เหตุการณ์ระเบิด 3 จุดที่ซอยปรีดีพยมยงค์ 31 เมื่อบ่ายวันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นับว่า เป็นโชคดีในท่ามกลางข่าวร้าย ที่ระเบิดที่ผู้ก่อเหตุชาวอิหร่านเตรียมจะนำไปก่อเหตุนั้นได้เกิดระเบิดขึ้นมาเสียก่อน แม้จะเกิดความสูญเสียขึ้นแล้ว คือ มีผู้บาดเจ็บ ทรัพย์สินเสียหาย แต่ก็ถือว่าเป็นความเสียหายในวงจำกัด
หลังเกิดเหตุ ตำรวจไปตรวจค้นบ้านพักในซอยที่เกิดระเบิดขึ้นก่อนเป็นจุดแรก และเป็นที่พักของนายซาอิฟ โมราบิ ชาวอิหร่านที่โยนระเบิดใส่แท็กซี่ กับตำรวจ แต่ไม่พ้นตัว ระเบิดตกใส่ตัวเองจนขาขาดทั้งสองข้าง พบระเบิดซีโฟร์ 2 ปอนด์อยู่ในบ้านพัก
หากไม่เกิดเหตุระเบิดขึ้นเสียก่อน ระเบิดเหล่านี้จะถูกนำไปใข้กับเป้าหมาย ซึ่งรัฐบาลอิสราเอลระบุว่า คือ ทูต และเจ้าหน้าที่สถานทูตอิสราเอลในประเทศไทย ความสูญเสีย และความรุนแรงคงจะมากกว่านี้หลายเท่า
เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นของจริง ที่ไม่ได้มีการจัดฉาก บังเอิญความแตก เป็นความซวยของผู้ร้าย เป็นโชคดีของประเทศไทย และเพราะว่าเป็นของจริง ไมได้จัดฉาก จึงทำให้ผู้ที่มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งฝ่ายการเมือง ในรัฐบาลอยู่ในอาการ “ ใบ้กิน” พูดไม่ออก ไม่สามารถแสดงความคิดเห็นใดๆ ได้เลย
ค่ำวานซืน มีรัฐมนตรีคนหนึ่งให้สัมภาษณ์ว่า น่าจะเป็นเรืองส่วนตัว คงลืมไปว่าตัวเองเป็นถึงรัฐมนตรีแล้ว ไม่ใช่เป็นแค่เพื่อนทักษิณ ต้องระวัง อย่าเผลอให้ความโง่แสดงตัวออกมา
ส่วนนายกฯ นกแก้ว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งกำลังเดินสายกรวดน้ำท่วมอยู่ รายนั้นไม่ต้องพูดถึง เอาแค่เรื่องอิหร่านกับอิสราเอลมีปัญหาอะไรกัน เธอจะรู้หรือไม่??
ระเบิดทั่เป็นของจริองหนนี้ ร.ต.อ.เฉลิม อยุ่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี และผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คนที่สอง ผู้รู้ทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องที่เป็นความจริง เงียบผิดปกติ รอจนเหตุการณ์ผ่านไปแล้ว 24 ชั่วโมง จึงให้สัมภาษณ์แบบอวดรู้ว่ากลุ่มนี้เขาเข้ามาดูจากพฤติกรรม ดูจากวัตถุระเบิดไม่ใช่ระเบิดชนิดที่จะทำลายล้างในวงกว้าง ไม่ใช่ระเบิดที่ตั้งเวลาได้ แต่เป็นลูกระเบิด ถ้าคิดจะทำร้ายคนก็เป็นชนิดแบบขว้างปา ไม่มีรัศมีวงกว้างและไม่เกี่ยวกับฮิซบอลเลาะห์
จะเป็นฮิซบอลเลาะห์หรือไม่ จะเป็นระเบิดแบบไหน ไม่ใช่ประเด็นสำคํญ ข้อเท็จจริงคือ มีระเบิดเกิดขึ้น มีคนบาดเจ็บ และคนก่อเหตุคือชาวอิหร่าน บ้านที่พักก็มีระเบิดซุกซ่อนอยู่
ก่อนหน้านี้ ร.ต.อ.เฉลิม คุยใหญ่คุยโตว่ารัฐบาลติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ ที่ต้องสงสัยว่าจะเข้ามาใช้ประเทศไทยเป็นที่ก่อเหตุตลอดเวลา รู้หมดว่าใครเป็นใคร ใครทำอะไรบ้าง ขอให้มั่นใจว่าเอาอยู่ไม่มีปัญหา
เหตุการณ์ระเบิดครั้งนี้ เป็นของจริงที่สะท้อนความจริงว่า ฝ่ายความมั่นคงนั้นหละหลวมหย่อนยาน เป็นอย่างยิ่ง พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังยอมรับเองว่าไม่เคยได้รับแจ้งข่าว การเคลื่อนไหวของคนกลุ่มนี้จากสันติบาลเลย
เหตุการณ์ครั้งนี้ยังเป็นการตบหน้ารัฐบาลไทยฉาดใหญ่ โดยเฉพาะนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีต่างประเทศ ที่แสดงอาการไม่พอใจเมื่อครั้งสถานทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย รวมทั้งสถานทูตอื่นๆ อีกหลายประเทศเตือนชาวอเมริกันให้ระมัดระวังเหตุก่อการร้ายในย่านท่องเที่ยวของกรุงเทพฯ และเรียกร้องให้ยกเลิกคำเตือนโดยเร็ว โดยยืนยันว่าประเทศไทยปลอดภัย รัฐบาลเอาอยู่
ระเบิดครั้งนี้เป็นของจริง รัฐบาลไทยจึงทำอะไรไม่ถูก ได้แต่นิ่งเงียบ แตกต่างจากครั้งที่จับนายอาทริส ฮุนเซน ช่างตัดผมชาวเลบานอน ซึ่งมีการออกข่าวใหญ่โต มีการขยายผลไปค้นตึกแถวที่มหาชัย พบปุ๋ยยูเรียเป็นตันๆ และไม่ง่ายเหมือนการจับยาบ้า ยาอี ที่มีคนเอาไปกองทิ้งไว้ในกระท่อมกลางสวน รอให้ตำรวจไปจับ