“ยงยุทธ” ชี้มหาดไทย ยังเป็นหน่วยงานหลักดูแลเยียวยาหลังน้ำลด เผยเร่งหาวิธีฟื้นฟูนิคมอุตสาหกรรมให้เร็วที่สุด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุน พรุ่งนี้ถกหาข้อสรุปปัญหาคลองสามวา วอน ปชช.ลดราวาศอก ไกล่เกลี่ยทุกข์-สุขกัน ชี้ ย้าย ผวจ.ปทุมฯ จบ จะไม่ย้ายใครอีก
วันนี้ (1 พ.ย.) ที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงบทบาทของกระทรวงมหาดไทยที่จะต้องเป็นหน่วยงานหลักในเรื่องการฟื้นฟูเยียวยาหลังน้ำลด ว่า กระทรวงมหาดไทยจะเป็นแม่งานหลักเรื่องการฟื้นฟู เยียวยาและแผนในระยะยาวร่วมกับ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรี รับผิดชอบเรื่องสังคม นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี รับผิดชอบเรื่องเศรษฐกิจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยจะมีคณะกรรมการเยียวยาหนึ่งชุด คณะกรรมการแก้ปัญหาถาวรอีกหนึ่งชุด หลังจากนี้ ก็ต้องรอผลมติ ครม.ในสัปดาห์หน้าในเรื่องของบทบาทกระทรวงมหาดไทยที่จะมีมาอีกเยอะ สำหรับช่วงแรกเป็นช่วงที่ต้องเผชิญหน้าน้ำท่วม พอเริ่มเบาบางลงเรื่องฟื้นฟูเยียวยากับการแก้ไขปัญหาถาวรก็จะตามมา
นายยงยุทธ กล่าวต่อว่า ขณะนี้มีนักลงทุนหลายคนกำลังดูความชัดเจนของประเทศไทยในการแก้ปัญหาน้ำระยะยาว และเขาก็จะไม่ไปไหน เราก็ต้องทำให้เขามีความมั่นใจและมีความเชื่อมั่นให้ได้ ซึ่งจะต้องทำในระยะไม่เกิน 1 ปี แต่ในระยะยาว การสร้างความเชื่อมั่นต้องมีคณะกรรมการหลายชุด ส่วนเรื่องการเยียวยาก็เป็นเรื่องของประชาชนทั่วไปที่มีความเดือดร้อน ให้มีชีวิตกลับมาเหมือนเดิม รวมถึงเรื่องเยียวยานิคมอุตสาหกรรมก็จะมีความชัดเจนในสัปดาห์หน้า อย่างไรก็ตามเราได้มีหลักที่ชัดเจนอยู่แล้วในเรื่องนี้
เมื่อถามว่า ในจุดนิคมอุตสาหกรรมมีแนวทางแก้ปัญหาอย่างไร จะใช้การหาวิธีระบายน้ำหรือยกพื้นระบายให้สูง นายยงยุทธ กล่าวว่า แน่นอนต้องทำหมด อยู่ที่เดิมต้องเปลี่ยนที่ใหม่ หรืออยู่ที่เดิมต้องแก้อย่างไร ถ้าไม่อย่างนั้นนักลงทุนก็จะไม่มีความมั่นใจ ซึ่งเราจะเป็นคนคิดวิธีการให้
นายยงยุทธ กล่าวถึง ความกังวลในเรื่องการประสานกับประชาชนชนไม่ให้เข้าไปพังทลายกระสอบทราย ว่า ขณะนี้ตนก็ทำหน้าที่อยู่ เรื่องที่มีการร้องมาถึงปัญหาความขัดแย้งขณะนี้ก็เบาลง โดยเรื่องความขัดแย้งนั้นเป็นพื้นที่ กทม.ปทุมธานี และ นนทบุรี 3 จุดหลักๆ ซึ่งเมื่อคืนปัญหาในสองฝั่งคลองประปาก็แก้ไขได้แล้ว เราก็จะดูเป็นจุดๆ เมื่อถามว่า ปัญหาที่คลองสามวาจะกลายเป็นจุดโมเดลให้จุดอื่นๆ บานปลายหรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่า ปัญหาที่คลองสามวาจะให้คนไปดูอีกครั้งว่าจะมีข้อยุติอย่างไร และในวันที่ 2 พ.ย. ตนจะประชุมที่ ศปภ.ในเวลา 09.00 น.พร้อมกับเจ้าหน้าที่ กทม.การปะปา อดีตรองปลัด กทม. รองผู้ว่าฯ กทม.ซึ่งก็จะนำเรื่องนี้เข้าในที่ประชุมด้วย
“ในสภาวะอย่างนี้ไม่ใช่เวลาที่เอากฎหมายมาพูดกัน คนไทยยังไงก็อย่าเอากฎหมายมาพูดกันเลย เอาความเข้าใจมาพูดกันมากกว่า ขั้นแรกมีแต่ความทุกข์ความเดือดร้อน แล้วเราเอากฎหมายไปพูดกันกับคนที่มีความทุกข์ความเดือดร้อน มีความคิดเห็นแตกต่างกันก็คงไม่เหมาะสม ต้องเข้าใจความทุกข์ของแต่ละฝ่าย มาเจรจากัน คนนี้ทุกข์มากหน่อย คนนี้สุขมากไปนิดนึง คนนี้สุขลดลงไปนิดนึง แล้วทุกข์มากขึ้นหน่อย เราก็ไกล่เกลี่ยกัน นอกจากเกลี่ยน้ำแล้วก็เกลี่ยความทุกข์ความสุขกันด้วย” นายยงยุทธ กล่าว
เมื่อถามว่า ที่ผ่านมา ปัญหานี้จะส่งผลกระทบกับอุตสาหกรรมด้วย รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ใช่ครับ ก็ต้องระวังนิคมอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบตรงนั้น ก็ต้องจัดลำดับความสำคัญของเรื่องว่าควรจะแก้ตรงไหน เมื่อถามว่า จุดที่จะมีการเปิดประตู 1 เมตร น้ำยังมีการไหลไปเรื่อยๆจะมีการทบทวนตรงนี้หรือไม่ รมว.มท.กล่าวว่า เดี๋ยวจะลงไปดูกัน นายกฯ ได้ให้ลงไปดูอีกครั้งว่าที่จริงปัญหาตรงนั้นควรจะแก้อย่างไร ควรจะปิดหรือควรจะเปิด เพราะการนั่งตัดสินใจอยู่ที่นี่ ฉะนั้นต้องให้เห็นสภาพที่จริงของพื้นที่ โดยจะมีรองผู้ว่าฯ กรมชลประทาน ผู้เชี่ยวชาญเรื่องน้ำ ไปดูตรงนั้นว่ามีความจำเป็นต้องเปิดหรือปิด ซึ่งเมื่อวานเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า วันนี้เราต้องดูต้นเหตุจริงๆและนำมาพูดกันว่าจะลงเอยอย่างไรดี
เมื่อถามว่า มองว่า 1 เมตร ที่พูดถึงกันนั้น ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้จริงๆ หรือไม่ รมว.มท. กล่าวว่า จะแก้ปัญหาในจุดหนึ่งได้ แต่จะเพิ่มปัญหาอีกจุดได้ ก็อาจจะเป็นปัญหาที่มากกว่าเดิมได้ จึงต้องให้คนที่เกี่ยวข้องไปดูในพื้นที่ดีกว่า เมื่อถามว่า แนวโน้มในวันพรุ่งนี้ (2 พ.ย.) อาจจะมีการปรับเปลี่ยนคำสั่งที่ให้เปิด 1 เมตร หรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่า อาจจะมีหรือไม่มีก็ต้องให้คนที่ไปดูข้อเท็จจริงกลับมารายงานในที่ประชุมวันพรุ่งนี้ เมื่อถามว่า ในการประชุมวันพรุ่งนี้จะมีตัวแทนประชาชนที่มีความขัดแย้งในพื้นที่มาร่วมประชุมหรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่า ด้านประชาชนคงยังไม่ต้อง เพราะวันนี้จะมีคนที่ไปดูไปพบกับประชาชนก่อน เพื่อประเมินสิ่งที่เกิดขึ้นแจ้งที่ประชุมในการตัดสินใจ
นายยงยุทธ กล่าวถึงกรณีการโยกย้ายผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ว่า ก็จะเริ่มกระบวนการแล้ว เพราะช่วงที่ได้เรียนสื่อมวลชนนั้นเป็นช่วงภาวะวิกฤต อย่างเช่น จ.นครสวรรค์ขณะนี้ก็เริ่มลดลงมาแล้ว ก็มีการฟื้นฟูเยียวยา ใน จ.อยุธยาก็มีการประชุมผู้ที่มีส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อที่จะกู้นิคมอุตสาหกรรมให้ได้ และงานต่างๆ ก็เริ่มไม่วิกฤตแล้ว เมื่อถามว่า ภายใน 1-2 สัปดาห์เราก็จะมีการปรับย้ายใช่หรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่า ต้องใช้ระยะเวลาเป็นเดือน และขณะนี้มีคนเกษียณเยอุ คิดว่าคงต้องตั้งคนใหม่ขึ้นมา ไม่เช่นนั้นงานก็จะไม่รื่น ตนคิดว่าคงใช้เวลาเดือนครึ่งไม่เกิน 2 เดือนก็น่าจะเสร็จ
เมื่อถามว่า เรื่องการปรับย้ายจะนำเรื่องผลงานของผู้ว่าฯในการแก้ปัญหาช่วงน้ำท่วมเข้ามาพิจารณาปรับย้ายด้วยหรือไม่ รมว.มท.กล่าวว่า นอกจากส่วนนี้ก็มีอีกหลายส่วน ขอยืนยันว่าช่วงน้ำท่วมทุกฝ่ายก็ทำงานกันอย่างเหน็ดเหนื่อย ทั้งทหาร พลเรือน ไม่มีใครที่บกพร่องตรงนี้เลย ก็คงต้องเห็นอกเห็นใจ เมื่อถามว่า เห็นด้วยกับคำที่ว่ายามวิกฤตเป็นการพิสูจน์ฝีมือที่แท้จริงหรือไม่ รมว.มท.กล่าวว่า สรุปเรื่องนี้เรื่องเดียวคงไม่ได้ ก็เป็นส่วนหนึ่งแต่ไม่ใช่ทั้งหมด เมื่อถามว่า ก่อนจะถึงหนึ่งเดือนครึ่งมีโอกาสที่จะย้ายคนอื่นๆ เหมือนผู้ว่าฯ ปทุมธานีหรือไม่ รมว.มท.กล่าวว่า คงไม่มีแล้ว