“ประยุทธ์” รับน้ำท่วมสาหัส ผวาน้ำทะลักเข้า กทม. สั่งเร่งทำพนังกั้นน้ำคลองเปรมประชากร-คลองประปา กันน้ำไหลเข้ากรุง วอนทุกคนเสียสละ ชี้หากน้ำท่วมกรุง ประเทศจบ หวั่นซ้ำรอย “นครสวรรค์” สั่งทำแนวคันกั้นน้ำที่ 2 แนะหยุดเรื่องการเมือง เน้นช่วยน้ำท่วม ด้าน ผบ.นปอ.เผย “หลักหก” จุดเสี่ยงสำคัญทำน้ำทะลักเข้า “ดอนเมือง”
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (12 ต.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น.ที่เทศบาลตำบาลหลักหก อ.เมือง จ.ปทุมธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมด้วย พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล เสนาธิการทหารบก พล.ท.อุดมเดช สีตบุตร แม่ทัพภาคที่ 1 และนายทหารระดับสูงได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจแนวพนังกั้นน้ำ และมอบสิ่งของให้แก่ผู้ประสบอุทกภัย พร้อมทั้งรับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์จาก พล.ท.ยอดยุทธ บุญญาธิการ ผู้บัญชาการหน่วยป้องกันภัยทางอากาศ (ผบ.นปอ.) และนายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี
พล.ท.ยอดยุทธกล่าวสรุปสถานการณ์ว่า พื้นที่หลักหกเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ เพราะถ้าหากน้ำผ่านจุดนี้ไปได้ น้ำจะไหลเข้าคลองเปรมประชากรเข้าสู่เขตดอนเมือง และอีกจุดหนึ่งที่จะมีปัญหาคือคลองประปา ถ้าหากน้ำทะลักเข้าไป ขณะนี้ได้มีการเสริมแนวพนังกั้นน้ำตลอดพื้นที่ 1.6 กม.เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเราจะพยายามเสริมให้ได้ถึง 1.90 เมตร เพื่อรองรับน้ำที่จะมา โดยได้รับความช่วยเหลือจากทหาร ประชาชน นักศึกษามหาวิทยาลัยรังสิต นำทรายบรรจุกระสอบทำพนังกั้นน้ำ ทั้งนี้ในส่วนของอบต.นายกเทศมนตรีได้ระดมชาวบ้านเข้ามาช่วยเหลือ ขณะนี้น้ำในคลองเปรมประชากรต่ำกว่าที่คลองรังสิตประมาณ 2.5 เมตร และถ้าหากน้ำท่วมคลองรังสิต หมายความว่ากรุงเทพฯ ชั้นในจะท่วมหมด ทั้งนี้ การทำงานร่วมกันระหว่างทหารกับประชาชนที่ผ่านมาไม่มีปัญหา ขอให้ ผบ.ทบ.สบายใจ แต่มีปัญหาเรื่องการขาดแคลนทราย แต่จากการที่ ผบ.ทบ.ช่วยประสานงานนำทรายจากพื้นที่อื่นมาทำให้พื้นที่มีกระสอบทรายเพิ่มขึ้น
ด้าน นายพีระศักดิ์กล่าวว่า การที่ ผบ.ทบ.เดินทางมา ชาวปทุมธานีรู้สึกเหมือนเรามีเทวดาผู้มีฤทธิ์มาโปรดเรา พื้นที่หลักหกเป็นจุดที่แข็งที่สุด หากจุดนี้เอาไม่อยู่ จังหวัดปทุมธานีทั้งหมดก็เอาไม่อยู่ สำหรับสถานการณ์ในภาพรวมจังหวัดปทุมธานีได้ต่อสู้กันมาตั้งแต่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมา และชนะมาโดยตลอดด้วยการสร้างคันกั้นน้ำสองฝั่งตลอดแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งแนวคันกั้นน้ำมีความแข็งแรงพอสมควร แต่มีบางจุดที่เสียหายจากแรงน้ำ ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 1 วางแนวทางแก้ปัญหา คือ เราต้องสละพื้นที่บางส่วน คือ ต.ตะแคง ต.สามโคก แล้วทำแนวคันกั้นน้ำ โดยใช้แนวถนนสายสามโคกปทุมธานี รวม 6 กม. และใช้ถนนสายปทุมธานี-รังสิต ระยะทาง 1 กม. ทั้งนี้เรามีคลองอยู่ 3 คลอง โดยแม่ทัพภาคที่ 1 จะปิด 1 คลอง ส่วนอีก 2 คลองให้ส่วนราชการดำเนินการ โดยจะทำให้แล้วเสร็จวันนี้ หากทำได้ตามแผนน้ำจะมาไม่ถึงเมือง ซึ่งระดับน้ำในขณะนี้แค่ปริ่มตัวเมือง
“แต่ปัญหาที่ไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะประชาชนส่วนหนึ่งประท้วงไม่ยอมให้ทำ โดยมีการเมืองท้องถิ่นเข้ามาเกี่ยวข้อง ยุแยงประชาชนของผู้สมัครฝั่งตรงข้ามที่มีความเห็นไม่ตรงกัน เห็นด้วยกับ ผบ.ทบ.ที่ไม่ควรให้การเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องน้ำท่วม ทั้งนี้ เราสามารถรักษาพื้นที่จังหวัดปทุมธานี และประชาชนไม่ให้เดือดร้อนได้ 90% โดยมีพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมตามแนวคลองแม่น้ำเจ้าพระยาประมาณ 1.7 หมื่นครอบครัว คิดเป็นคนจำนวน 4 หมื่นคน สำหรับพื้นที่นอกคันกั้นน้ำที่เดือดร้อน คือ คลอง 13 เป็นพื้นที่ไร่นาชุมชน ประชาชนเดือดร้อนประมาณ 1 หมื่นครอบครัว รวม 3 หมื่นคน ถ้าวันนี้ไม่สามารถหยุดการไหลของน้ำตรงนี้ได้ ทุกพื้นที่จะท่วมหมดตั้งแต่ชุมชนบางพู วัดบางพะแยง ชุมชนชวนชม แล้วจะลงไปถึงปากเกร็ด และบางบัวทอง อยากขอไปยัง ผบ.ทบ.ว่า หากเป็นไปได้อยากให้ทหารเข้ามาอำนวยการในการป้องกัน อ.เมือง จ.ปทุมธานี โดยผมขอเป็นผู้ช่วย เพราะศักยภาพผมในวันนี้โดนกระแสทางการเมืองต่อต้าน ทำให้ความมั่นใจของผมลดลง 50%” ผู้ว่าฯ ปทุมธานี กล่าว
นายพีระศักดิ์กล่าวอีกว่า สถานการณ์วันนี้ไม่ต้องการความยืดเยื้อ ต้องการความเด็ดขาด คือ ถ้าภายใน 6 ชั่วโมง ทำแนวคันกั้นถนนในจุดที่ประชาชนต่อต้านได้ก็จะทำให้น้ำหยุดไหล บ้านเมืองอยู่รอด ซึ่งจะเข้าไปเจรจากับประชาชนอีกรอบหนึ่ง จะให้กราบเท้าวิงวอนอย่างไรก็ยอม อีกปัญหาหนึ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ คือ กระสอบทรายที่ขณะนี้มีอยู่ไม่ถึง 5 หมื่นกระสอบ ซึ่งเรารอไม่ได้ วันนี้ต้องรวบรวมกระสอบทรายให้ได้ 1.5 แสนกระสอบ และวางเป็นแนวคันกั้นน้ำทันที ซึ่งเตรียมคนไว้ 300 คน แต่ตอนนี้ขาดทรายที่ใช้บรรจุกระสอบ จึงอยากให้ผบ.ทบ.รับจังหวัดปทุมธานีไว้ในอุปถัมภ์ด้วย และทำอย่างไรก็ได้ที่ให้มีการสร้างแนวคันกั้นน้ำด้วยกระสอบทราย 1.5 ใบให้เสร็จภายในเที่ยงวันนี้ หากทำได้ ปทุมธานีส่วนใหญ่จะอยู่รอด ความหวังของชาวปทุมธานีอยู่ที่ ผบ.ทบ. วันนี้ผมใกล้จะหมดหวังแล้ว แต่ผบ.ทบ.ลงมาและเติมความหวังให้ เชื่อว่า ปทุมธานีจะอยู่รอดด้วยการดำเนินการและบารมีของผบ.ทบ. ความหวังชาวปทุมธานีอยู่ที่ ผบ.ทบ. และทหาร ถือว่า เราโชคดีที่ พล.อ.ประยุทธ์มาได้ทันเวลา วันนี้ผู้ว่าฯ ปทุมธานียกเมืองนี้ให้ ผบ.ทบ.ดูแล
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตนทราบว่าปัญหาขณะนี้หนักหนาสาหัส ความต้องการที่ผู้ว่าฯ ต้องการให้สร้างคันกั้นน้ำคลองเปรมประชากร กับคลองประปา ซึ่งปัญหาในเรื่องนี้จะเกิดเหมือน จ.นครสวรรค์ เมื่อเราสร้างแนวคันกั้นน้ำแล้ว น้ำจะไหลมาพังแนวคันกั้นน้ำแล้วไหลเข้าตัวเมือง ดังนั้นเราต้องทำแนวคันกั้นน้ำที่ 2 เอาไว้ โดยอาจจะใช้แนวถนน โดยแบ่งครึ่งถนน แล้วสร้างคันกั้นน้ำเป็นแนวที่สอง เพื่อไม่ให้น้ำไหลเข้าตัวเมืองปทุมธานี ทั้งนี้หากแนวกั้นที่ 1 มีน้ำท่วมต้องอพยพคนไปอยู่หลังแนวกั้นที่ 2 ซึ่งคันกั้นน้ำต้องแข็งแรงและกั้นน้ำได้จริง ส่วนพื้นที่ที่มีน้ำท่วมที่ยาวประมาณ 6 กม. ตนจะสั่งการให้หน่วยทหารช่างนำทหารเข้ามา พร้อมทั้งเครื่องมือมาช่วยพื้นที่ตรงนี้ สำหรับเรื่องกระสอบทราบจำนวน 1.5 แสนกระวสอบนั้น จะให้ทหารช่วยกันกรอกภายในหน่วยทหาร แต่เนื่องจากความต้องการมีมาก กำลังพลมีไม่พอ จึงอยกาให้ผู้ว่าฯระดมประชาชนไปช่วยกันกรอก และจะขนย้ายมาสร้างแนวคันกั้นน้ำให้เร็วที่สุด
“ส่วนในพื้นที่ ต.สามโคกที่ประชาชนไม่ยอมให้สร้างแนวคันกั้นน้ำ ขอร้องให้เสียสละ อย่าตีกัน เพราะไม่เกิดประโยชน์ เพราะอย่างไรมันท่วมอยู่แล้ว แต่จะกันให้ท่วมอย่างไร แค่ไหน ซึ่งคงต้องไปทำความเข้าใจกันต่อ เราต้องไปพูดกับเขาว่า ต้องเสียสละ และช่วยกันไม่ให้น้ำเข้ากรุงเทพฯ เขาจะได้บุญกุศล เพื่อจะได้พื้นที่เอาไว้ความช่วยเหลือและเป็นที่พักของผู้ประสบภัย แต่ถ้าท่วมกันหมดก็คงได้แต่นั่งมองหน้ากัน และคนเดือดร้อนในกรุงเทพเป็น 10 ล้านคน ถ้าน้ำท่วมกรุงเทพ ประเทศไทยก็หมดกัน แต่ความจำเป็นที่ต้องป้องกันกรุงเทพไว้ เพราะเป็นพื้นที่ที่เป็นศูนย์รวมของราชการ เศรษฐกิจ หากท่วมประเทศไทยหมดกัน อยากให้เสียสละบ้างเล็กน้อย เดี๋ยวรัฐบาลจะเข้ามาดูแลภายหลัง เราต้องชี้แจงถึงความสำคัญตรงนี้ให้เขารับทราบ ไม่ใช่ว่า บ้านเขาไม่สำคัญ แต่สิ่งไหนสำคัญกว่า ต้องดูที่ตรงนั้น ซึ่งจะส่งทหารไปพูดคุย แต่ห้ามทะเลาะกับชาวบ้าน พูดกับเขาดีๆ ในส่วน จ.ปทุมธานี จะมีกำลังพลจากนปอ.รับผิดชอบหลัก แต่จะโยกกำลังพลบางส่วนไปดูแล จ.นนทบุรี และกรุงเทพด้วย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย สั่งการให้ทหารมาดูแล จ.ปทุมธานี เราพยายามแก้ปัญหาให้มากที่สุด แต่เราต้องกันพื้นที่ เช่น โรงพยาบาล สถานที่ราชการที่จะสามารถป้องกันได้ วันนี้มีปัญหาอยู่ 2 อย่าง คือ การทำพนังกั้นน้ำ คลองเปรมประชากร กับคลองผดุงศักดิ์ ที่ต้องทำให้ได้ เพื่อไม่ให้น้ำในคลองรังสิตล้ำเข้าไปในกรุงเทพฯ ประเด็นที่ 2 คือแนวคันดิน 6 กม.เพื่อป้องกัน อ.สามโคก โดยจะเอาเครื่องมือกรมการทหารช่างเข้ามาโดยด่วนที่สุด รวมถึงการสร้างแนวคันกั้นน้ำให้เสร็จภายในไม่เกินบ่ายโมงวันนี้ไม่เช่นนั้นน้ำจะท่วมกรุงเทพฯ ซึ่งมีปัญหาความเข้าใจของประชาชนในพื้นที่ว่า การเมืองไม่ใช่ปัญหาหลัก แต่อยู่ที่ความเดือดร้อนของประชาชน อยากขอร้องว่า อย่าให้ปัญหาการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาของหน่วยราชการ ซึ่งรัฐบาลสั่งการมาอย่างชัดเจนให้ช่วยดูแลประชาชนทั่วถึง ทั้งนี้จะมีการจัดคนไปเฝ้าแนวคันกั้นน้ำที่อาจพังลงมาตามความแรงของน้ำ