รมว.กลาโหม แนะ ศปภ.แบ่งงานให้หน่วยงานหลักรับผิดชอบ ขณะที่กองทัพคอยสนับสนุน เหตุพื้นที่กว้างแต่กำลังเท่าเดิม ระบุขนกำลังพลจากต่างจังหวัดมาหมดแล้ว เผยเตรียมกู้สนามบินดอนเมืองก่อน 4 พ.ย.นี้ ด้านเขตทวีวัฒนาขาดแคลนเต็นท์
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง "พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา" ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (1 พ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหม กล่าวถึงปัญหาในการทำระหว่างกองทัพและศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ว่า กองทัพยังมีศักยภาพ และพร้อมที่จะช่วยสนับสนุนการทำงานของ ศปภ.อย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พื้นที่การทำงานกว้างขึ้น การทำงานและภารกิจจึงมากขึ้น แต่กำลังพลมีเท่าเดิม หาก ศปภ.แบ่งมอบหน้าที่ให้กับบางส่วนรับผิดชอบเป็นหลัก และกองทัพคอยสนับสนุนก็จะสามารถทำงานได้เต็มที่ทุกพื้นที่ แต่หากมอบหน่วยเดียวทุกพื้นที่ทั้งหมด บางจุดก็ไม่สามารถจะใช้กำลังได้สมบูรณ์แบบ โดยเป็นห่วงในจุดนี้ จึงได้ขอให้มีการแบ่งมอบพื้นที่รับผิดชอบกันบ้างในช่วงที่น้ำขยายวงกว้างขึ้นและพื้นที่ใหญ่เพิ่มขึ้น ซึ่งตนพูดอย่างนี้ ไม่ได้พูดโวยวายแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีหน่วยใดที่จะพร่องถ่ายแบ่งเบาภาระไปได้บ้าง พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า มีหลายหน่วย อาทิ กทม. องค์กรต่างๆที่รับผิดชอบเรื่องน้ำ หรือสวัสดิการของประชาชน โดยทหารจะไปสนับสนุนในเรื่องการขนส่ง แต่การรับผิดชอบที่จะต้องดูแลก็แบ่งความรับผิดชอบกันไป ทั้งนี้ ในส่วนของเจ้าหน้าที่ทหารเราได้เริ่มมอบพื้นที่ให้ทหารไปช่วยแก้บำบัดน้ำเสียแล้ว เช่น อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก จ.ลพบุรี และต่อไปจะลงมาที่จ.พระนครศรีอยุธยา และกทม.ต่อไป ฉะนั้น กำลังที่อยู่ในพื้นที่ของทหารได้เริ่มดูแลในเรื่องการบำบัดน้ำเสียแล้วก่อนที่รัฐบาลจะสั่งการ โดยให้ พล.อ.วิเชษฐ์ วิสัญจร ผู้ช่วยบัญชาการทหารบก ที่มีความเชี่ยวชาญด้านนี้ดูแล
เมื่อถามว่า เหตุใดกองทัพอากาศจึงไม่สามารถป้องกันหรือกอบกู้พื้นที่ท่าอากาศยานดอนเมืองได้ รมว.กลาโหมกล่าวว่า น้ำมามากจริงๆ และทุกทิศทุกทาง ทั้งจากถนนพหลโยธิน เขตสายไหม พอเข้ามาพร้อมกันการป้องกันในพื้นที่จึงไม่สามารถจะป้องกันทัน ทั้งนี้ เราพร้อมที่จะเคลียร์เรื่องน้ำออกจากท่าอากาศยานดอนเมือง โดยการสูบน้ำออก ซึ่งต้องประสานงานกับทางกรมชลประทานว่าจะดึงน้ำออกไปอยู่ที่ใด โดยเราได้แจ้งไปยัง พล.อ.อ.อิทธิพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศไปแล้วว่าถ้าพร้อมเมื่อใดให้รายงานการสูบน้ำออกจากรันเวย์ และแท็กซี่เวย์ก่อน ซึ่งการดำเนินการนั้นต้องเริ่มทำก่อนวันที่ 4 พ.ย. นอกจากนี้ กองทัพอากาศยังได้ทำทุ่นลอยเพื่อให้เฮลิคอปเตอร์สามารถลงที่ท่าอากาศยานดอนเมืองได้ อย่างไรก็ตาม เราต้องแก้เฉพาะหน้าไปทุกเรื่องเท่าที่จะทำได้ เมื่อถามว่า มีหลายฝ่ายเสนอให้ทำแนวคันกั้นน้ำตามแนวพระราชดำริ รมว.กลาโหมกล่าวว่า แน่นอน ขณะนี้ทางกองทัพอากาศได้เสริมแนวคันกั้นน้ำทางด้านเหนือหมดแล้ว รวมทั้งถนนจันทรุเบกษาด้วย
เมื่อถามว่าจะสามารถนำกำลังพลจากต่างจังหวัดเข้ามาช่วยได้หรือไม่ รมว.กลาโหม กล่าวว่า ขณะนี้หน่วยจากต่างจังหวัดได้เข้ามาช่วยที่กทม.หมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นกองทัพภาคที่ 1-3 หน่วยแพทย์เสนารักษ์ จาก จ.พิษณุโลก เชียงใหม่ นครราชสีมา อุดรธานี ทั้งนี้ งานของทหารได้สั่งการเป็นระบบ และมีส่วนช่วยเหลือกะทันหันทันทีที่ได้รับโทรศัพท์หรือได้รับการร้องขอ เราจะส่งไปช่วยทันทีในบางจุด นอกจากนี้ การขุดลอกผักตบชวาที่คลองหกวา ที่ไม่ใช่หน้าที่ของทหาร เราก็ได้ให้กรมการทหารช่าง จ.ราชบุรีไปทำหน้าที่ได้
รมว.กลาโหมกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ทางกองทัพยังได้รายงานเรื่องการร้องขอเต็นท์ไปยังศปภ.แล้ว เนื่องจากที่คลองมหาสวัสดิ์ เขตทวีวัฒนา มีความต้องการเต็นท์มาก เพราะคนที่อพยพมาแล้ว หรือคนที่ไม่อยากอพยพนั้นต้องการให้มีจุดรวมที่จะรับการสนับสนุนเรื่องอาหาร อย่างไรก็ตาม ขณะยังไม่ได้รับรายงานว่ามีการอนุมัติแล้วหรือยัง
