xs
xsm
sm
md
lg

"มาร์ค"ดันใช้พรก.ฉุกเฉิน ให้ทหารเข้าจัดการพื้นที่วิกฤติ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน -"มาร์ค"รุดฟังข้อมูลน้ำในพื้นที่กทม. เชื่อมือ"สุขุมพันธ์" ยังรับไหว เผยสถานการณ์น้ำทะเลผ่านจุดวิกฤติ รอลุ้นอีกสองสัปดาห์ กำชับกทม.ร่วมมือรัฐบาลรับมือน้ำเหนือ เตือนรัฐบาลเร่งปิดจุดอ่อน รอรับน้ำลูกใหม่ แนะปล่อยมือให้ทหารเข้าไปจัดการในพื้นที่วิกฤตเพราะมีศักยภาพพร้อม ด้านศปภ.ยันไร้สั่งใบสั่งฮุบของบริจาค-กระสอบทราย-เครื่องสูบน้ำ ลงพื้นที่ส.ส.-ส.ว. เพื่อหาเสียง

เมื่อเวลา 13.30 น. วานนี้ (16 ต.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมคณะ เดินทางไปเยี่ยมประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ เขตมีนบุรี หนอกจอก และฟังการบรรยายสรุป ที่ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจการแก้ไขปัญหา และช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่กทม. ฝั่งตะวันออก โดยมี ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. และคณะผู้บริหารกทม. รวมทั้งผู้อำนวยการเขตมีนบุรี หนอกจอก ให้การต้อนรับและบรรยายสรุป

นายอภิสิทธิ์ กล่าวภายหลังจากที่ได้รับฟังการบรรยายสรุปว่า กทม.ได้เตรียมการอย่างเต็มที่ ตนก็พยายามติดตาม และในวันนี้ได้เดินทางมากรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก ความจริงในขณะนี้สถานการณ์ในส่วนของน้ำทะเลเห็นว่าจุดที่หนักที่สุดได้ผ่านพ้นไปแล้ว ส่วนอีกสองสัปดาห์ก็ค่อยมาว่ากันใหม่

ส่วนน้ำทางเหนือประเด็นหลักอยู่การควบคุมการระบายน้ำ ทั้งที่ จ.ปทุมธานี และจ.นครปฐม ซึ่งกทม. และรัฐบาล ต้องประสานงานกันตลอด

นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ตนให้ความมั่นใจว่า กทม.ให้ความร่วมมือกับรัฐบาลเต็มที่ และทางผู้ว่าฯกทม. รองผู้ว่าฯกทม. ก็ประสานงานอยู่อย่างใกล้ชิดตลอดเวลา เนื่องจากยังมีน้ำที่ระบายลงมาค่อนข้างเยอะ ต้องบริหารจัดการให้ดี รวมถึงการทำความเข้าใจกับมวลชน เพราะยังเป็นจุดที่มีความเปราะบาง และละเอียดอ่อน ส่วนที่ควบคุมไม่ได้ คือ น้ำฝน แต่ทางกทม. ยืนยันมาโดยตลอด ซึ่งเมื่อคืนก็สามารถระบายน้ำได้ภายในสองชั่วโมง

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการพูดคุยกับกรมชลประทานหรือไม่ ที่จะมีการปิด-เปิดประตูคลองสามวา นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทางผู้ว่าฯกทม. ก็คุยอยู่ตลอด เราเห็นใจทุกฝ่าย แต่ก็ต้องพยายามทำความเข้าใจ และดูแลให้ดี เพราะที่รายงานเข้ามาตรงนี้ ก็บอกว่าน้ำเพิ่มขึ้นวันละ 1 - 2 ซม. สะสมก็เป็นปัญหา และพี่น้องชาวกทม. ฝั่งตะวันออก ก็ต้องอยู่กับสภาวะที่น้ำท่วมมาระยะหนึ่งแล้ว

" วันก่อนผมไปที่คลองสามวา ก็เห็นชัดเจน วันนี้ก็มาที่ลาดกระบัง และมีนบุรี ก็มีการท่วมขัง แต่ต้องไม่ประมาท ติดตามสถานการณ์ตลอดเวลา และผู้ว่าฯกทม.ได้พูดชัดเจน ว่าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด มีอะไร ท่านสามารถให้ข่าวสารกับประชาชนได้"

** "มาร์ค"ยังแนะใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึง ภาพรวมของสถานการณ์น้ำทั่วประเทศ เมื่อประเมินการทำงานของศปภ.แล้ว อยากให้ทหารอุดรูรั่วในจุดที่วิกฤต แต่ไม่ขอวิจารณ์อะไรมาก เพราะต้องการให้ทุกฝ่ายเร่งทำงานแก้ไขปัญหาที่จะต้องเกิดขึ้นต่อไป แต่ตนคิดว่าที่ผ่านมาก็มีบทบาทในหลายเรื่อง และหวังว่าจะทำให้การทำงานปิดจุดอ่อน ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสาร หรือการคาดการณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การอยู่กับความเป็นจริง ซึ่งต้องยอมรับสภาพว่า น้ำที่ลงมาหลายครั้งเกินความคาดหมาย ในที่สุดแล้วการป้องกั้นก็เอาไม่อยู่ ตรงนี้จึงต้องพยายามย้ำเตือนตลอดเวลา ไม่ให้อยู่บนความประมาท

ส่วนเรื่องความจำเป็นที่จะต้องใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือไม่ รัฐบาลเป็นผู้พิจารณา แต่ที่ตนเสนอแนะไป เพราะเห็นว่า ในบางพื้นที่การจัดจะง่ายขึ้น เช่น ใน จ.อยุธยา ก็จะต้องไปค้นหาว่ามีใครไปติดอยู่บ้าง แต่ถ้าเราใช้มาตรการและลักษณะการอพยพ ให้คนออกมาตั้งแต่ต้น เราก็จะบริหารจัดการได้ง่ายกว่า

นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวชื่นชมการของกองทัพว่า ได้ทำงานเต็มที่ ตนไปทุกแห่งก็เห็นว่ากองทัพ และบุคลากร และกำลังพล ที่พร้อมจะลุยงานอย่างเต็มที่ ไม่ได้พักมานานมากแล้ว การที่รัฐบาลมอบหมายให้กองทัพเข้าไปทำงานในพื้นที่ที่ถือเป็นจุดวิกฤตนั้น เพราะมีศักยภาพ และมีความพร้อมในเรื่องเครืองมือ และกำลังพลมากที่สุด ซึ่งต้องทำงานอย่างใกล้ชิด เท่าที่ดูก็เห็นว่ากองทัพสนองนโยบายได้อย่างไม่มีปัญหา

" ขณะนี้การติดตาม การให้ข่าวสาร ในเรื่องของสถานการณ์น้ำ และการสื่อสารให้เป็นเอกสภาพ ให้เกิดความมั่นใจ การบอกถึงมาตรการรองรับ ที่จะตอบสนองเวลาที่จะเกิดเหตุการณ์ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีความสำคัญมากที่สุด สำหรับประชาชนเวลานี้เราพูดกันหลายปัญหาที่ กทม.เราก็พูดถึงการป้องกั้น แต่พื้นที่อย่าง อยุธยา และนครสวรรค์ ในขณะนี้วิกฤตมาก การเข้าไปช่วยเหลือ ก็เป็นงานอีกลัษณะหนึ่ง จะไปพูดในภาพรวมคงไม่ได้ การสร้างความมั่นใจและความมีเอกภาพการใช้อำนาจต่างๆ ของรัฐ เป็นตัวช่วยให้สังคมเข้ามาแก้ปัญหาง่ายขึ้น ทุกหน่วยงานมีการระดมการบริจาค แต่เวลาที่หลายหน่วยงานเข้าไปช่วย มีจุดที่จะประสานงานให้การช่วยเหลือ มีประสิทธิภาพนั้นยังมีปัญหาเกือบทั้งหมด "

เมื่อถามถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ระบุว่า หลังจากที่แก้ไขสถานการณ์เสร็จแล้ว ในลำดับถัดไป รัฐบาลจะทำการฟื้นฟูเยียวยา และคิด เมกกะโปรเจกต์ 25 ลุ่มน้ำ นายอภิสิทธิ์ ย้อนถามว่า ตนเห็นให้สัมภาษณ์ว่า ไม่แนะนำอะไรกับรัฐบาลในเรื่องน้ำท่วมไม่ใช่หรือ แล้วถ้าน้ำไม่ลดล่ะ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากนั้น นายอภิสิทธิ์ และคณะได้เดินทางไปเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัยที่สุเหร่าบ้านเกาะ และหมู่บ้านวัฒนา เขตมีนบุรี หนองจอก พร้อมมอบถุงยังชีพ อย่างไรก็ตามได้มีทหารจากกองพันทหารสารวัตรที่ 11 จำนวนร้อยนาย นำกำลังพลมาช่วยเหลือ บรรจุกระสอบทรายและสร้างพนังกั้นน้ำ ระหว่างนั้นได้มีชาวบ้านนำกำผังบุ้งมามอบให้กับ นายอภิสิทธิ์ และม.ร.ว.สุขุมพันธ์ แทนดอกไม้เป็นการต้อนรับด้วย

** ยันแจกของบริจาคโปร่งใส ?

พล.ท.พลางกูร กล้าหาญ โฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ( ศปภ. )ในฐานะรับผิดชอบฝ่ายขนส่งของบริจาค เพื่อไปช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัย เปิดเผยว่า ในการบริหารจัดการของบริจาคที่ส่งมายังท่าอากาศยานดอนเมือง ทั้งหมดจะอยู่ในความรับผิดชอบของ นายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม. , กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ในการรับของบริจาค และลำดับความสำคัญ และความจำเป็นของพื้นที่ก่อนแจกจ่ายไปสู่พี่น้องประชาชน

ส่วนการขออาสาสมัครมาช่วยบรรจุถุงยังชีพ หรือกิจกรรมต่างๆใน ศปภ. เช่น กำลังบรรจุทรายใส่กระสอบ หรือตามคำร้องขอจากพื้นที่เดือดร้อนต่างๆ เป็นหน้าที่ของ นายสมบัติ งามบุญอนงค์ บก.ลายจุด เป็นผู้ดูแลประสานงานจัดหากำลังอาสาสมัครภาคประชาชน เข้ามาเสริมสนับสนุน

ทั้งนี้ ในแต่ละวันจะมีรถขนของบริจาคออกจาก ศปภ.วันละ 20-30 คัน ส่วนรถบรรทุกได้รับการสนับสนุนจากกองทัพบก ที่นำมาสนับสนุน 5-10 คัน และที่เหลือภาคเอกชนขออาสาเข้ามาร่วมช่วยเหลือ เช่น บริษัทไปรษณีไทย โดยรัฐบาลหรือศปภ.ออกค่าใช้จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง ส่วนการกำหนดจุดส่งของบริจาคเพื่อนำรถขนส่งของบริจาคเข้าไปในพื้นที่ จะมีการประสานงานระหว่าง ปภ. กับผู้ว่าราชการจังหวัด จากนั้นจะประสานต่อผ่านนายอำเภออีกครั้ง เพื่อแจ้งจุดที่ชัดเจน

"การนำรถขนของบริจาคไปแจกจ่าย และรถแต่ละคันจะต้องมีใบกำกับจุดหมายปลายทางก่อนออกเดินทางทุกครั้ง จึงยืนยันได้ว่า ไม่มีการเล่นเส้น หรือใบสั่งให้ส่งขอบริจาคไปเฉพาะพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งเป็นการเฉพาะพิศษให้กับนักการเมือง และขอยืนยันว่า ไม่มีใครจะมาสั่งให้รถขนของบริจาคไปเลี้ยวซ้าย หรือเลี้ยวขวา ไปแจกของยังจังหวัดหรือพื้นที่ใดของนักการเมืองคนใดคนหนึ่งเป็นพิเศษได้ เพราะเราใช้ระบบการบริหารจัดการตามลำดับความสำคัญ ของพื้นที่เดือดร้อน" พล.ท.พลางกลู กล่าว

**ไม่มีโควต้าส.ส.-ส.ว.เพื่อหาเสียง

นายอนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที กล่าวว่า ไม่มีการซิกแซก หรือเล่นพรรคเล่นพวกของ ส.ส.หรือ ส.ว.ในการขอโควต้าของบริจาค กระสอบทราย หรือ เครื่องสูบน้ำ ไปยังพื้นที่ตัวเองเพื่อหวังหาเสียงอย่างเด็ดขาด แต่เน้นการจัดส่ง จัดหาตามลำดับความเดือดร้อน แม้ในกระบวนการจัดการฝ่ายการเมืองจะเข้ามาบริหารจัดการก็ตามที แต่เนื่องด้วยฝ่ายการเมืองย่อมทราบความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ดี ทั้งนี้ ในการส่งของแจกจะเร่งให้ทันต่อเวลา และถึงมือประชาชนโดย ส.ส.และ ส.ว. จะเข้ามามีส่วนร่วมด้วยการให้ข้อมูลว่ามีประชาชนพื้นที่ใดได้รับความเดือดร้อนตรงจุดไหนอย่างไรบ้าง จากนั้นก็จะมีเจ้าหน้าที่ของฝ่ายราชการ คือ พม. หรือ ปภ. เป็นต้น เข้ามาดำเนินการ
กำลังโหลดความคิดเห็น