“ปู” ฉุนสื่อบี้เคลียร์ชาวคลองสามวาจบ วอนเห็นใจกันบ้าง

“ยิ่งลักษณ์” เคลียร์ไม่มีงบทำ “นิวไทยแลนด์” ชี้ฟื้นฟูเยียวยาปกติ ตอบอ้อมแอ้ม กทม.ไม่วิกฤตหากคันกั้นน้ำไม่แตก เชื่อไม่กี่วันทรงตัว ปรี๊ดแตก!! หลังสื่อซักมั่นใจเคลียร์ปัญหาชาวบ้านโวยเปิดประตูระบายน้ำคลองสามวาจบแน่ พ้อสื่อเห็นใจกันบ้าง ก่อนแหวกวงสัมภาษณ์ไปทันที

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง "น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ให้สัมภาษณ์  

วันนี้ (31 ต.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น. ที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) กระทรวงพลังงาน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการตกลงระหว่างรัฐบาลกับชาวบ้านชาวเขตคลองสามวาที่ไม่พอใจการเปิดประตูระบายน้ำว่า เรื่องของคลองสามวานั้นเพราะมวลชนมีความเป็นห่วง ดังนั้นเราเองต้องมีการปรับในเรื่องของการหรี่น้ำบางประตูระบายน้ำที่คลองสามวาให้ลดลงไป เพราะเป็นห่วงในส่วนของนิคมฯ จึงได้มีการหารือแนวทางกันเรียบร้อยแล้วคงไม่มีปัญหาแล้วและเดี๋ยวคงต้องทำการซ่อมแซม

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า สรุปแล้วการจัดการที่คลองสามวาเป็นอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ไม่ได้เปิดเต็มที่ เพราะต้องมีการหรี่ลงบ้างเพื่อจะบรรเทาปริมาณน้ำ แต่ต้องไปควบคุมในส่วนของปริมาณประตูน้ำบานอื่นลงไป ซึ่งได้มีการหารือกันในหลักการแล้ว และมีความเข้าใจตรงกันเรียบร้อยก็ไม่มีปัญหาแล้ว

เมื่อถามว่าพื้นที่อื่นที่จะเป็นพื้นที่รับน้ำต่อ เช่น มีนบุรี และลาดกระบัง มีความมั่นใจว่าเราจะสามารถคุยกับประชาชนได้หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า วันนี้ได้ชี้แจงกับพี่น้องประชาชนทุกส่วน และวันนี้ทุกคนได้ช่วยกันอธิบายในทุกภาคส่วน คือการทำทุกอย่างเราพยายามที่จะไม่ให้มีผลกระทบมากนัก และมีการหารือกับมวลชนแล้ว โดยต้องทำงานไปแก้ไป และในส่วนของการทำงานเราใช้วิธี คือ ให้คณะทำงานลงพื้นที่เพื่อไปดูและปรับหาความเหมาะสมความสมดุลกับพื้นที่ ใช้วิธีนี้จะได้เป็นการพูดจากันทั้งสองฝ่าย

ถามว่าสำหรับการเยียวยาในพื้นที่จะมีความชัดเจนหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า จะให้คนที่ลงพื้นที่สามารถมีดุลพินิจในการที่จะเจรจาได้ และเราขอเรียนว่าบางครั้งไม่ใช่การเยียวยา คือการเยียวยาเรามีระบบการดูแลอยู่แล้ว แต่สุดท้ายแล้วการฟื้นฟูที่ต้องดูแลประชาชนแถบนั้นเราต้องกลับไปแน่นอน

เมื่อถามว่า ที่รัฐบาลระบุว่าจะใช้งบประมาณฟื้นฟูเยียวยาทั้งระบบ 8 แสนล้านจะกู้จากตรงไหนตามโครงการนิวไทยแลนด์ นายกฯ กล่าวว่า “ไม่มีคำว่านิวไทยแลนด์ ยังไม่ใช่อย่างนั้น อาจจะเป็นชื่อที่เขาเรียกกันเล่นๆ ซึ่งจริงแล้วคือการแก้ไขปัญหาน้ำอย่างถาวร ซึ่งเรามีการตั้งคณะกรรมการอยู่แล้ว โดยจะมีการศึกษารายละเอียดและคงจะประกาศเรื่องงบประมาณอีกครั้ง แต่เบื้องต้นที่เตรียมไว้ คือ วงเงิน 8 หมื่นล้านบาท เป็นงบประมาณที่เราจะนำมาเยียวยาเร่งด่วน ทั้งภาคเอสเอ็มอี ธุรกิจรายย่อย และพี่น้องเกษตรกร รวมทั้งการดูแลประชาชนทั้งหมด แต่ยังไม่รวมงบที่จะนำมาบูรณาการโครงการ 25 ลุ่มน้ำ หรือโครงการระยะถาวร”

สื่อซักต่อว่า ประเมินสถานการณ์น้ำล่าสุดทิศทางจะไปทางไหน นายกฯ กล่าวว่า ถ้าเรามีการควบคุมจุดต่างๆ ไม่ให้แนวทางคันกั้นน้ำแตก และสถานการณ์น้ำใน 1-2 วันนี้น่าจะทรงตัว และค่อยๆลดลงหลังจากที่ปริมาณระดับน้ำทะเลลดลง ขณะเดียวกัน น้ำในคลองต่างๆ จะระบายได้ดีขึ้น เมื่อถามต่อว่าวันนี้ปริมาณน้ำได้ขยายพื้นที่มากขึ้น ไปที่ทางรามอินทราและเกษตร นายกฯ กล่าวว่า ใช่ และน้ำที่ต้องขยายเพราะการบริหารจัดการน้ำที่ กทม.เจอในส่วนของช่วงบนเรารักษาระดับน้ำให้คง และเกิดจากน้ำทะเลหนุนสูง จึงเกิดการเอ่อล้นเข้ามา ประกอบกับน้ำทะเลดันเข้ามาในส่วนของคลอง ทำให้น้ำในกรุงเทพฯ เจิ่งนอง แต่โดยรวมจะไม่แตกหวือหวา ถ้าไม่มีแนวคันกั้นน้ำแตก ฉะนั้นคงต้องดูวันสองวันนี้ คิดว่าสถานการณ์น่าจะทรงตัว

เมื่อถามว่าเวลานี้เกิดความสับสนเรื่องของมวลน้ำก้อนใหญ่ ตกลงยังอยู่บนเขื่อนหรืออยู่ที่จุด จ.นครสวรรค์ และพระนครศรีอยุธยา น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวด้วยน้ำเสียงไม่อยากจะอธิบายว่า “เดี๋ยวให้นักวิชาการอธิบายดีกว่าไหม เอาเป็นว่าเราคุยรวมๆ ก่อนดีไหม ตรงนี้จะให้ผู้รู้กรมชลประทานอธิบายเพิ่มเติม แต่โดยรวมสิ่งที่เราพูดกันว่ามวลน้ำก้อนใหญ่นั้นเป็นสิ่งที่ดีขึ้น มวลน้ำก้อนใหญ่ได้ถูกระบายลงไปตามคันคลองต่างๆ มากขึ้น ทำให้ปริมาณน้ำที่อยู่ในเขื่อนบริเวณ จ.นครสวรรค์ และชัยนาท มีปริมาณคงที่ และค่อยๆ ลดลงตามลำดับ ฉะนั้นสิ่งที่เราเป็นห่วงว่ามวลน้ำก้อนใหญ่จะลดลงไป แต่ไม่ได้หมายความว่ามวลน้ำจะหมดไป คงจะค่อยๆไหลและผ่านระบบประตูน้ำ และการสูบน้ำ

เมื่อถามว่า กรุงเทพฯ จะไม่วิกฤตไปมากกว่านี้ใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า คาดว่าอย่างนั้น เมื่อถามอีกว่าที่ยอมเปิดประตูคลองสามวา จะทำให้เกิดความเสี่ยงต่อเขตอุตสาหกรรมบางชันเพิ่มขึ้นหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เราได้ให้หลักการไปว่าไม่เปิด 100 เปอร์เซ็นต์ เราหรี่ลงเพราะเป็นห่วงนิคมอุตสาหกรรม จึงให้ทาง กทม.และคณะบริหารติดตามการแก้ไขปัญหาน้ำลงไปดู และให้เปิดปริมาณที่ไม่กระทบกับนิคมอุตสาหกรรมบางชัน

เมื่อถามว่า ล่าสุดเหตุการณ์ที่ชาวบ้านเขตคลองสามวาได้รวมตัวกันเพื่อเรียกร้องให้สำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร เปิดประตูระบายน้ำเพิ่มอีก 70 เซนติเมตร เป็น 150 เซนติเมตร แต่ กทม.เปิดประตูระบายน้ำ 80 เซนติเมตร แนวทางที่นายกฯ มอบไปเป็นอย่างไร น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ตกลงกันที่ 80 ซม.เรียบร้อยแล้ว เมื่อถามย้ำว่าการขอให้เปิดเพิ่มจากที่เปิด 75 ซม. ตกลงแนวทางเป็นอย่างไร น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวด้วยสีหน้ามึนงงว่า “อะไรคะ มันร้อยนึง แล้วจะเปิดอีก 70 ซม.ได้ยังไง ถามใหม่ได้ไหมคะ อะไร ยังไง ตรงนี้ไปถามกรมชลฯ ดีกว่าไหมคะ ทำไมต้องมาถาม เดี๋ยวนะคะถามยังไงนะคะ”

ผู้สื่อข่าวพยายามเรียบเรียงเหตุการณ์และถามว่า หมายถึงตอนนี้ชาวบ้านอีกฝั่งอยากให้เปิดเพิ่ม 70 ซม. น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ไม่ใช่ เมื่อคืน (30 ต.ค.) เดิมทีเขาอยากจะเปิด 70 ซม. เรามาขอต่อรองกันไป สุดท้ายจบที่ 80 ซม.

เมื่อถามย้ำอีกว่า มั่นใจว่าทุกอย่างจบแล้วจะไม่มีปัญหาอะไรขึ้นมาอีกใช่หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์หันมาทางผู้สื่อข่าวที่ถาม แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงอ้อนวอนพร้อมนำมือจับไปที่แขนนักข่าวที่ตั้งคำถามว่า “ถามอย่างนี้เหรอคะ ขอโทษเถอะ เห็นใจกันบ้างเถอะค่ะ” จากนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์แหวกวงล้อมสื่อด้านข้างและเดินหนีการตอบคำถามด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจที่สื่อพยายามไล่บี้ถามคำถามต่อกรณีที่ชาวบ้านคลองสามวาทะเลาะกันเรื่องการเปิดประตูระบายน้ำของรัฐบาล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่นายกฯ เดินทางกลับไป คนใกล้ชิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้พยายามเดินมาชี้แจงกับสื่อมวลชนถึงข้อพิพาทของชาวบ้านที่ต้องการให้เปิดประตูระบายน้ำที่คลองสามวา โดยล่าสุดปัญหาได้ยุติลง โดยนายกฯ ได้เซ็นตามข้อเสนอของ กทม.และชาวบ้านที่ตกลงจะเปิดประตูระบายน้ำ 1 เมตรแล้ว