีพ จากธนาคารไทยพาณิชย์
โดยพล.อ.ประยุทธ์ เปิดเผยว่าจะนำเงินที่ได้รับมอบ 1 ล้านบาทไปมอบให้สมาคมแม่บ้านทหารบก จัดของขวัญให้กำลังพลที่ทำงานอย่างหนักในขณะนี้
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงสถานการณ์น้ำในขณะนี้ ว่า เท่าที่ฟัง ศปภ. บอกว่าน้ำเริ่มลดลง ก็เป็นแนวโน้มที่ดี ส่วนพื้นที่ประตูระบายน้ำคลองสามวา ซึ่งนำกำลังสารวัตรทหาร 200 นายเข้าไปควบคุมนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องให้เครดิตเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ทำงานเต็มที่การทำหน้าที่โดยตรงน่าจะเป็นของตำรวจ ส่วนทหารจะทำงานในยามไม่ปกติ จะดีกว่า
**เทิดในหลวงสู้ความยากจน-ภัยธรรมชาติ
เมื่อถามว่า จากคลิปในหลวงฯ ที่มีพระราชดำริฯป้องกันน้ำท่วมเมื่อปี 2538 กระทั่งปัจจุบันไม่สามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมได้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ได้ทบทวนและศึกษาดูหลายอย่าง ซึ่งต้องทำพนังกั้นน้ำหลายกม. แต่ที่ผ่านมายังทำไม่ครบสมบรูณ์ เช่น 85 ก.ม. ก็ทำได้แค่ 70-75 ก.ม. ที่สำคัญคือ ความเข้าใจของประชาชนว่า ผลประโยชน์ของชาติอยู่ตรงไหน เราจะรักษาบ้านเมืองของเราอย่างไร ทุกคนจะต้องมีส่วนได้ส่วนเสีย ส่วนได้ คือประโยชน์ที่รัฐต้องไปดูแลทุกข์สุขของประชาชน ส่วนเสียคือ ทุกคนต้องยอมเสียสละบ้าง เช่น การเสียภาษี หรือสิ่งอื่นๆ ถ้าคิดแต่ไม่ทำ ก็มีปัญหาเกิดขึ้น หลังจากนี้เราควรจะต้องทบทวนว่า ที่พระองค์ท่านรับสั่งทั้งหมดทำได้ครบหรือยัง อะไรที่ต้องทำให้ครบ ในหลวงฯท่านทรงริเริ่มมาตั้งแต่ทรงครองราชย์ไม่ใช่เพิ่งมาคิดเมื่อปี 2538 ท่านทรงต่อสู้เรื่องน้ำ เรื่องป่าไม้มาตลอด เหมือนกับเป็นองค์พระมหากษัตริย์ ที่ทรงนำประเทศชาติสู้รบกับธรรมชาติ ให้ประเทศไทยปลอดภัย ประชาชนต้องเข้าใจ รัฐบาลใช้กฎหมายอย่างเดียวคงไม่ได้ ต้องใช้ทั้งศาสตร์ และศิลปะ
"พระองค์ ท่านทรงริเริ่มทั้งหมดในการดูแลประเทศไทย ผมถึงบอกว่าเรามีพระมหากษัตริย์ ที่มีพระคุณอันประเสริฐต่อประเทศไทยมาโดยตลอด ทุกพระองค์ทำเพื่อประเทศชาติมาตลอด และในวันนี้พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์สมัยใหม่ คือ ไม่ได้สู้รบกับข้าศึก แต่สู้กับความยากจน และรบกับธรรมชาติ เพื่อให้คนไทยอยู่รอดปลอดภัย ฉะนั้นรัฐบาลต้องสนองพระราชดำรินี้ และดำเนินงานต่อตามที่พระองค์ท่านเริ่มไว้ ไม่ใช่พระองค์ท่านเริ่มไว้แล้วต้องทำเองจนจบ คงไม่ใช่" ผบ.ทบ.กล่าว
** หลังน้ำลดต้องเคลียร์ชุมชนริมคลอง
เมื่อถามว่า สิ่งก่อสร้างต่างๆ ที่ขวางทางน้ำจะทำอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทุกคนก็รู้อยู่แล้ว แต่วันนี้พูดไม่ได้ ไปตำหนิติติงชาวบ้านที่เขาเดือนร้อนคงไม่ได้ ต้องรอให้ความเดือนร้อนบรรเทาลงก่อน แล้วเรียกมาคุยว่าจะทำอย่างไรต่อไป ถ้ายังอยู่ในคลองระบายน้ำอย่างนี้ ก็กีดขวางทางน้ำไปครึ่งคลองแล้ว ทำอะไรก็ลำบาก ต้องมาพูดคุยหาทางความพอดีมาเจอกัน หากไม่ให้เขาอยู่ที่นี่ แล้วจะให้ไปอยู่ที่ไหน เพราะชาวบ้านที่อยู่ส่วนมากยากจน รัฐบาลก็ต้องดูแลเขา
ส่วนความคืบหน้าในการกู้สนามบินดอนเมืองนั้น การวางกระสอบมทรายเป็นไปด้วยดี ทางรมว.คมนาคม รับผิดชอบอยู่ ทางทหารสนับสนุนกำลังพลดำเนินการตามแผน ซึ่งตนได้สั่งให้ตรวจสอบว่าถ้ามีคนเข้าไปเพิ่ม จะทำให้งานเดินหน้าได้เร็วขึ้นหรือไม่ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณของกระสอบทรายขนาดใหญ่ที่มีอยู่ด้วย แต่เราพยายามเร่งทำให้เร็วที่สุด
**ติงแผนเปิดคลองสามวาผิดพลาด
ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า รัฐบาลบริหารงานไม่ดี พยายามปัดความรับผิดชอบให้หน่วยงานต่างๆ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า คงไม่ใช่ วันนี้ทุกคนต้องร่วมมือกันแก้ปัญหา ทั้งรัฐบาล กทม. ตำรวจ ประชาชน ปัญหาขณะนี้มีเรื่องเดียวคือ การบังคับใช้กฎหมาย โดยเฉพาะการพังพนังกั้นน้ำ ซึ่งต้องแก้ไขกันให้ได้ จึงจะเป็นไปตามแผนงาน โดยนายกรัฐมนตรีคงไม่ได้วางแผนเอง เพราะท่านมีคณะทำงานที่มีความรู้เรื่องน้ำคอยให้คำปรึกษา และวางแผน ส่วนจะผิดหรือถูก ขอให้แก้ปัญหาเรื่องน้ำ และฟื้นฟูให้ได้ก่อน ค่อยมาทบทวนว่า เกิดอะไรขึ้น ต้องทำอย่างไรต่อ หรือแก้ปัญหาอย่างไรไม่ให้เกิดขึ้นอีก อย่างกรณีการเปิดประตูระบายน้ำคลองสามวา เปิดแล้วน้ำก็ไม่ลด และยังคงท่วมเหมือนเดิมทั้งข้างบน ข้างล่าง และที่สำคัญน้ำ จะเข้ามายังคลองแสนแสบ และคลองด้านตะวันออกทั้งหมด เมื่อเอ่อล้นขึ้นมา จะท่วมนิคมอุตสาหกรรมบางชัน และลาดพระบัง แล้วเข้ากรุงเทพฯ ทางด้านเขตบางกะปิ
"ขณะนี้วางแผนแล้วว่า จะป้องกันตรงไหนไม่ให้น้ำเข้าพื้นที่ชั้นใน เหมือนกับการสู้รบ ต้องเปลี่ยนกลยุทธ์ และกลวิธีไปเรื่อยๆ ถ้าน้ำผ่านทางนี้ไม่ได้ ก็ไปทางซ้าย ขวา และตลบหลังคล้ายกับข้าศึก ดังนั้น ต้องวางแผนสกัดกั้น ซึ่งเราจะรั้งหน่วงไปเรื่อยๆ และกำลังทหารจะถอยออกมาทีละขั้น และทิ้งส่วนป้องกันไว้ เพื่อดูแลทุกข์สุขประชาชน ซึ่งการสู้รบ ครั้งนี้ไม่ถือว่าเราแพ้ เพราะเราแพ้ไม่ได้ ถ้าแพ้ประเทศชาติเสียหายกว่านี้ ตอนนี้ยังถือว่าไม่แพ้ เรายังสู้กันอยู่ เพียงแต่ข้าศึกมามาก "
** ยอมรับเครียดจนนอนไม่หลับ
ส่วน ที่กังวลว่าปริมาณน้ำมีมากกว่าพื้นที่กทม.นั้น คิดว่าเดี๋ยวน้ำก็ลง เพราะมีทางลงอยู่แล้ว อย่างไรก็ต้องผ่าน ไม่ให้ผ่านคงไม่ได้ น้ำเหนือต้องลงใต้
เมื่อถามว่า เหตุใดไม่ปล่อยให้น้ำผ่านตรงๆ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้มีผลกระทบกับศูนย์สั่งการ ศูนย์ราชการ พระราชวัง ซึ่งเป็นโบราณสถาน หากพังจะซ่อมไม่ได้ จึงพยายามเบี่ยงให้มากที่สุด เพื่อให้มีผลกระทบน้อยที่สุด ถ้าปล่อยให้ท่วมทั้งหมดก็ทำได้เหมือนกัน แต่อย่างไหนจะเสียหายมากกว่ากัน เราพยายามให้เสียหายน้อยที่สุด ที่สำคัญอย่าเครียด ตนก็รู้สึกเครียดเหมือนกัน ยังบ่นกับลูกน้องเลยว่า นอนไม่หลับ เพราะห่วงลูกน้อง และประชาชน คิดว่าทุกคนก็เป็นเช่นนี้ ตอนนี้ประเทศไทยเป็นอย่างนั้น
เมื่อถามว่า เมื่อกองทัพถูกตัดงบประมาณในการพิจารณางบประมาณปี 2555 พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทุกกระทรวงก็โดนหมด กระทรวงละ 10 % เพื่อนำไปช่วยน้ำท่วม ซึ่งต้องยอมรับว่า ส่งผลกระทบต่อการทำงาน โดยเฉพาะงบซ่อมบำรุง การจัดหาต่างๆ จะลดลง เพราะงบประมาณส่วนใหญ่ 60 -70 % เป็นของกำลังพล ซึ่งไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เราไม่ได้เรียกร้อง เพราะรู้ดีว่าประเทศมีปัญหา ต้องดูแลประชาชน และฟื้นฟู ซึ่งเรายอมรับได้ แต่สิ่งไหนที่สำคัญหากรัฐบาลมีงบประมาณ เราจะขอกลับมาใหม่ ซึ่งเป็นงบกลางของรัฐบาล ตนเข้าใจถึงปัญหาของประชาชน เบี้ยเลี้ยงไม่มี ก็ไม่เป็นไร ถึงไม่มีเงิน ก็ขอให้มีข้าวกินก็พอ
เมื่อถามว่ารู้สึกอย่างไรที่คนมองว่า บทบาทการแก้ปัญหาน้ำท่วมของ ผบ.ทบ.เปรียบเหมือน นายกรัฐมนตรีคนหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า คงไม่ใช่
" นายกรัฐมนตรีมีอยู่แล้ว คือน.ส.ยิ่งลักษณ์ และมีรัฐบาลที่ถูกต้องตามกฎหมาย ผมไม่ได้เป็นพระเอก ผมเป็นได้แค่ผู้ช่วยพระเอก ลูกน้องของผมต่างหากที่เป็นพระเอก" ผบ.ทบ. กล่าว
---------------------------
โดยพล.อ.ประยุทธ์ เปิดเผยว่าจะนำเงินที่ได้รับมอบ 1 ล้านบาทไปมอบให้สมาคมแม่บ้านทหารบก จัดของขวัญให้กำลังพลที่ทำงานอย่างหนักในขณะนี้
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงสถานการณ์น้ำในขณะนี้ ว่า เท่าที่ฟัง ศปภ. บอกว่าน้ำเริ่มลดลง ก็เป็นแนวโน้มที่ดี ส่วนพื้นที่ประตูระบายน้ำคลองสามวา ซึ่งนำกำลังสารวัตรทหาร 200 นายเข้าไปควบคุมนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องให้เครดิตเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ทำงานเต็มที่การทำหน้าที่โดยตรงน่าจะเป็นของตำรวจ ส่วนทหารจะทำงานในยามไม่ปกติ จะดีกว่า
**เทิดในหลวงสู้ความยากจน-ภัยธรรมชาติ
เมื่อถามว่า จากคลิปในหลวงฯ ที่มีพระราชดำริฯป้องกันน้ำท่วมเมื่อปี 2538 กระทั่งปัจจุบันไม่สามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมได้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ได้ทบทวนและศึกษาดูหลายอย่าง ซึ่งต้องทำพนังกั้นน้ำหลายกม. แต่ที่ผ่านมายังทำไม่ครบสมบรูณ์ เช่น 85 ก.ม. ก็ทำได้แค่ 70-75 ก.ม. ที่สำคัญคือ ความเข้าใจของประชาชนว่า ผลประโยชน์ของชาติอยู่ตรงไหน เราจะรักษาบ้านเมืองของเราอย่างไร ทุกคนจะต้องมีส่วนได้ส่วนเสีย ส่วนได้ คือประโยชน์ที่รัฐต้องไปดูแลทุกข์สุขของประชาชน ส่วนเสียคือ ทุกคนต้องยอมเสียสละบ้าง เช่น การเสียภาษี หรือสิ่งอื่นๆ ถ้าคิดแต่ไม่ทำ ก็มีปัญหาเกิดขึ้น หลังจากนี้เราควรจะต้องทบทวนว่า ที่พระองค์ท่านรับสั่งทั้งหมดทำได้ครบหรือยัง อะไรที่ต้องทำให้ครบ ในหลวงฯท่านทรงริเริ่มมาตั้งแต่ทรงครองราชย์ไม่ใช่เพิ่งมาคิดเมื่อปี 2538 ท่านทรงต่อสู้เรื่องน้ำ เรื่องป่าไม้มาตลอด เหมือนกับเป็นองค์พระมหากษัตริย์ ที่ทรงนำประเทศชาติสู้รบกับธรรมชาติ ให้ประเทศไทยปลอดภัย ประชาชนต้องเข้าใจ รัฐบาลใช้กฎหมายอย่างเดียวคงไม่ได้ ต้องใช้ทั้งศาสตร์ และศิลปะ
"พระองค์ ท่านทรงริเริ่มทั้งหมดในการดูแลประเทศไทย ผมถึงบอกว่าเรามีพระมหากษัตริย์ ที่มีพระคุณอันประเสริฐต่อประเทศไทยมาโดยตลอด ทุกพระองค์ทำเพื่อประเทศชาติมาตลอด และในวันนี้พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์สมัยใหม่ คือ ไม่ได้สู้รบกับข้าศึก แต่สู้กับความยากจน และรบกับธรรมชาติ เพื่อให้คนไทยอยู่รอดปลอดภัย ฉะนั้นรัฐบาลต้องสนองพระราชดำรินี้ และดำเนินงานต่อตามที่พระองค์ท่านเริ่มไว้ ไม่ใช่พระองค์ท่านเริ่มไว้แล้วต้องทำเองจนจบ คงไม่ใช่" ผบ.ทบ.กล่าว
** หลังน้ำลดต้องเคลียร์ชุมชนริมคลอง
เมื่อถามว่า สิ่งก่อสร้างต่างๆ ที่ขวางทางน้ำจะทำอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทุกคนก็รู้อยู่แล้ว แต่วันนี้พูดไม่ได้ ไปตำหนิติติงชาวบ้านที่เขาเดือนร้อนคงไม่ได้ ต้องรอให้ความเดือนร้อนบรรเทาลงก่อน แล้วเรียกมาคุยว่าจะทำอย่างไรต่อไป ถ้ายังอยู่ในคลองระบายน้ำอย่างนี้ ก็กีดขวางทางน้ำไปครึ่งคลองแล้ว ทำอะไรก็ลำบาก ต้องมาพูดคุยหาทางความพอดีมาเจอกัน หากไม่ให้เขาอยู่ที่นี่ แล้วจะให้ไปอยู่ที่ไหน เพราะชาวบ้านที่อยู่ส่วนมากยากจน รัฐบาลก็ต้องดูแลเขา
ส่วนความคืบหน้าในการกู้สนามบินดอนเมืองนั้น การวางกระสอบมทรายเป็นไปด้วยดี ทางรมว.คมนาคม รับผิดชอบอยู่ ทางทหารสนับสนุนกำลังพลดำเนินการตามแผน ซึ่งตนได้สั่งให้ตรวจสอบว่าถ้ามีคนเข้าไปเพิ่ม จะทำให้งานเดินหน้าได้เร็วขึ้นหรือไม่ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณของกระสอบทรายขนาดใหญ่ที่มีอยู่ด้วย แต่เราพยายามเร่งทำให้เร็วที่สุด
**ติงแผนเปิดคลองสามวาผิดพลาด
ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า รัฐบาลบริหารงานไม่ดี พยายามปัดความรับผิดชอบให้หน่วยงานต่างๆ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า คงไม่ใช่ วันนี้ทุกคนต้องร่วมมือกันแก้ปัญหา ทั้งรัฐบาล กทม. ตำรวจ ประชาชน ปัญหาขณะนี้มีเรื่องเดียวคือ การบังคับใช้กฎหมาย โดยเฉพาะการพังพนังกั้นน้ำ ซึ่งต้องแก้ไขกันให้ได้ จึงจะเป็นไปตามแผนงาน โดยนายกรัฐมนตรีคงไม่ได้วางแผนเอง เพราะท่านมีคณะทำงานที่มีความรู้เรื่องน้ำคอยให้คำปรึกษา และวางแผน ส่วนจะผิดหรือถูก ขอให้แก้ปัญหาเรื่องน้ำ และฟื้นฟูให้ได้ก่อน ค่อยมาทบทวนว่า เกิดอะไรขึ้น ต้องทำอย่างไรต่อ หรือแก้ปัญหาอย่างไรไม่ให้เกิดขึ้นอีก อย่างกรณีการเปิดประตูระบายน้ำคลองสามวา เปิดแล้วน้ำก็ไม่ลด และยังคงท่วมเหมือนเดิมทั้งข้างบน ข้างล่าง และที่สำคัญน้ำ จะเข้ามายังคลองแสนแสบ และคลองด้านตะวันออกทั้งหมด เมื่อเอ่อล้นขึ้นมา จะท่วมนิคมอุตสาหกรรมบางชัน และลาดพระบัง แล้วเข้ากรุงเทพฯ ทางด้านเขตบางกะปิ
"ขณะนี้วางแผนแล้วว่า จะป้องกันตรงไหนไม่ให้น้ำเข้าพื้นที่ชั้นใน เหมือนกับการสู้รบ ต้องเปลี่ยนกลยุทธ์ และกลวิธีไปเรื่อยๆ ถ้าน้ำผ่านทางนี้ไม่ได้ ก็ไปทางซ้าย ขวา และตลบหลังคล้ายกับข้าศึก ดังนั้น ต้องวางแผนสกัดกั้น ซึ่งเราจะรั้งหน่วงไปเรื่อยๆ และกำลังทหารจะถอยออกมาทีละขั้น และทิ้งส่วนป้องกันไว้ เพื่อดูแลทุกข์สุขประชาชน ซึ่งการสู้รบ ครั้งนี้ไม่ถือว่าเราแพ้ เพราะเราแพ้ไม่ได้ ถ้าแพ้ประเทศชาติเสียหายกว่านี้ ตอนนี้ยังถือว่าไม่แพ้ เรายังสู้กันอยู่ เพียงแต่ข้าศึกมามาก "
** ยอมรับเครียดจนนอนไม่หลับ
ส่วน ที่กังวลว่าปริมาณน้ำมีมากกว่าพื้นที่กทม.นั้น คิดว่าเดี๋ยวน้ำก็ลง เพราะมีทางลงอยู่แล้ว อย่างไรก็ต้องผ่าน ไม่ให้ผ่านคงไม่ได้ น้ำเหนือต้องลงใต้
เมื่อถามว่า เหตุใดไม่ปล่อยให้น้ำผ่านตรงๆ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้มีผลกระทบกับศูนย์สั่งการ ศูนย์ราชการ พระราชวัง ซึ่งเป็นโบราณสถาน หากพังจะซ่อมไม่ได้ จึงพยายามเบี่ยงให้มากที่สุด เพื่อให้มีผลกระทบน้อยที่สุด ถ้าปล่อยให้ท่วมทั้งหมดก็ทำได้เหมือนกัน แต่อย่างไหนจะเสียหายมากกว่ากัน เราพยายามให้เสียหายน้อยที่สุด ที่สำคัญอย่าเครียด ตนก็รู้สึกเครียดเหมือนกัน ยังบ่นกับลูกน้องเลยว่า นอนไม่หลับ เพราะห่วงลูกน้อง และประชาชน คิดว่าทุกคนก็เป็นเช่นนี้ ตอนนี้ประเทศไทยเป็นอย่างนั้น
เมื่อถามว่า เมื่อกองทัพถูกตัดงบประมาณในการพิจารณางบประมาณปี 2555 พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทุกกระทรวงก็โดนหมด กระทรวงละ 10 % เพื่อนำไปช่วยน้ำท่วม ซึ่งต้องยอมรับว่า ส่งผลกระทบต่อการทำงาน โดยเฉพาะงบซ่อมบำรุง การจัดหาต่างๆ จะลดลง เพราะงบประมาณส่วนใหญ่ 60 -70 % เป็นของกำลังพล ซึ่งไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เราไม่ได้เรียกร้อง เพราะรู้ดีว่าประเทศมีปัญหา ต้องดูแลประชาชน และฟื้นฟู ซึ่งเรายอมรับได้ แต่สิ่งไหนที่สำคัญหากรัฐบาลมีงบประมาณ เราจะขอกลับมาใหม่ ซึ่งเป็นงบกลางของรัฐบาล ตนเข้าใจถึงปัญหาของประชาชน เบี้ยเลี้ยงไม่มี ก็ไม่เป็นไร ถึงไม่มีเงิน ก็ขอให้มีข้าวกินก็พอ
เมื่อถามว่ารู้สึกอย่างไรที่คนมองว่า บทบาทการแก้ปัญหาน้ำท่วมของ ผบ.ทบ.เปรียบเหมือน นายกรัฐมนตรีคนหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า คงไม่ใช่
" นายกรัฐมนตรีมีอยู่แล้ว คือน.ส.ยิ่งลักษณ์ และมีรัฐบาลที่ถูกต้องตามกฎหมาย ผมไม่ได้เป็นพระเอก ผมเป็นได้แค่ผู้ช่วยพระเอก ลูกน้องของผมต่างหากที่เป็นพระเอก" ผบ.ทบ. กล่าว
---------------------------