รัฐมนตรีพลังงานโว เอ็นเนอร์ยี คอมเพล็กซ์ น้ำไม่ท่วมแน่ ชี้สูงกว่าระดับน้ำทะเล 2 เมตร ปิดแผ่นเหล็กล้อมรอบ ยาซิลิโคนอย่างดี พร้อมแผน 2 สร้างโครงเหล็กเชื่อมโทลล์เวย์ เผย “ยิ่งลักษณ์” เคยมาดูแล้ว พร้อมยกห้องทำงานให้นายกฯ ใช้ เล็งติด 140 เครื่องสูบน้ำกู้นิคม
วันนี้ (29 ต.ค.) นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พลังงาน กล่าวถึงกรณีการที่ ศปภ.ใช้อาคารเอ็นเนอร์ยี คอมเพล็กซ์ กระทรวงพลังงาน เป็นสถานที่แห่งใหม่แทนสนามบินดอนเมืองว่า ตนมั่นใจว่าน้ำจะไม่ท่วมในบริเวณของกระทรวงพลังงานอีก เพราะพื้นที่ของกระทรวงพลังงานสูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 2 เมตร รวมไปถึงเรามีมาตรการป้องกันการทะลักของน้ำจากภายนอกโดยปิดแผ่นเหล็กไว้รอบรั้วของกระทรวง และยาซิลิโคนอย่างดี อย่างไรก็ตาม หากน้ำท่วมที่ถนนวิภาวดีรังสิต กระทรวงพลังงานมีแผน 2 โดยการสร้างโครงเหล็กซึ่งใช้งบประมาณไม่มากให้เป็นทางเชื่อมจากโทลเวย์เข้ามายังกระทรวงพลังงานได้ ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สั่งให้ตนเตรียมความพร้อมในเรื่องสถานที่สำรองของ ศปภ.มาประมาณ 3-4 อาทิตย์ และเคยเดินทางมาดูสถานที่แล้ว ซึ่งกระทรวงพลังงานได้เตรียมความพร้อมของสถานที่ตั้งต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา
“กระทรวงพลังงานมีห้องประชุมจำนวนมาก ซึ่งสามารถทำเป็นวอร์รูมในการติดตามสถานการณ์น้ำของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างมีประสิทธิภาพได้ สามารถโอนสายคอลเซ็นต์เตอร์ ศปภ. 1111 กด 5 มาใช้ที่นี่ได้ทันที นอกจากนี้ยังมีห้องพักในอาคารซีไว้สำหรับเจ้าหน้าที่ปฎิบัติงาน ขณะที่ห้องทำงานของนายกฯนั้น ผมได้ยกห้องทำงานส่วนตัว ให้เป็นห้องทำงานของนายกฯ โดยในห้องทำงานมีห้องนอน และห้องอาบน้ำไว้พร้อม จนถึงสามารถจะประชุม ครม.ที่นี่ก็ได้”
นายพิชัยกล่าวต่อว่า การที่ย้าย ศปภ.มาที่นี่เพื่อเตรียมพร้อมในการฟื้นฟูหลังน้ำลดด้วย ซึ่งในส่วนของกระทรวงพลังงานก็มีหน้าที่เตรียมกู้นิคมอุตสาหกรรมโดยจะติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 140 เครื่อง เมื่อน้ำลดลงในระดับที่สามารถกู้ได้ จะสูบน้ำออกได้วันละ 1 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งจะทำให้เร็วที่สุด แต่ไม่สามารถบอกได้ว่า จะใช้เวลาเท่าไร เนื่องจากขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำ
วันนี้ (29 ต.ค.) นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พลังงาน กล่าวถึงกรณีการที่ ศปภ.ใช้อาคารเอ็นเนอร์ยี คอมเพล็กซ์ กระทรวงพลังงาน เป็นสถานที่แห่งใหม่แทนสนามบินดอนเมืองว่า ตนมั่นใจว่าน้ำจะไม่ท่วมในบริเวณของกระทรวงพลังงานอีก เพราะพื้นที่ของกระทรวงพลังงานสูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 2 เมตร รวมไปถึงเรามีมาตรการป้องกันการทะลักของน้ำจากภายนอกโดยปิดแผ่นเหล็กไว้รอบรั้วของกระทรวง และยาซิลิโคนอย่างดี อย่างไรก็ตาม หากน้ำท่วมที่ถนนวิภาวดีรังสิต กระทรวงพลังงานมีแผน 2 โดยการสร้างโครงเหล็กซึ่งใช้งบประมาณไม่มากให้เป็นทางเชื่อมจากโทลเวย์เข้ามายังกระทรวงพลังงานได้ ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สั่งให้ตนเตรียมความพร้อมในเรื่องสถานที่สำรองของ ศปภ.มาประมาณ 3-4 อาทิตย์ และเคยเดินทางมาดูสถานที่แล้ว ซึ่งกระทรวงพลังงานได้เตรียมความพร้อมของสถานที่ตั้งต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา
“กระทรวงพลังงานมีห้องประชุมจำนวนมาก ซึ่งสามารถทำเป็นวอร์รูมในการติดตามสถานการณ์น้ำของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างมีประสิทธิภาพได้ สามารถโอนสายคอลเซ็นต์เตอร์ ศปภ. 1111 กด 5 มาใช้ที่นี่ได้ทันที นอกจากนี้ยังมีห้องพักในอาคารซีไว้สำหรับเจ้าหน้าที่ปฎิบัติงาน ขณะที่ห้องทำงานของนายกฯนั้น ผมได้ยกห้องทำงานส่วนตัว ให้เป็นห้องทำงานของนายกฯ โดยในห้องทำงานมีห้องนอน และห้องอาบน้ำไว้พร้อม จนถึงสามารถจะประชุม ครม.ที่นี่ก็ได้”
นายพิชัยกล่าวต่อว่า การที่ย้าย ศปภ.มาที่นี่เพื่อเตรียมพร้อมในการฟื้นฟูหลังน้ำลดด้วย ซึ่งในส่วนของกระทรวงพลังงานก็มีหน้าที่เตรียมกู้นิคมอุตสาหกรรมโดยจะติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 140 เครื่อง เมื่อน้ำลดลงในระดับที่สามารถกู้ได้ จะสูบน้ำออกได้วันละ 1 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งจะทำให้เร็วที่สุด แต่ไม่สามารถบอกได้ว่า จะใช้เวลาเท่าไร เนื่องจากขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำ