xs
xsm
sm
md
lg

กุนซือ ศปภ.เจ๊จุ้นจ้าน “สุดารัตน์” ตีกินข่ม “ปู”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผ่าประเด็นร้อน

เวลานี้คนไทยไม่สนใจอะไรแล้ว นอกจากต้องการเห็นรัฐบาลโดยศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัย (ศปภ.) จะป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพมหานครและช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยอย่างไรให้ดีที่สุด จะวิธีไหนก็ได้ วิธีการไม่สำคัญ แต่สำคัญที่เป้าหมายต้องสำเร็จ

เพราะเชื่อเช่นนั้นจึงทำให้พวกอดีต กก.บห.ไทยรักไทยชุด 111 และอดีตกก.บห.พลังประชาชนชุด 109 พากันเดินเพ่นพล่านเข้าไปสั่งการทั้งข้าราชการ-นักการเมืองในพรรคเพื่อไทยไล่ตั้งแต่ ส.ส.กทม. รวมถึง ส.ก.-ส.ข.แม้แต่รัฐมนตรีในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตรก็ไม่เว้น ยังมีคนเห็นโดนพวก 111 และ 109 ไล่สั่งงานมาแล้ว!

คนที่เปิดตัวแรงสุดในการลงมาช่วยงานรัฐบาลและศปภ.ที่สนามบินดอนเมือง จนเป็นที่ฮือฮา คงหนีไม่พ้น “เจ๊หน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่กลับมารอบนี้ แม้อายุจะได้พรากความสาวไปจากเธอแล้ว อายุที่มากขึ้น ร่างกายที่ดูท้วมทำให้การเคลื่อนไหวขาดความคล่องแคล่วลง

แต่สิ่งที่สุดารัตน์มีในสิ่งที่ผู้บริหาร-รัฐมนตรีใน ศปภ.ไม่มี ก็คือ ความเก๋าทางการเมืองของเธอ

ขนาด ผอ.ศปภ.พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก หรือแม้แต่ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรียังต้องขอความคิดเห็นและคำแนะนำจากสุดารัตน์ “เจ๊แสบ กทม.ของพรรคเพื่อไทยและทักษิณ ชินวัตร”

ลูกทีมกทม.ของ “เจ๊หน่อย” พยายามพรีเซ็นต์ว่าสาเหตุที่เจ๊หน่อยเข้ามามีบทบาทในศปภ.เพราะเคยมีประสบการณ์สมัยรับมือน้ำท่วมใหญ่ กทม.เมื่อปี 2538 ที่ช่วงนั้นเป็นทั้ง ส.ส.กทม.และรัฐมนตรี และเคยเป็นรัฐมนตรีมาหลายกระทรวงจึงเอาประสบการณ์มาช่วย ศปภ.ได้

แต่จะเก่งจริงหรือสร้างภาพ มาตีกินเพื่อหวังผลการเมืองในการข่ม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร และพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ในการแก้ปัญหาน้ำท่วม เป็นเรื่องที่ต้องรอดูกันยาวๆ

แต่เมื่อทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เห็นชอบให้เจ๊หน่อยเข้ามามีบทบาทใน ศปภ.เต็มตัว เลยทำให้มีภาพข่าวออกตลอดถึงความเคลื่อนไหวของสุดารัตน์ใน ศปภ. ที่ตอนนี้เข้าร่วมประชุมนั่งติดกับยิ่งลักษณ์ในห้องประชุมใหญ่ ศปภ.ตลอด แม้แต่วันที่ประชุมร่วมกับผู้นำเหล่าทัพ

ช่วงสุดสัปดาห์ก็มีเสียงโผล่ให้สัมภาษณ์สดๆ กับรายการทีวี ช่องหนึ่งและตามด้วยให้สัมภาษณ์สื่อปกป้องยิ่งลักษณ์เต็มตัวว่าทำงานแก้ปัญหาน้ำท่วมดีแล้ว แต่ลับหลังไม่รู้จะพูดอีกอย่างหรือเปล่า?

ก่อนหน้านั้นเพียงวันเดียว เมื่อช่วงเย็น 20 ตุลาคม 2554 สุดารัตน์ทำการกดปุ่มเรียก ส.ส.กทม.-ส.ก.-ส.ข.เพื่อไทยทั้งหมดไประชุมด่วนที่ห้องประชุมใน ศปภ.ดอนเมือง โดยมีการสั่งการให้ทั้งหมดทำการกดดันให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.จากประชาธิปัตย์ ต้องเปิดประตูระบายน้ำทั้งหมดในกรุงเทพมหานคร เพื่อให้น้ำจากส่วนอื่นๆ ที่อยู่รอบกรุงเทพมหานครเช่นปทุมธานี นนทบุรี ไหลออกจากพื้นที่เพื่อลงทะเล

แม้จะทำให้กรุงเทพมหานครน้ำท่วมบ้าง แต่ก็ดีกว่าจะให้คนด่ารัฐบาลเพื่อไทย ที่แก้ปัญหาน้ำท่วมในภาพรวมทั่วประเทศไม่ได้เพราะสั่งการอะไร กทม.ไม่ได้ คนที่จะได้คะแนนในกทม.จะเป็นพรรคประชาธิปัตย์ และไม่เป็นผลดีกับพรรคเพื่อไทย

ก่อนที่สุดท้าย รัฐบาลและศปภ.ดูแล้วว่าหากไม่มีการบังคับใช้ด้วยกฎหมายก็ยากต่อการบริหารจัดการได้ จึงต้องประกาศใช้มาตรา 31 ของ พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 เพื่อรวบอำนาจจากทุกส่วนมาไว้ที่นายกรัฐมนตรีที่จะใช้อำนาจผ่าน ศปภ.นั่นเอง

อันเชื่อว่า หนึ่งในแรงหนุนให้ยิ่งลักษณ์ดึงอำนาจทั้งหมดในการแก้ปัญหาน้ำท่วมโดยเฉพาะจาก กทม. ต้องมีสุดารัตน์รวมอยู่ด้วยแน่นอน

แหม ไม่เสียแรง แม้หายหน้าหายตาการเมืองไปหลายปี แต่ “เจ๊จัดให้” บุคลิกเฉพาะตัวของ สุดารัตน์ ยังคงจัดจ้านแสบสันต์เสมอต้นเสมอปลาย

กระนั้น หากสังเกตดูให้ดี สุดารัตน์ก็ระวังตัวไม่น้อย จึงไม่พยายามเล่นบทเด่นมากเกินไปในศปภ. กลัวไปกลบภาพนายกฯยิ่งลักษณ์ ที่คนเห็นแล้วจากวิกฤตน้ำท่วมครั้งนี้ เข้าใจว่ายิ่งลักษณ์ทำอะไรไม่ได้เลย ไม่มีความเป็นผู้นำในการฝ่าวิกฤตและแก้ปัญหา ตัวของสุดารัตน์แม้จะเข้ามาช่วยที่ ศปภ.เต็มตัว แต่ก็พยายามจะไม่ไปชิงซีนยิ่งลักษณ์

เพราะขืนเจ๊หน่อยทำแบบนั้น ก็คือการฆ่าตัวตาย ทักษิณไม่ยอมแน่นอน

บทเรียนกรณี มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ที่เฉาตายในพรรคเพื่อไทยเวลานี้สอนทุกคนในเพื่อไทย ให้รู้ว่า ทำดีแต่อย่าเด่น โดยเฉพาะเด่นเหนือทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ จะไม่ได้เกิด

บทบาทของพวก 111 หลายคน ซึ่งแค่ยกมากรณี สุดารัตน์คนเดียว สิ่งที่เกิดขึ้นกับเจ๊หน่อยในใน ศปภ.จนพวกคนในศปภ.รวมถึงแวดวงการเมืองในกรุงเทพมหานครทั้งพรรคเพื่อไทย-ประชาธิปัตย์ พากันพูดตรงกันว่า

เจ๊หน่อย กำลังเตรียมคัมแบ็กการเมืองแน่นอนหลังพฤษภาคมปีหน้า เมื่อโทษแบนการเมืองคดียุบพรรคไทยรักไทย 5 ปี หมดวาระลง

ต้องดูว่าเจ๊หน่อยจะตัดสินใจอย่างไร จะขอเป็นรัฐมนตรีก่อนเลย ก็คงไม่มีปัญหา แค่กดโทรศัพท์สั่ง น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ตัว รมว.ไอซีที ก็คงต้องรีบเขียนใบลาออกทันที เพราะที่อนุดิษฐ์ได้เป็นรัฐมนตรีรอบนี้ก็โควต้าสุดารัตน์-กทม.อยู่แล้ว

หากมีการปรับ ครม.ในเดือน พ.ค.ปีหน้าหลังพวก 111 พ้นโทษแบนคดียุบพรรค สุดารัตน์ คนที่รู้จักเจ๊หน่อยดี เชื่อว่ากันว่า คงไม่หวังแค่เก้าอี้ รมว.ไอซีทีแน่นอน แต่ครั้นจะหวังถึงขั้นขอเป็น รมว.มหาดไทยหญิงคนแรกของประเทศไทย ตามคอนเสปต์ยุคนารีเป็นใหญ่ นายกฯก็ผู้หญิงแล้ว มท.1 จะเป็นผู้หญิงบ้างไม่ได้หรือไง

มองดูแล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะตัวเจ๊หน่อยเอง ก็ไม่ใช่ว่ามีบารมีมากมายในพรรคเพื่อไทย ผลเลือกตั้งที่เพื่อไทยแพ้ยับเยินในสนาม กทม.ทั้ง ส.ส.และระดับท้องถิ่น ส.ก.-ส.ข. ทำให้เจ๊หน่อยเพาเวอร์หายไปเยอะ

หากจะขอเก้าอี้ที่ดีกว่าไอซีที คงโดนหลายกลุ่มในพรรคเพื่อไทยที่ไม่ชอบหน้าเจ๊หน่อยคงขวางสุดตัว

แต่ครั้นจะเตรียมตัวลงสมัครผู้ว่าฯกทม.สังกัดพรรคเพื่อไทย หากเธอลงขอลงเอง ย่อมมีสิทธิแน่นอน พรรคเพื่อไทยและทักษิณคงดันเต็มสูบ

เสียแต่ว่าหากสุดารัตน์คิดจะเริ่มวางแผนลงผู้ว่าฯ กทม.ก็เหลือเวลาอีกนานกว่าจะมีการเลือกตั้ง อีกทั้งต้องประเมินสถานการณ์กันอีกยาว หากกระแสรัฐบาลเพื่อไทยในกทม.ยังตามหลังประชาธิปัตย์หลายช่วงตัว ยิ่งหากคน กทม.ให้คะแนนการแก้ปัญหาน้ำท่วมของสุขุมพันธ์ในระดับสอบผ่าน

ก็คงทำให้เจ๊หน่อย ขอเอาชัวร์ๆเป็นรัฐมนตรีไปก่อนร้อยเปอร์เซนต์

และก็ไม่ใช่แค่สุดารัตน์คนเดียว ที่เข้าไปแสดงบทบาทใน ศปภ.อย่างออกหน้าออกตา พวก 111 หลายคน ก็เข้าไปนั่งทำงานเสนอหน้าให้ยิ่งลักษณ์เห็นเกือบทุกวัน มีทั้งขอประชุมด้วย ขอลงออกตรวจพื้นที่น้ำท่วมด้วย

ทำเอาพวกรัฐมนตรีในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ บางคนหลุดซีนไปเลย อย่างกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีสามคนทั้ง ยงยุทธ วิชัยดิษฐ รมว.มหาดไทย-ชูชาญ หาญสวัสดิ์-ฐานิสร์ เทียนทอง ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับภารกิจช่วยเหลือประชาชนในช่วงอุทกภัย ก็ไม่มีบทบาทอะไรในช่วงนี้

ครั้นจะอ้างว่าไม่ได้อยู่ในโครงสร้าง ศปภ.ก็อ้างไม่ขึ้น เพราะวิกฤตแบบนี้ ใครก็ต้องมาช่วยรัฐบาล ขนาดพวก 111 ไม่มีตำแหน่งการเมืองอะไร ยังโผล่มาร่วมประชุมวอร์รูมศปภ.เกือบตลอด อย่างจาตุรนต์ ฉายแสง -ภูมิธรรม เวชยชัย

หรือแม้แต่พวก 109 ที่ยังเหลือโทษแบนอีกหลายปีอย่างนพดล ปัทมะ ก็ไม่ยอมตกขบวน ขอโผล่หน้าโผล่ตาไปให้ยิ่งลักษณ์เห็นที่ดอนเมือง แม้โผล่ไปแล้วจะทำอะไรไม่ค่อยได้มาก แต่ก็คงคิดว่า ดีกว่า ไม่ยอมโผล่มา อย่างน้อยให้ยิ่งลักษณ์เห็น และตัวเองได้เอาไปรายงานเอาหน้ากับนายใหญ่-ทักษิณ ชินวัตร ว่าโผล่ไปช่วยงานศปภ.แล้ว ได้ให้คำแนะนำอะไรบ้าง ก็สบายใจว่าได้ทำแต้มสะสมเอาไว้แล้ว

เพราะก็ไม่แน่ หมดวิกฤตน้ำท่วม การปรับ ครม.อาจเกิดได้ พวก 111-109 บางคนที่ตัวเองยังไม่มีโอกาสเพราะติดโทษแบน แต่ส่งคนของตัวเองไปเป็นนอมินีหรือกินโควต้าอยู่ ก็จะได้รักษาโควต้าของพวกตัวเองเอาไว้ไม่โดนปรับเปลี่ยน หรือบางคนอาจคิดไกลไปกว่านั้น คือถ้าปรับกันจริง ก็น่าจะได้โควต้าตำแหน่งที่ดีกว่าปัจจุบัน

อย่างเช่น กลุ่มตระกูล ฉายแสง ที่จาตุรนต์ก็มาโผล่ที่ศปภ.ส่วนน้องชายอย่าง วุฒิพงศ์ ส.ส.สอบตก ฉะเชิงเทราก็ยังโผล่มาให้เห็นหน้า หากปรับ ครม.กัน แล้วจะมีชื่อน้องสาว”ฐิติมา ฉายแสง”ขยับจากโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีไปเป็น รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีคุมสื่อแทน กฤษณา สีหลักษณ์ในโควต้ากลางของเพื่อไทย

จากนั้นพอถึง พ.ค.55 “ฐิติมา” ค่อยลาออกให้จาตุรนต์มาเสียบแทน ย่อมแฮปปี้กว่าแน่
กำลังโหลดความคิดเห็น