ASTVผู้จัดการรายวัน-ชาวปทุมธานี งง! มหาดไทย ย้ายผู้ว่า ทั้งที่ยังต้องต่อสู้กับน้ำท่วม “ปชป.”ซัด“ยิ่งลักษณ์”อำมหิต “มาร์ค” จี้รัฐอธิบาย ส่วน“ยงยุทธ” ยัน ย้ายผู้ว่าฯปทุมฯไม่มีการเมืองเอี่ยว ให้ทำงานประสานศปภ. ชี้ตั้ง “ขจรศักดิ์” มีประสบการณ์และรู้จักพื้นที่ดี แฉ! เบื้องหลัง เด้งฟ้าผ่า เหตุทำงานขัดใจรัฐบาล
จากคำสั่งกระทรวงมหาดไทย ที่ 522/2554 เรื่องให้ข้าราชการช่วยราชการ อ้างว่า ด้วยมีความจำเป็นและเพื่อประโยชน์ของทางราชการในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนอันเนื่องมาจากสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม
ดังนั้น เพื่อให้การปฏิบัติราชการของกระทรวงมหาดไทยเป็นไปด้วยความเรียบร้อยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 21 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2535 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่5) พ.ศ.2545จึงให้นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ช่วยราชการกระทรวงมหาดไทย และมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ในการประสานราชการระหว่างกระทรวงมหาดไทยกับศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ) ลงวันที่ 24 ตุลาคม 2554 (นายพระนาย สุวรรณรัฐ) ปลัดกระทรวงมหาดไทย
หลังจากมีคำสั่งออกมาจากรายการทีวีทำให้ประชาชนและข้าราชการเสียขวัญและกำลังใจเนื่องจากนายพีระศักดิ์ กำลังต่อสู้กับปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่มาตลอดทั้งวันทั้งคืนพร้อมนักการเมืองช่วยกันทำงานกันจนไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อยกับมาถูกย้ายไม่เป็นธรรม ซึ่งคาดว่าชาวบ้านจะออกมารวมตัวต่อต้านคำสั่งที่ไม่เป็นธรรมในวันนี้
เวลา 13.00 น. วานนี้ (25 ต.ค.) ที่ศูนย์ปฎิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรัรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์กรณีการโยกย้าย นายพีระศักดิ์ให้มาปฏิบัติหน้าที่ในการประสานราชการระหว่างกระทรวงมหาดไทยกับศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ซึ่งมีการตั้งข้อสงสัยว่าอาจมีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องว่า คงไม่ใช่ และตอนนี้ได้มีการวางตัว นายขจรศักดิ์ สิงโตกุล รองอธิบดีกรมการปกครอง มาดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดแทน โดยเหตุผลในการย้ายนั้นเพื่อต้องการให้มีผู้ประสานงานระหว่างศปภ.กับกระทรวง ซึ่งนายพีระศักดิ์จะเป็นผู้ประสานงานให้
นายยงยุทธ กล่าวปฏิเสธข้อครหาที่ว่านายพีระศักดิ์ไม่ให้ความร่วมมือใช่ในการทำงาน และยืนยันว่านายพีระศักดิ์ให้ความร่วมมือดีทุกอย่าง ส่วนทำไมจึงมีการย้ายในช่วงที่เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อ นายยงยุทธ กล่าวว่า งานที่ศูนย์ก็หัวเลี่ยวหัวต่อเหมือนกัน ตนขอยืนยันว่าไม่มีเรื่องการเมืองมาเกี่ยวข้อง เพราะถ้ามีการเมืองมาเกี่ยวข้องคงย้ายไปนานแล้ว ส่วนที่นายพีระศักดิ์ดูแลเกี่ยวข้องกับคันกั้นน้ำที่ จ.ปทุมธานีได้ไม่ดีพอจนทำให้คันกั้นน้ำแตกใช่หรือไม่ รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ถ้าไม่มีการย้ายก็แตกเหมือนกัน เพราะน้ำนั้นมาเยอะไม่ได้เกี่ยวกับย้ายหรือไม่ย้าย คนที่ไปก็เป็นคนที่เคยทำงานอยู่ในพื้นที่ จ.ปทุมฯมาก่อน เคยเป็นนายอำเภอเมือง และพร้อมที่จะไปทำงานทันที
เมื่อถามว่า ไม่ได้เป็นการเซ่นเรื่องของน้ำท่วมในจ.ปทุมธานีใช่หรือไม่ รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ไม่มี ภาวะอย่างนี้ทุกคนก็ทำงานเต็มที่ คงไม่มีไปเชือดลิงทำนองนั้นอย่างนั้นไม่มี เมื่อถามว่า เป็นความขัดแย้งในท้องถิ่นหรือไม่ รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ไม่มี ก็อยู่มาตั้งนานแล้วก็ไม่ได้มีความขัดแย้งอะไร เมื่อถามย้ำว่า ทางนายพีระศักดิ์เขามีการทำงานเต็มที่หรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่า เขาทำเต็มที่ทุกคน ต้องขอขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัด ข้าราชการฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ อาสาสมัคร พี่น้องประชาชน ทุกคนก็เหน็ดเหนื่อยด้วยกันทั้งนั้น
ส่วนการตั้งนายขจรศักดิ์มาดำรงตำแหน่งรักษาการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดมีความเหมาะสมหรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่า มี เพราะว่าท่านเป็นผู้ว่าฯมาแล้วด้วย และเคยเป็นนายอำเภอเมือง และนายอำเภอที่จ.ปทุมธานี หลายอำเภอ ก็พร้อมที่จะไปทำงานทันที รู้จักพื้นที่ดีอยู่แล้ว
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าครม. เห็นชอบให้ย้ายนายพีระศักดิ์ ไปเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย และให้เลื่อนนายขจรศักดิ์ สิงโตกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ขึ้นมาเป็นรักษาการผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี
รายงานข่าวจากกระทรวงมหาดไทย แจ้งว่า สาเหตุที่มีการโยกย้ายนายพีระศักดิ์ อย่างเร่งด่วนนั้น เป็นเพราะในช่วงสถานการณ์น้ำท่วมที่ผ่านมา นายพีระศักดิ์ ไม่มีการบริหารจัดการปัญหาอย่างเต็มที่ ไม่ลงพื้นที่ช่วยประชาชนอย่างที่ควร รวมทั้งการดำเนินการในแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างขัดแย้งกับศปภ.อย่างสิ้นเชิง ดื้อรั้นในหลายเรื่อง ขณะเดียวกันก็ออกมาให้สัมภาษณ์ในแง่ลบกับรัฐบาลอยู่บ่อยครั้ง ตลอดจนเหตุการณ์ประตูระบายน้ำคลองบ้านพร้าว อ.สามโคก จ.ปทุมธานีพัง แต่ไม่ยอมต่อสู้อย่างเต็มที่ ยอมแพ้ง่ายๆ อีกทั้งยังเป็นที่รู้กันดีว่านายพีระศักดิ์ เป็นคนสนิทของนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย และยังเป็นอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งมีกระแสข่าวมาตลอดตั้งแต่ช่วงรัฐบาลพรรคเพื่อไทยเข้ามาบริหารประเทศว่าจะถูกเด้งเข้ากรุ
รายงานข่าวแจ้งว่า นายพีระศักดิ์ เคยให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อทีวีหลายครั้งโจมตีการทำงาน ของศปภ. โดยเฉพาะครั้งหนึ่งเคยกล่าวถึงการอพยพประชาชนว่า “สถานการณ์ยังไม่ถึงขั้นแบบภูเขาไฟระเบิด”
นายชวนนท์ อินทรโกมาลสุตย์ โฆษกพรรค ประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นายพีรศักดิ์ เคยเรียกร้องในขณะยืนกลางน้ำสู้กับประชาชนตลอด 24 ชั่วโมงเพราะปทุมธานีมีปัญหาในการบริหารคนแต่รัฐบาลไม่ให้ กลับใช้อำนาจพิเศษของตัวเองย้ายผู้ว่าปทุมฯ ถือว่าอำมหิตกับผู้ว่าปทุมฯและประชาชนในจังหวัดที่นอนจมน้ำในขณะนี้ แต่รัฐบาลยังกล้าเล่นการเมืองย้ายผู้ว่าที่ไม่ใช่สีเดียวกัน
“จิตใจรัฐบาลทำด้วยอะไร ส่งคนใหม่ไปจะทราบปัญหาได้อย่างไร ต้องใช้เวลาอีกเท่าไหร่ในการหาข้อมูลพื้นฐานเพื่อแก้ปัญหาประชาชน ทำไม น.ส.ยิ่งลักษณ์อำมหิตขนาดนี้ ผู้ว่าปทุม รู้ปัญหาพื้นที่ดี กล้าพูดความจริง ทำเพื่อประชาชนเต็มทึ่ เพราะฉะนั้นเมื่อรัฐบาลย้ายเขาต้องกล้าตอบ พรรคประชาธิปัตย์ถามว่าเขาทำอะไรผิดจึงต้องย้ายในสถานการณ์ที่ประชาชนกำลังเดือดร้อนแสนสาหัส”
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน ในฐานะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า รัฐบาลต้องมีคำอธิบาย เพราะผู้ว่า ปทุมฯทำงานอย่างเต็มที่ ตนคิดว่าต้องให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ทำงานเต็มที่ แม้ว่าอาจมีความบกพร่องบ้าง แต่ที่ผ่านมาฝ่ายค้านก็พยายามหลีกเลี่ยงที่จะวิจารณ์รัฐบาลมาโดยตลอด เพราะอยากให้การแก้ปัญหาเดินได้ ยกเว้นกรณีความไม่โปร่งใสในบางเรื่องก็ต้องตรวจสอบ จึงอยากให้รัฐบาลหยุดคิดประเด็นการเมืองแล้วเดินหน้าแก้ปัญหาอย่างเต็มที่จะเป็นผลดีมากกว่า ที่สำคัญคือ การบริหารสถานการณ์ของ ศปภ. ต้องมีความโปร่งใสและจริงใจ แต่ถ้าคิดเฉพาะประเด็นการเมืองก็จะเป็นปัญหาทำให้ความร่วมมือไม่เกิดขึ้น.
จากคำสั่งกระทรวงมหาดไทย ที่ 522/2554 เรื่องให้ข้าราชการช่วยราชการ อ้างว่า ด้วยมีความจำเป็นและเพื่อประโยชน์ของทางราชการในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนอันเนื่องมาจากสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม
ดังนั้น เพื่อให้การปฏิบัติราชการของกระทรวงมหาดไทยเป็นไปด้วยความเรียบร้อยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 21 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2535 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่5) พ.ศ.2545จึงให้นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ช่วยราชการกระทรวงมหาดไทย และมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ในการประสานราชการระหว่างกระทรวงมหาดไทยกับศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ) ลงวันที่ 24 ตุลาคม 2554 (นายพระนาย สุวรรณรัฐ) ปลัดกระทรวงมหาดไทย
หลังจากมีคำสั่งออกมาจากรายการทีวีทำให้ประชาชนและข้าราชการเสียขวัญและกำลังใจเนื่องจากนายพีระศักดิ์ กำลังต่อสู้กับปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่มาตลอดทั้งวันทั้งคืนพร้อมนักการเมืองช่วยกันทำงานกันจนไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อยกับมาถูกย้ายไม่เป็นธรรม ซึ่งคาดว่าชาวบ้านจะออกมารวมตัวต่อต้านคำสั่งที่ไม่เป็นธรรมในวันนี้
เวลา 13.00 น. วานนี้ (25 ต.ค.) ที่ศูนย์ปฎิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรัรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์กรณีการโยกย้าย นายพีระศักดิ์ให้มาปฏิบัติหน้าที่ในการประสานราชการระหว่างกระทรวงมหาดไทยกับศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ซึ่งมีการตั้งข้อสงสัยว่าอาจมีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องว่า คงไม่ใช่ และตอนนี้ได้มีการวางตัว นายขจรศักดิ์ สิงโตกุล รองอธิบดีกรมการปกครอง มาดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดแทน โดยเหตุผลในการย้ายนั้นเพื่อต้องการให้มีผู้ประสานงานระหว่างศปภ.กับกระทรวง ซึ่งนายพีระศักดิ์จะเป็นผู้ประสานงานให้
นายยงยุทธ กล่าวปฏิเสธข้อครหาที่ว่านายพีระศักดิ์ไม่ให้ความร่วมมือใช่ในการทำงาน และยืนยันว่านายพีระศักดิ์ให้ความร่วมมือดีทุกอย่าง ส่วนทำไมจึงมีการย้ายในช่วงที่เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อ นายยงยุทธ กล่าวว่า งานที่ศูนย์ก็หัวเลี่ยวหัวต่อเหมือนกัน ตนขอยืนยันว่าไม่มีเรื่องการเมืองมาเกี่ยวข้อง เพราะถ้ามีการเมืองมาเกี่ยวข้องคงย้ายไปนานแล้ว ส่วนที่นายพีระศักดิ์ดูแลเกี่ยวข้องกับคันกั้นน้ำที่ จ.ปทุมธานีได้ไม่ดีพอจนทำให้คันกั้นน้ำแตกใช่หรือไม่ รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ถ้าไม่มีการย้ายก็แตกเหมือนกัน เพราะน้ำนั้นมาเยอะไม่ได้เกี่ยวกับย้ายหรือไม่ย้าย คนที่ไปก็เป็นคนที่เคยทำงานอยู่ในพื้นที่ จ.ปทุมฯมาก่อน เคยเป็นนายอำเภอเมือง และพร้อมที่จะไปทำงานทันที
เมื่อถามว่า ไม่ได้เป็นการเซ่นเรื่องของน้ำท่วมในจ.ปทุมธานีใช่หรือไม่ รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ไม่มี ภาวะอย่างนี้ทุกคนก็ทำงานเต็มที่ คงไม่มีไปเชือดลิงทำนองนั้นอย่างนั้นไม่มี เมื่อถามว่า เป็นความขัดแย้งในท้องถิ่นหรือไม่ รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ไม่มี ก็อยู่มาตั้งนานแล้วก็ไม่ได้มีความขัดแย้งอะไร เมื่อถามย้ำว่า ทางนายพีระศักดิ์เขามีการทำงานเต็มที่หรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่า เขาทำเต็มที่ทุกคน ต้องขอขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัด ข้าราชการฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ อาสาสมัคร พี่น้องประชาชน ทุกคนก็เหน็ดเหนื่อยด้วยกันทั้งนั้น
ส่วนการตั้งนายขจรศักดิ์มาดำรงตำแหน่งรักษาการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดมีความเหมาะสมหรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่า มี เพราะว่าท่านเป็นผู้ว่าฯมาแล้วด้วย และเคยเป็นนายอำเภอเมือง และนายอำเภอที่จ.ปทุมธานี หลายอำเภอ ก็พร้อมที่จะไปทำงานทันที รู้จักพื้นที่ดีอยู่แล้ว
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าครม. เห็นชอบให้ย้ายนายพีระศักดิ์ ไปเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย และให้เลื่อนนายขจรศักดิ์ สิงโตกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ขึ้นมาเป็นรักษาการผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี
รายงานข่าวจากกระทรวงมหาดไทย แจ้งว่า สาเหตุที่มีการโยกย้ายนายพีระศักดิ์ อย่างเร่งด่วนนั้น เป็นเพราะในช่วงสถานการณ์น้ำท่วมที่ผ่านมา นายพีระศักดิ์ ไม่มีการบริหารจัดการปัญหาอย่างเต็มที่ ไม่ลงพื้นที่ช่วยประชาชนอย่างที่ควร รวมทั้งการดำเนินการในแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างขัดแย้งกับศปภ.อย่างสิ้นเชิง ดื้อรั้นในหลายเรื่อง ขณะเดียวกันก็ออกมาให้สัมภาษณ์ในแง่ลบกับรัฐบาลอยู่บ่อยครั้ง ตลอดจนเหตุการณ์ประตูระบายน้ำคลองบ้านพร้าว อ.สามโคก จ.ปทุมธานีพัง แต่ไม่ยอมต่อสู้อย่างเต็มที่ ยอมแพ้ง่ายๆ อีกทั้งยังเป็นที่รู้กันดีว่านายพีระศักดิ์ เป็นคนสนิทของนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย และยังเป็นอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งมีกระแสข่าวมาตลอดตั้งแต่ช่วงรัฐบาลพรรคเพื่อไทยเข้ามาบริหารประเทศว่าจะถูกเด้งเข้ากรุ
รายงานข่าวแจ้งว่า นายพีระศักดิ์ เคยให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อทีวีหลายครั้งโจมตีการทำงาน ของศปภ. โดยเฉพาะครั้งหนึ่งเคยกล่าวถึงการอพยพประชาชนว่า “สถานการณ์ยังไม่ถึงขั้นแบบภูเขาไฟระเบิด”
นายชวนนท์ อินทรโกมาลสุตย์ โฆษกพรรค ประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นายพีรศักดิ์ เคยเรียกร้องในขณะยืนกลางน้ำสู้กับประชาชนตลอด 24 ชั่วโมงเพราะปทุมธานีมีปัญหาในการบริหารคนแต่รัฐบาลไม่ให้ กลับใช้อำนาจพิเศษของตัวเองย้ายผู้ว่าปทุมฯ ถือว่าอำมหิตกับผู้ว่าปทุมฯและประชาชนในจังหวัดที่นอนจมน้ำในขณะนี้ แต่รัฐบาลยังกล้าเล่นการเมืองย้ายผู้ว่าที่ไม่ใช่สีเดียวกัน
“จิตใจรัฐบาลทำด้วยอะไร ส่งคนใหม่ไปจะทราบปัญหาได้อย่างไร ต้องใช้เวลาอีกเท่าไหร่ในการหาข้อมูลพื้นฐานเพื่อแก้ปัญหาประชาชน ทำไม น.ส.ยิ่งลักษณ์อำมหิตขนาดนี้ ผู้ว่าปทุม รู้ปัญหาพื้นที่ดี กล้าพูดความจริง ทำเพื่อประชาชนเต็มทึ่ เพราะฉะนั้นเมื่อรัฐบาลย้ายเขาต้องกล้าตอบ พรรคประชาธิปัตย์ถามว่าเขาทำอะไรผิดจึงต้องย้ายในสถานการณ์ที่ประชาชนกำลังเดือดร้อนแสนสาหัส”
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน ในฐานะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า รัฐบาลต้องมีคำอธิบาย เพราะผู้ว่า ปทุมฯทำงานอย่างเต็มที่ ตนคิดว่าต้องให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ทำงานเต็มที่ แม้ว่าอาจมีความบกพร่องบ้าง แต่ที่ผ่านมาฝ่ายค้านก็พยายามหลีกเลี่ยงที่จะวิจารณ์รัฐบาลมาโดยตลอด เพราะอยากให้การแก้ปัญหาเดินได้ ยกเว้นกรณีความไม่โปร่งใสในบางเรื่องก็ต้องตรวจสอบ จึงอยากให้รัฐบาลหยุดคิดประเด็นการเมืองแล้วเดินหน้าแก้ปัญหาอย่างเต็มที่จะเป็นผลดีมากกว่า ที่สำคัญคือ การบริหารสถานการณ์ของ ศปภ. ต้องมีความโปร่งใสและจริงใจ แต่ถ้าคิดเฉพาะประเด็นการเมืองก็จะเป็นปัญหาทำให้ความร่วมมือไม่เกิดขึ้น.