อนาถ! ศปภ.ทิ้งผู้ประสบภัยที่ดอนเมืองกว่า 600 ชีวิต ไร้ไฟฟ้า-น้ำประปา ของบริจาคลอยเกลื่อน “วิม” ทำเป็นเพิ่งรู้ บอกจะรีบช่วยเหลือตั้งโรงครัว จัดหาที่ปั่นไฟให้ ส่วน “บก.ลายจุด” รีบโต้ของบริจาคลอยน้ำส่วนใหญ่เป็นเสื้อผ้าที่มีเยอะมากจนเก็บไม่ทัน ส่วนสุขาลอยน้ำที่ถูกทิ้งเป็นของที่ให้ผู้อพยพใช้ ไม่ใช่ของบริจาค พอโดนวิจารณ์กลับอย่างหนักถึงขั้นโพล่ง “เป็นการต่อสู้ระหว่างน้ำใจกับน้ำลาย” หลังจากนั้นถูกชาวเฟซบุ๊กแฉคลิปทันที แม้กระทั่งวันที่น้ำเริ่มท่วมของก็ยังคงวางแน่นิ่ง แล้วมาอ้างว่าเก็บไม่ทัน
วันที่ 29 ต.ค. ทางรายการข่าวสามมิติ ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ได้เสนอข่าวบรรยากาศภายในศูนย์อพยพท่าอากาศยานดอนเมือง ซึ่งทางศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือ ศปภ. เพิ่งย้ายออกไปในวันนี้
โดยผู้สื่อข่าวของทางสถานีได้ระบุว่า สภาพท่าอากาศยานดอนเมือง เมื่อเวลา 19.00 น.ที่ผ่านมา น้ำได้เข้าท่วมภายในอาคารและพื้นที่โดยรอบ สูงถึง 50 เซนติเมตรแล้ว สุขาลอยน้ำที่มีผู้บริจาคให้กับศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือ ศปภ. ได้ลอยน้ำเกลื่อนอยู่ที่ภายในใต้อาคารอีกเป็นจำนวนมาก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะน้ำได้เข้าในอาคารอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ทั้งหมด
ขณะที่อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ ซึ่งเป็นที่ทำงานของ ศปภ. ทุกอาคารถูกตัดไฟทั้งหมดแล้ว ยังคงมีอุปกรณ์ต่างๆ ทิ้งไว้จมน้ำ รวมถึงภายในอาคารชั้น 1 ซึ่งเคยเป็นจุดรับของบริจาค มีเสื้อผ้าที่รับบริจาค จมน้ำอยู่เป็นจำนวนมาก
อีกทั้งได้รับทราบจากทาง รปภ.ว่ามียังคนอาศัยอยู่ที่นี่ จึงเข้าไปดูภายในศูนย์ผู้พักพิงดอนเมือง พบว่าด้านในมีไม่ต่ำกว่า 600 คน นอนอยู่ภายในเต้นท์ท่ามกลางแสงเทียน พวกเขาต่างออกมาขอความช่วยเหลือ โดยระบุว่าไม่อยากย้ายไปยังศูนย์พักพิงอื่น เนื่องจากบ้านอยู่ย่านดอนเมือง และปทุมธานี
โดยพบว่าการตัดสินใจแบบนี้น่าจะทำให้ผู้ประสบภัยอยู่ที่นี่ลำบากมากขึ้น เพราะไม่มีทั้งไฟฟ้าและน้ำประปา และยังมีคนชรา คนป่วย และเด็กอยู่ อีกเป็นจำนวนมาก
ระหว่างนั้นนายวิม รุ่งวัฒนจินดา โฆษก ศปภ.ซึ่งเข้ามาเก็บของในห้องทำงานของนายกฯ ที่ศูนย์ ศปภ. พอทราบเรื่องว่ายังมีผู้ประสบภัยหลงเหลืออยู่ จึงแจ้งให้นายกฯ รับทราบและประสานให้กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เข้าไปดูแลในทันที โดยนายวิมกล่าวว่า พรุ่งนี้ (30 ต.ค.) จะจัดโรงครัวมาที่นี่พร้อมกับหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ และจะเร่งนำเครื่องปั่นไฟมาให้ด้วย
บก.ลายจุดรีบแถ เก็บของไม่ทัน
หลังจากที่ข่าวนี้ได้ถูกนำเสนอออกไป ทางโซเชียลมีเดียต่างโจมตี ศปภ.เป็นอย่างหนัก ทำให้นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือที่รู้จักกันในนาม บก.ลายจุด รีบออกโรงชี้แจงผ่านทางเฟซบุ๊ก (แกนนอน) และทวิตเตอร์ (@nuling) ว่า
เหตุที่ไฟดับไม่ใช่เพราะเจ้าหน้าที่ปิด แต่เพราะน้ำท่วมทำให้พังหมด ส่วนของบริจาคที่ลอยน้ำส่วนใหญ่คือเสื้อผ้าที่มีเยอะมาก ทำให้เก็บไม่ทัน ส่วนสุขาลอยน้ำที่ถูกทิ้งไว้เป็นของเทศบาลเมืองพัทยา ที่เอามาติดตั้งให้ผู้ประสบภัยในศูนย์พักพิงใช้ ไม่ใช่ของบริจาค แต่พอถูกโจมตีทางทวิตเตอร์อย่างหนัก นายสมบัติ โต้กลับแบบค่อนข้างมีอารมณ์ ถึงขั้นโบ้ยให้เป็นความผิดของผู้บริจาค ที่เน้นเสื้อผ้าเป็นหลัก บางรายก็เป็นเสื้อผ้าที่ใช้การไม่ได้แล้ว ซึ่งต้องพัฒนาวัฒนธรรมการบริจาค บางทีของใช้ไม่ได้แล้ว ก็ยังบริจาค ทำไมไม่คัดก่อน
ข้อความส่วนหนึ่งที่นายสมบัติเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย มีดังนี้
“ถ้าเสียดายเสื้อผ้าที่ลอยน้ำ ผมเสนอให้ว่าให้มีคนจัดทีมรวมกลุ่มเอาไปซักครับ แล้วตากแดดไปบริจาคใหม่ ส่วนตัว ผมคิดว่าเสื้อผ้าที่บริจาคมาต้องซัก”
“ตอนสึนามิก็มีปัญหาเรื่องกองเสื้อผ้าบริจาค ให้มาเยอะมาก จนกองเป็นภูเขา สุดท้ายฝนตกใส่ เป็นที่อยู่ของยุง”
“ตอนผมอยู่ที่สึนามิ กับ ตอนโคลนถล่มที่ อ.ลับแล ผมประกาศชัดเจน อย่าบริจาคเสื้อผ้ามาอีก พอแล้ว ไม่จำเป็นเลย”
“RT @icez: @moui @nuling มีคนบริจาคไปทั้งๆ ที่ไม่ได้ซักด้วยเหรอ T_T เหวอ // ต้องลองไปเป็นอาสาสมัครคัดเสื้อผ้า”
“เสื้อผ้าบริจาคจำนวนมาก เป็นของที่เก็บไว้นานเป็นปี มีกลิ่น เวลาคัดแยกเสื้อผ้าจะมีกลิ่น”
“ไม่รู้ว่ามองเห็นแง่มุมในการคัดแยกเสื้อผ้าหรือเปล่าว่า มีเสื้อผ้าจำนวนหนึ่งอยู่ในสภาพที่ไม่สามารถบริจาคต่อได้”
“คนเก่งๆ ไม่ค่อยมาอาสาหรอกครับ เพราะกลัวงาน มองออกว่า ยาก ที่ทำส่วนใหญ่พวกมาด้วยใจ แม้รู้ว่ายาก ก็ยังจะทำ”
“วัฒนธรรมการบริจาคของบ้านเรา ยังต้องพัฒนา บางทีของใช้ไม่ได้แล้ว ก็ยังบริจาค ทำไมไม่คัดก่อนบริจาค”
“จากน้ำฝน มาเป็นน้ำในแม่น้ำ แล้วเอ่อเป็นน้ำทุ่ง พอเข้าเมืองก็เป็นน้ำเน่า ถึงตอนนี้เต็มไปด้วยน้ำลาย ตกลงสู้อยู่กับน้ำอะไรกันแน่”
“นี่เป็นการต่อสู้ระหว่าง น้ำใจ กับ น้ำลาย”
“เพิ่งได้ดูข่าว 3 มิติ ห้องน้ำที่ลอยในดอนเมือง เป็นของเทศบาลเมืองพัทยา ที่เอามาติดตั้งให้ผู้ประสบภัยในศูนย์พักพิงใช้ ไม่ใช่ของบริจาค”
ชมคลิปข่าว 3 มิติ
ถูกแฉกลับ วันที่ 27 ต.ค. น้ำเริ่มท่วมแล้ว แต่ของยังถูกกั๊กไว้จำนวนมาก แล้วมาบอกว่าเก็บไม่ทัน
หลังจากนั้นได้มีหน้าเพจเฟซบุ๊ก Drama-addict ได้แฉคลิป แสดงให้เห็นว่า ในวันที่ 27 ต.ค. ซึ่งน้ำก็เริ่มท่วมที่ศูนย์อพยพแล้ว แต่ของบริจาคยังคงถูกเก็บไว้เป็นจำนวนมาก ไม่ได้มีการเคลื่อนย้ายไปไหนแต่อย่างใด แต่พอมาวันนี้กลับบอกว่าเก็บไม่ทัน