ASTVผู้จัดการรายวัน-แดงลายจุด! ส่อของบประมาณรัฐ พา 50 แนวร่วมเที่ยว“เชียงราย” อ้างเป็นผู้ประสบอุทกภัยพาพักโฮมสเตย์ แถมขู่ !ประชาชน ให้สนับสนุนคนเสื้อแดง ด้านรัฐมนตรีไอซีที ส่อของบรัฐเหมือนกันชวนศึกษาเทคโนโลยี “ญี่ปุ่น” กระสอบเจล ใบละ 182 บาท
เมื่อเวลา 11.30 น. วานนี้(24 ต.ค.) ที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.)นายสมบัติ บุญงามอนงค์ แนวร่วมคนเสื้อแดง (บก.ลายจุด) ที่ตั้งตัวเองเป็น “ศปภ.ภาคประชาชน” แถลงข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลตอนหนึ่งว่า ขอเรียกร้องให้ผู้ประกอบการอพาร์ตเมนต์ หอพัก ให้งดเว้นการจัดเก็บเงินล่วงหน้า โดยคิดแต่ค่าเช่าเป็นรายเดือน เพราะประชาชนที่อพยพมาไม่ได้อาศัยอยู่ในระยะยาว และขอให้บริษัทเอกชน ประกาศวันหยุดให้พนักงานที่อยู่ในพื้นที่ประสบอุทกภัย และไม่สามารถเดินทางมาทำงานได้ตามปกติ
ขอให้รัฐบาลสนับสนุน โดยขอความร่วมมือจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กรมการปกครอง การปกครองส่วนท้องถิ่น ให้จัดทำ “โครงการโฮมสเตย์” ประมาณ 1-2 สัปดาห์ หรือ 1 เดือน เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัยอพยพไปอาศัอยู่ในโฮมสเตย์ที่มีอยู่ทั่วประเทศประมาณหมื่นแห่ง เพื่อเป็นการลดความเครียด โดยทางมูลนิธิกระจกเงาจะเริ่มต้นที่จ.เชียงราย เป็นที่แรกโดยจะนำผู้อพยพประมาณ 50 คน เดินทางไปโดยให้มีการเรียนรู้เรื่องป่าต้นน้ำ จะได้ทราบว่าปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นเกิดจากอะไร ตลอดจนเรียกร้องให้ประชาชนช่วยกันสนับสนุนกลุ่มผู้อาสาสมัครที่ลงพื้นที่ปฏิบัติงานช่วยเหลือประชาชน
ข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านั้น บก.ลายจุด เสนอ ศปภ.ให้บริษัทต่างๆ ส่งพนักงานมาเป็นอาสาสมัครบริษัทละ 2 คน โดยจะไม่ถือว่าขาดงาน รวมทั้งขอโทรศัพท์มือถือเก่าที่ยังใช้งานได้อยู่มาให้ใช้ทำงาน 300 เครื่อง เพื่อให้การติดต่อกับคนเสื้อแดงที่อุปโลกว่า เป็น “ศปภ.ภาคประชาชน”
อีกด้าาน น.อ. อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กล่าวภายหลังสำนักงานรัฐบาลอิเลกทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) (สรอ.) ได้นำเสนอ “กระสอบพองน้ำ” (Hydro Bag ) ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่เพื่อใช้ในสถานการณ์น้ำท่วม เป็นเทคโนโลยีที่มาจากประเทศญี่ปุ่น นำมาผลิตกระสอบพองน้ำโดยใช้โพลีเอสเตอร์ เพราะประเทศญี่ปุ่นนั้นก็มีปัญหาในเรื่องของสึนาม และอุทกภัย เกิดขึ้นบ่อยครั้งโดยสาเหตุเกิดขึ้นจากภัยธรรมชาติ เชื่อว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับประเทศไทย เพราะเทคโนโลยีการทำแนวคันกั้นน้ำทำจากกระสอบทรายนั้นยังไม่ได้มีการพัฒนา ขณะที่เทคโนโลยีกระสอบน้ำของประเทศญี่ปุ่นมีขนาดไม่ใหญ่และเบามาก สร้างความสะดวกสบายกับเด็กและสตรีสามารถยกได้หลายใบ
สำหรับลักษณะของกระสอบนั้นเหมือนกระสอบเปล่าทั่วไปแต่ภายในของกระสอบนั้นมีเจลพิเศษอยู่ เมื่อนำมาแช่น้ำประมาณ 3นาที น้ำก็จะเข้าไปอยู่ในกระสอบทันทีเกิดการพองตัวกลายเป็นกระสอบทรายที่สามารถกั้นน้ำได้ สำหรับครั้งนี้ได้ประสานกับองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (ไจก้า) ให้ช่วยส่งผู้เชี่ยวชาญมาถ่ายทอดเทคโนโลยีดังกล่าวในการทำกระสอบน้ำสำหรับประเทศไทย อีกทั้งกระสอบน้ำดังกล่าวนี้เมื่อนำมาใช้แล้วครั้งหนึ่งก็สามารถนำมารีไซเคิลกลับมาใช้ใหม่ได้อีกครั้ง
สำหรับกระสอบดังกล่าวมีความเหมาะสมกับพื้นที่กทม.ตามตรอกซอกซอยต่างๆ ที่เข้าถึงยาก เพราะสะดวกต่อในการเคลื่อนย้าย โดยคุณสมบัติพิเศษของกระสอบพองน้ำนี้คือไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่มาก ใช้เวลาในการพองตัวเพียง 3 นาทีเท่านั้น ง่ายต่อการเคลื่อนย้ายและขนส่ง สามารถเรียงขึ้นไปได้ถึง 3 ชั้น สามารถใช้ได้กับน้ำทะเล ไม่มีกรดเป็นกลาง และมีอายุการใช้งานมากถึง 3 ปี
โดยขณะนี้ก็กำลังรอขั้นตอนการส่งต่อให้กระทรวงไอซีทีร่วมมือกับทางกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแล้วเชิญเอ็นเทคกับผู้เชี่ยวชาญมาช่วยศึกษากันต่อไป ทั้งนี้เชื่อว่าหากได้รับการพัฒนาจะเป็นประโยชน์กับทางประเทศในการแก้ปัญหาอุทกภัยไม่มากก็น้อย
รายงานข่าวแจ้งว่า วิวัฒนาการใหม่ กระสอบ(เจล) น้ำขณะนี้ประเทศไทยยังไม่มี แต่ทางญี่ปุ่นพร้อมที่จะให้ความรู้ด้านวิชาการกับไทย ปัจจุบันราคาอยู่ที่กระสอบละ 450 เยน หรือประมาณ 182 บาท และยังไม่มีจำหน่ายในไทย
เมื่อเวลา 11.30 น. วานนี้(24 ต.ค.) ที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.)นายสมบัติ บุญงามอนงค์ แนวร่วมคนเสื้อแดง (บก.ลายจุด) ที่ตั้งตัวเองเป็น “ศปภ.ภาคประชาชน” แถลงข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลตอนหนึ่งว่า ขอเรียกร้องให้ผู้ประกอบการอพาร์ตเมนต์ หอพัก ให้งดเว้นการจัดเก็บเงินล่วงหน้า โดยคิดแต่ค่าเช่าเป็นรายเดือน เพราะประชาชนที่อพยพมาไม่ได้อาศัยอยู่ในระยะยาว และขอให้บริษัทเอกชน ประกาศวันหยุดให้พนักงานที่อยู่ในพื้นที่ประสบอุทกภัย และไม่สามารถเดินทางมาทำงานได้ตามปกติ
ขอให้รัฐบาลสนับสนุน โดยขอความร่วมมือจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กรมการปกครอง การปกครองส่วนท้องถิ่น ให้จัดทำ “โครงการโฮมสเตย์” ประมาณ 1-2 สัปดาห์ หรือ 1 เดือน เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัยอพยพไปอาศัอยู่ในโฮมสเตย์ที่มีอยู่ทั่วประเทศประมาณหมื่นแห่ง เพื่อเป็นการลดความเครียด โดยทางมูลนิธิกระจกเงาจะเริ่มต้นที่จ.เชียงราย เป็นที่แรกโดยจะนำผู้อพยพประมาณ 50 คน เดินทางไปโดยให้มีการเรียนรู้เรื่องป่าต้นน้ำ จะได้ทราบว่าปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นเกิดจากอะไร ตลอดจนเรียกร้องให้ประชาชนช่วยกันสนับสนุนกลุ่มผู้อาสาสมัครที่ลงพื้นที่ปฏิบัติงานช่วยเหลือประชาชน
ข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านั้น บก.ลายจุด เสนอ ศปภ.ให้บริษัทต่างๆ ส่งพนักงานมาเป็นอาสาสมัครบริษัทละ 2 คน โดยจะไม่ถือว่าขาดงาน รวมทั้งขอโทรศัพท์มือถือเก่าที่ยังใช้งานได้อยู่มาให้ใช้ทำงาน 300 เครื่อง เพื่อให้การติดต่อกับคนเสื้อแดงที่อุปโลกว่า เป็น “ศปภ.ภาคประชาชน”
อีกด้าาน น.อ. อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กล่าวภายหลังสำนักงานรัฐบาลอิเลกทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) (สรอ.) ได้นำเสนอ “กระสอบพองน้ำ” (Hydro Bag ) ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่เพื่อใช้ในสถานการณ์น้ำท่วม เป็นเทคโนโลยีที่มาจากประเทศญี่ปุ่น นำมาผลิตกระสอบพองน้ำโดยใช้โพลีเอสเตอร์ เพราะประเทศญี่ปุ่นนั้นก็มีปัญหาในเรื่องของสึนาม และอุทกภัย เกิดขึ้นบ่อยครั้งโดยสาเหตุเกิดขึ้นจากภัยธรรมชาติ เชื่อว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับประเทศไทย เพราะเทคโนโลยีการทำแนวคันกั้นน้ำทำจากกระสอบทรายนั้นยังไม่ได้มีการพัฒนา ขณะที่เทคโนโลยีกระสอบน้ำของประเทศญี่ปุ่นมีขนาดไม่ใหญ่และเบามาก สร้างความสะดวกสบายกับเด็กและสตรีสามารถยกได้หลายใบ
สำหรับลักษณะของกระสอบนั้นเหมือนกระสอบเปล่าทั่วไปแต่ภายในของกระสอบนั้นมีเจลพิเศษอยู่ เมื่อนำมาแช่น้ำประมาณ 3นาที น้ำก็จะเข้าไปอยู่ในกระสอบทันทีเกิดการพองตัวกลายเป็นกระสอบทรายที่สามารถกั้นน้ำได้ สำหรับครั้งนี้ได้ประสานกับองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (ไจก้า) ให้ช่วยส่งผู้เชี่ยวชาญมาถ่ายทอดเทคโนโลยีดังกล่าวในการทำกระสอบน้ำสำหรับประเทศไทย อีกทั้งกระสอบน้ำดังกล่าวนี้เมื่อนำมาใช้แล้วครั้งหนึ่งก็สามารถนำมารีไซเคิลกลับมาใช้ใหม่ได้อีกครั้ง
สำหรับกระสอบดังกล่าวมีความเหมาะสมกับพื้นที่กทม.ตามตรอกซอกซอยต่างๆ ที่เข้าถึงยาก เพราะสะดวกต่อในการเคลื่อนย้าย โดยคุณสมบัติพิเศษของกระสอบพองน้ำนี้คือไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่มาก ใช้เวลาในการพองตัวเพียง 3 นาทีเท่านั้น ง่ายต่อการเคลื่อนย้ายและขนส่ง สามารถเรียงขึ้นไปได้ถึง 3 ชั้น สามารถใช้ได้กับน้ำทะเล ไม่มีกรดเป็นกลาง และมีอายุการใช้งานมากถึง 3 ปี
โดยขณะนี้ก็กำลังรอขั้นตอนการส่งต่อให้กระทรวงไอซีทีร่วมมือกับทางกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแล้วเชิญเอ็นเทคกับผู้เชี่ยวชาญมาช่วยศึกษากันต่อไป ทั้งนี้เชื่อว่าหากได้รับการพัฒนาจะเป็นประโยชน์กับทางประเทศในการแก้ปัญหาอุทกภัยไม่มากก็น้อย
รายงานข่าวแจ้งว่า วิวัฒนาการใหม่ กระสอบ(เจล) น้ำขณะนี้ประเทศไทยยังไม่มี แต่ทางญี่ปุ่นพร้อมที่จะให้ความรู้ด้านวิชาการกับไทย ปัจจุบันราคาอยู่ที่กระสอบละ 450 เยน หรือประมาณ 182 บาท และยังไม่มีจำหน่ายในไทย
