xs
xsm
sm
md
lg

“ปู” ขู่ใช้ กม.ฟันพวกพังคันกั้นน้ำ-พบรอยแตกกว่า 10 จุดฝั่งตะวันตก เร่งอุดก่อน 13 พ.ย.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลงตรวจพื้นที่น้ำท่วมในชุมชนสรงประภา เขตดอนเมือง เมื่อเช้านี้(3พ.ย.)
นายกฯ ขู่ใช้กฎหมายจัดการพวกพังคันกั้นน้ำ เผยเห็นใจที่ถูกน้ำท่วม แต่รื้อไปก็ไม่ช่วยน้ำลด เร่งเสริมแนวป้องกันน้ำเข้ากรุง วางถุงทรายยักษ์สายไหมดอนเมือง-คลองสามวาถึงคลองหกวา พร้อมให้ กทม.รับช่วงเร่งระบายน้ำ ขณะฝั่งตะวันตกอาการหนัก พบรอยแตกริมเจ้าพระยากว่า 10 จุด ต้องซ่อมให้เสร็จใน 13 พ.ย. ยันยังไม่คิดย้าย ศปภ.กลับดอนเมือง



เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 3 พ.ย. ที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีเหตุการณ์พนังกั้นน้ำคลองประปาหลายจุดพังพร้อมๆ กันว่า เราต้องช่วยประชาสัมพันธ์กันมากขึ้น แต่ขณะเดียวกันจะต้องมีการพิจารณามาตรการขั้นเด็ดขาดในการเฝ้าระวังรักษาคันกั้นน้ำ จึงได้มีการย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดที่ประสบอุทกภัยทำความเข้าใจต่อพี่น้องประชาชน รวมถึงต้องขอความร่วมมือสื่อมวลชนที่จะช่วยกัน เพราะถ้าเราใช้วิธีดึงคันกั้นน้ำแล้วจะทำให้น้ำทะลักแรงขึ้น แต่ถ้าเรารักษาไว้ปล่อยให้น้ำไหลไปตามระบบจะทำให้การทำงานเป็นไปได้ง่ายขึ้น ถึงแม้เวลาจะช้าแต่จะมีความปลอดภัย ความเสียหายก็จะลดลง

“กราบขอความกรุณาพี่น้องประชาชน ดิฉันเองก็มีความเห็นใจพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วมขัง แต่การรื้อพังคันกั้นน้ำไม่ได้ทำให้น้ำลดลงไป แต่กลับทำให้น้ำแพร่ขยายตัวเป็นวงกว้างมากขึ้น และรัฐบาลเองทั้งแผนในส่วนของการฟื้นฟู และเยียวยาประชาชน ที่มีผลกระทบทั้งในส่วนของบ้านเรือน และไร่นา โดยมาตาการต่างๆ เราจะเร่งประกาศให้พี่น้องประชาชน และในเบื้องต้นเราได้มีการประกาศไปแล้ว ขอกราบเรียนพี่น้องประชาชนว่า ขอให้กำลังใจ และขอความร่วมมือในการทำงานร่วมกันอีกครั้งหนึ่ง”

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะใช้กฎหมายพิเศษเข้าไปดูแลหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เราจะพิจารณาดู ซึ่งตามหลักในส่วนของผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดมีอำนาจหน้าที่อยู่แล้วตาม พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย มาตรา 31 ที่จะดูในเขตพื้นที่เฝ้าระวัง หรือพื้นที่ห่วงห้าม และคงจะย้ำในมาตรการต่างๆ ในการรักษาคันคลองให้ดี

เมื่อถามว่า หนักใจหรือไม่ต้องเจอศึก 2 ด้าน ทั้งเรื่องน้ำ และเรื่องคน น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า “ต้องกราบเรียนว่า หนักใจค่ะ เพราะเป็นความทุกข์ใจที่ต้องเห็นพี่น้องประชาชนลำบาก แต่กราบเรียนว่า ครั้งนี้เป็นภัยธรรมชาติที่รุนแรง จริงๆ แล้วการทำงานต้องประสานงานกันเป็นอย่างมากกับคนหมู่มาก จึงมีความเครียด ทั้งเรื่องอารมณ์ต่างๆ ก็ขอกราบเรียนว่า ดิฉันเองทำงานเต็มที่ค่ะ และจะขอให้ความมั่นใจพี่น้องประชาชนว่า เจ้าหน้าที่ปฏิบัติอย่างเต็มที่ ซึ่งนี้คือสิ่งสำคัญทำให้พี่น้องประชาชนมีความไว้วางใจที่ดีขึ้น”

เมื่อถามว่า ท้องถิ่นควรจะมีบทบาทมากกว่านี้หรือไม่ ในการช่วยเหลือประชาชน น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า เราได้ขออยู่แล้ว แต่เนื่องจากกลไกท้องถิ่นอาจจะอยู่ใกล้กับพี่น้องประชาชน จึงเป็นความลำบากในการทำงาน และขอย้ำทุกท่านที่อยู่ในหน้าที่ในส่วนของท้องถิ่นต้องสู้ และร่วมมือกับรัฐบาล

“ดิฉันเองอยากเห็นการทำงานที่มีการคุยกันด้วยความเข้าใจมากกว่าการบังคับใช้กฎหมาย แต่บางครั้งเมื่อถึงเวลาจำเป็น เราก็ขอความกรุณาพี่น้องประชาชนให้เห็นใจในภาพรวมด้วย”

เมื่อถามย้ำว่า วันนี้เลยจุดในการทำความเข้าใจแล้วหรือยัง น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า จริงๆ แล้วในบางพื้นที่พี่น้องประชาชนมีความเข้าใจ ต้องกราบเรียนว่า ให้ไปดูในข้อเท็จจริง อย่างเช่นบางประตูเราเองก็ลงไป และเมื่อคืนวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา ตนก็ได้โทรศัพท์อย่างใกล้ชิดที่หน้างาน ในขณะที่เขาไปเจรจา มีหลายปัญหา ทั้งในส่วนของการหาตัวเจ้าหน้าที่ไม่เจอบ้าง หรือมวลชนมาชุมนุม ที่สำคัญต้องมีความพร้อมในการเข้าไปกับประชาชน และเชื่อว่าเมื่อชี้แจงแล้ว เราก็ขอความกรุณาจากพี่น้องประชาชนแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ประเมินสถานการณ์น้ำที่มาจากทางเหนือของกรุงเทพฯ จะขยายวงกว้างไปถึงจุดไหน นายกฯ กล่าวว่า ในส่วนของน้ำทางเหนือน่าจะลงมาน้อยลง เพราะว่าเราเองก็มีการหน่วงน้ำไว้ วันนี้ก็จะมีการติดตามในจุดประตูระบายน้ำต่างๆ ที่เราได้มีการสั่งการ และจะมีประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำทั้งหมด เพื่อที่จะเป็นเอกภาพในการตัดสินใจในการทำงาน เราจะติดตามตรงนี้ในส่วนของถุงทรายขนาดใหญ่ หรือบิ๊กแบ็ก ที่กั้นไว้ที่โลคัลโรด รังสิต ได้มีการสั่งการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่าน จะแล้วเสร็จในวันที่ 4 พ.ย.นี้ ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในการชะลอน้ำที่จะเข้ามาในดอนเมือง และสายไหม ส่วนที่น้ำขยายวงกว้าง ก็เพราะน้ำทะเลยังสูงกว่าแนวคันกั้นน้ำ และในฝั่งตะวันตกนตก ยังมีรอยแตกของคันกั้นน้ำอยู่เยอะ ที่ผ่านมาไม่ได้มีใครสำรวจหน้างาน และพบรอยแตกที่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา จะซ่อมเสร็จในวันที่ 13 พ.ย.นี้ ขออธิบายทีละฝั่งว่า ฝั่งตะวันออกต้องแก้ 2 ส่วนใหญ่ ๆ คือตรงประตูระบายน้ำตั้งแต่คลองสามวา ยาวไปถึงคลองหกวาสายล่าง และกั้นโดยบิ๊กแบ็ก ตลอดจนการระบายน้ำอย่างเต็มที่ของศูนย์ระบายน้ำของ กทม.ซึ่งทั้ง 3 ส่วนนี้ต้องทำงานสัมพันธ์กัน

สำหรับฝั่งตะวันตก ปัญหาที่พบคือมีรอยแตกของฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งหมด 10 กว่าจุด ซึ่งจะต้องแก้ไขให้เสร็จทั้งหมดภายในวันที่ 13 พ.ย. และยังพบว่าบางคลองยังไม่มีการทำแนวกั้นน้ำ ทั้งนี้ ฝั่งตะวันตกเป็นคลองที่อยู่ในแนวขวาง ดังนั้นการระบายจึงยากมาก บางพื้นที่แคบ จึงทำให้ฝั่งตะวันตกมีการระบายค่อนข้างยาก อาจต้องค่อยๆ รอระดับน้ำทะเลที่ลดต่ำกว่าคันกั้นน้ำจึงจะสูบระบายน้ำได้

ผู้สื่อข่าวถามถึงการที่ประชาชนออกมาโวยว่าการช่วยเหลือจากรัฐบาลล่าช้า นายกฯ กล่าวว่า ในพื้นที่ของ กทม.จะอยู่ภายใต้การดูแลของ กทม. แต่รัฐบาลก็ถือว่ามีหน้าที่ในการดูแลประชาชนทุกคน จึงได้เข้าไปสำรวจเพิ่มเติมและได้สั่งการให้กระทรวงพัฒนาสังคมได้เข้าไปตั้ง ศูนย์ทำครัวให้กับประชาชนโดยดึงผู้ว่าฯ ในจังหวัดที่น้ำไม่ท่วมมาร่วมในศูนย์ครัวเพื่อลำเลียงให้ประชาชนด้วย ทุกวันนี้รัฐบาลทำอยู่ไม่ได้หยุด และจะทำเพิ่มขึ้นอีกและจะเริ่มนำเรือมาแจกจ่ายประชาชนให้มากขึ้น และให้กระทรวงทรัพยากรฯ มาดูแลเกี่ยวกับการเยียวยาบำบัดน้ำเสียด้วย

เมื่อถามว่าจะมีการกำชับ ส.ส.ให้ลงพื้นที่ด้วยหรือไม่เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระ นายกฯ กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้ย้ำ ส.ส.ทุกคนแล้วว่าให้ลงไปช่วยเหลือและดูแลประชาชนซึ่งก็มี ส.ส.หลายคนลงไปทำงานแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่าหากน้ำท่วมมาถึง ศปภ. รัฐบาลจะมีแนวทางในการแก้ปัญหาอย่างไร น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ใน ศปภ.ความจริงแล้วมีทางเชื่อมลงได้ ซึ่งคงต้องรอดูผลจากการกั้นบิ๊กแบ็กก่อน ส่วนการกู้ที่ดอนเมืองนั้นก็มีฝ่ายกองทัพกำลังดำเนินการกู้อยู่ ยืนยันว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่คิดที่จะย้าย ศปภ.ไปที่อื่นอีก

“ตอนนี้ขอดูก่อน แต่ใจยังไม่อยากย้าย ยังอยากจะขอสู้ต่อไปอีก เพราะเราเองก็ตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ ก็จะขอรอดูผลก่อน และขณะนี้ยังไม่ได้สถานที่ใหม่ไว้ เพราะรัฐบาลไม่ว่าอยู่ที่ไหนเราก็ทำงานได้ และเชื่อมั่นว่าเดี๋ยวสถานการณ์ต่างๆ ก็จะคลี่คลาย ขอให้ทุกคนอดทน และปฏิบัติตามที่ได้ประชุมร่วมกันไว้” นายกฯ กล่าว

เมื่อถามถึงข้อเสนอให้รัฐบาลทำทางระบายน้ำ หรือฟลัดเวย์ ตามแนวทางพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลจะน้อมนำกระแสรับสั่งในเรื่องของฟลัดเวย์ และจะนำเรื่องนี้ไปให้คณะกรรมการที่จะพิจารณาเรื่องการฟื้นฟูระบบน้ำอย่างถาวร แต่เบื้องต้นจะเร่งดูการบูรณะถนนหนทางต่างๆ ให้ใช้ได้โดยเร็ว
กำลังโหลดความคิดเห็น