“ทักษิณ” โผล่เป็นประธานกิตติมศักดิ์ฝ่ายฆราวาส พิธีทอดกฐินวัดไทยในเดนมาร์ก ฟุ้งอยากให้นักการเมืองทุกฝ่ายช่วยกันแก้ปัญหาน้ำท่วม เผย “ปู” โทร.ปรึกษาตลอด เสียงอ่อยกลับไทย ธ.ค.นี้หรือไม่ บอกไม่มีกำหนดการแน่ชัด พร้อมโวอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อคนไทยก็จะช่วย อยู่ที่ไหนก็ทำได้
วันนี้ (29 ต.ค.)เมื่อเวลา 10.00 น.(ตามเวลาท้องถิ่น) ที่วัดไทยเดนมาร์กพรหมวิหาร กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมกับวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ได้จัดพิธีทอดกฐินพระราชทาน ตามโครงการ “คณะผ้ากฐินพระราชทาน ประจำปี 54 9 วัด 9 ประเทศ สู่ยุโรป-สแกนดิเนเวีย” โดยมี พระพรหมโมลี วัดพิชยญาติการาม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และนายปิยวัฒน์ นิยมกฤษ์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโคเปนเฮเกน เป็นประธานฝ่ายฆราวาส มีพระเถรานุเถระชั้นผู้ใหญ่จากประเทศไทยเข้าร่วมงาน เช่น พระธรรมสิทธินายก วัดสระเกศฯ พระธรรมโกศาจารย์ วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร อธิการบดีมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พระเทพปริยวิมล วัดบวรนิเวศวิหารราชวรวิหาร เป็นต้น
ภายในงานมีคนไทยที่พำนักอยู่ในประเทศเดนมาร์กมาร่วมงานกว่า 200 คน และที่สำคัญคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาร่วมงานด้วย โดยได้รับเกียรติเป็นประธานกิตติมศักดิ์ฝ่ายฆราวาส ทันทีที่ พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางมาถึงภายในงาน ได้ตรงเข้าไปทักทายกลุ่มคนไทยท่ามกลางเสียงปรบมือและตะโกนเรียกชื่อดังลั่น
พ.ต.ท.ทักษิณได้เป็นผู้กล่าวถวายผ้ากฐินพระราชทานด้วย พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวทักทายคนไทยที่มาร่วมงานหลังเสร็จพิธีว่า “วันนี้เป็นวันที่ผมรู้สึกแปลกๆ เพราะไม่เคยสวมสูท ผูกไท เข้าร่วมงานพิธีแบบนี้มานานแล้ว หลังจากตกงานมา 5 ปี วันนี้เพิ่งมีโอกาสมาร่วมพิธีกฐินพระราชทาน และกราบพระชั้นผู้ใหญ่ รู้สึกมีบุญมาก หรือว่าเป็นบุญที่กำลังจะหมดกรรม คิดว่าเป็นอะไรที่มีความสุข นโยบายของพรรคเพื่อไทยต้องการให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของพุทธศาสนา เผยแผ่พุทธศาสนาให้ยิ่งใหญ่ ทำให้คนไทยมีความสุข มีการพัฒนาควบคู่ไปกับศีลธรรม ทุกวันนี้หายไปเยอะพอสมควร ที่ผ่านมาผมไปไหนมาไหนอยู่ใกล้ทูตไม่ได้ เพราะกลัวทูตถูกย้าย”
ต่อมา พ.ต.ท.ทักษิณให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วมในประเทศไทยว่า ตนติดตามปัญหามาตลอด ทราบว่าน้ำจากทางเหนือ นครสวรรค์ ลพบุรี พระนครศรีอยุธยา ปริมาณน้ำได้ลดลงแล้ว แต่ทาง กทม.เจอน้ำทะเลหนุนอีก เชื่อว่าหลังวันที่ 2 พ.ย. ทุกอย่างจะคลี่คลาย ที่สำคัญรัฐบาลวางแผนฟื้นฟูบ้านเรือน สถานที่ราชการ วัด โรงเรียน ถนน คืนสู่สภาพภายใน 3 เดือน โดย 3 เดือนแรกต้องทำงานกันอย่างหนัก คิดว่าการฟื้นฟูจะทำได้อย่างรวดเร็ว เพราะรัฐบาลเตรียมงบประมาณฉุกเฉินไว้แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โทร.มาปรึกษาเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมบ้างหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า คุยกัน มีอะไรก็ปรึกษากันตลอด ช่วงนี้นายกฯ ทำงานหนัก นานๆ จึงโทร.มาปรึกษาแนวทางในการจัดสรรงบประมาณที่จะเข้าไปช่วยเหลือและฟื้นฟูให้กับประชาชน ซึ่งวันนี้รัฐบาลมีงบประมาณในการแก้ไขปัญหาเพียงพอ ส่วนแนวทางแก้ไขราคาสินค้าที่พุ่งสูงขึ้นหลังเหตุการณ์น้ำท่วม เรื่องนี้นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ดูแลเรื่องนี้อยู่ และพิจารณาอย่างรอบครอบ ท่านเล่าให้ฟังว่าได้พยายามดูแลราคาสินค้าเป็นอย่างดี ช่วงแรกเกิดขึ้นจากการตกใจ ทำให้สินค้าขาดตลาด แต่จริงๆ แล้วสินค้าไม่ได้ขาด แต่เกิดจากปัญหาการขนส่ง
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า น้ำท่วมทำให้พื้นที่นาข้าวและการเกษตรเสียหาย จะส่งผลกระทบต่อสินค้าเกษตรราคาแพงขึ้นหรือไม่ อดีตนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไม่มาก เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นนาปรัง เรายังมีนาปี ไม่ส่งผลกระทบ ไม่ต้องตกใจ ส่วนภาคอุตสาหกรรม หลังน้ำลดได้มีการเตรียมแผนฟื้นฟูภาคอุตสาหกรรมและการแก้ปัญหาระยะยาว ซึ่งตนได้คุยกับนายกรัฐมนตรีแล้ว อาจจะมีการสร้างช่องทางระบายน้ำออกทะเล ซึ่งเป็นการศึกษาต้นแบบมาจากสหรัฐอเมริกา โดยหน้าน้ำหลากจะเป็นช่องทางระบายน้ำ ส่วนหน้าแล้งจะเป็นถนน
เมื่อถามว่า กรณีที่พรรคเพื่อไทยไม่ได้คุมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งดูแลกรมชลประทาน จะแก้ปัญหาน้ำได้หรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า ไม่มีปัญหา เพราะนายกฯ มีแนวคิดอยากตั้งกระทรวงน้ำ เอางานเรื่องน้ำของทุกภาคส่วนทั้งหมดมารวมกัน ซึ่งนายกฯ มีแนวความคิดในการผันน้ำไปยังพื้นที่จังหวัดต่างๆ ที่สามารถรองรับได้ แต่ปีนี้ไม่สามารถทำได้เพราะปริมาณน้ำแต่ละพื้นที่ไม่เท่ากัน และประชาชนบางส่วนไม่ยอมให้ผันน้ำผ่านพื้นที่นา นายกฯ ยังบอกว่ารัฐบาลญี่ปุ่นให้ความสนใจที่จะช่วยเหลือภาคอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในประเทศไทย โดยเตรียมเงินไว้ราว 2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อช่วยเหลือบริษัทญี่ปุ่นที่ถูกน้ำท่วม
นอกจากนี้ยังจะออกวีซ่าให้คนไทยที่ทำงานในบริษัทญี่ปุ่น ไปทำงานในประเทศญี่ปุ่นเป็นเวลา 6 เดือน ระหว่างรอการฟื้นฟูนิคมอุตสาหกรรม เมื่อเร็วๆ นี้ตนไปอินเดีย นายกรัฐมนตรีอินเดียได้เสนอให้ความช่วยเหลือ โดยจะส่งทีมบริหารจัดการภัยพิบัติ ที่เคยไปช่วยเหลือประเทศญี่ปุ่นช่วงเกิดสึนามิ มาช่วยประเทศไทย ทางท่านนายกฯ กำลังพิจารณาอยู่ว่าจะขอรับการช่วยเหลือหรือไม่
เมื่อถามว่า การเกิดน้ำท่วมในประเทศไทย ทำให้นักธุรกิจต่างชาติตกใจหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า เท่าที่ทราบตกใจและเป็นห่วงประเทศไทย และอยากเข้ามาช่วยเหลือ ซึ่ง รมว.ต่างประเทศ ไปประเทศเกาหลีล่าสุด เพื่อนชาวเกาหลีที่เป็นนักธุรกิจก็บริจาคมา 1 แสนดอลลาร์สหรัฐ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ปัญหาน้ำท่วมเกิดความล่าช้าในการช่วยเหลือประชาชน เนื่องจากฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านต่างเล่นเกมการเมือง พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า วันนี้ประเทศชาติเกิดภัยพิบัติ มันเป็นโอกาสที่คนไทยต้องหาทางหันหน้าเข้าหากัน ห่วงใยประชาชนและประเทศชาติเป็นหลัก อยากให้นักการเมืองทุกฝ่ายไม่ส่งเสียงทางการเมือง ช่วยกันแก้ปัญหามากกว่า และสาเหตุที่น้ำท่วมครั้งนี้เพราะน้ำมามาก และพื้นที่กว้าง ข้าราชการไม่เคยเจอ จึงต้องใช้เวลาในการตั้งตัว
ส่วนกรณีมีกระแสข่าวว่าจะเดินทางกลับประเทศไทยในเดือน ธ.ค.นี้ อดีตนายกฯ กล่าวว่า ยัง ไม่มีกำหนดการแน่ชัด วันนี้มีอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อคนไทยก็จะช่วย ตนอยู่ที่ไหนก็ทำได้