“พิชาย” ฝากถึง “ยิ่งลักษณ์” น่าจะตระหนักศักยภาพตัวเองได้แล้ว ยอมรับความจริงและถอนตัว ก่อนประเทศจะเสียหายมากไปกว่านี้ เชื่อ “แม้ว” เคลื่อนไหวเพราะหวั่นประชาชนหนุนทหาร หลังรัฐบาลแก้ปัญหาน้ำท่วมล้มเหลว ด้าน “ประพันธ์” ย้ำคนไทยต้องการความเปลี่ยนแปลง หากตอนนี้มีใครที่กล้าหาญพอ หาทางออกให้ประเทศได้ กล้ารับผิดชอบ ประชาชนจะเดินตาม
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ “คนเคาะข่าว”
วันที่ 18 ต.ค. เมื่อเวลา 20.30 น. นายประพันธ์ คูณมี อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และ ผศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองคณบดีคณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ได้ร่วมรายการ “คนเคาะข่าว”
โดย ผศ.ดร.พิชาย กล่าวว่า กรณี พ.ต.ท.ทักษิณ กลุ่มเสื้อแดง และคณะนิติราษฎร์ ออกมาเคลื่อนไหว ทั้งๆที่กำลังเกิดวิกฤตการณ์น้ำท่วม เนื่องจากพวกนี้ยังคงมีเป้าหมายเดิม คือการกลับเข้ามามีอำนาจเหมือนเดิม ตอนนี้เลยเกิดอาการหวาดวิตกอยู่พอสมควร เนื่องจากคะแนนนิยมของรัฐบาลค่อนข้างตกต่ำมากพอสมควร จากการที่ไม่สามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมได้ และตอนนี้ภาพของทหารที่ลงไปช่วยประชาชน เป็นภาพลักษณ์ที่ดี เพราะฉะนั้นเมื่อภาพทหารดี แต่ภาพรัฐบาลลบ คนก็เห็นแล้วว่าประชาธิปไตยที่มาจากการเลือกตั้งแบบนี้ มันไม่สามารถแก้วิกฤตของประเทศชาติได้ ก็กลัวว่าคนจะหันไปสนับสนุนทหาร ในขณะเดียวกันก็มีกระแสปฏิวัติอยู่ก่อนหน้านี้ ก็เลยออกมาตีปลาหน้าไซว่าต่างชาติไม่ยอมรับการรัฐประหาร นั่นเป็นภาพที่พ.ต.ท.ทักษิณคิดขึ้นมา
ส่วนบรรดาเสื้อแดง น้ำท่วมครั้งนี้แทบไม่มีบทบาทเลยในการลงไปช่วยน้ำท่วม ก็มีแต่คนวิพากษ์วิจารณ์ว่าน้ำท่วมจังหวัดคนเสื้อแดง แต่เสื้อแดงไม่เห็นช่วยอะไรเลย แล้วแถมไปเปิดหมู่บ้านเสื้อแดงอีก อันนี้แสดงให้เห็นว่าจริงๆ แล้วเสื้อแดงเวลาที่พี่น้องตัวเองเดือดร้อน ก็มีปัญหาถ้าหากว่าบรรดาผู้นำซึ่งเป็นนักการเมืองไม่ลงไประดม หรือจัดตั้งช่วยเหลือ ก็ไม่สามารถจัดการได้ด้วยตัวเองชัดเจนนัก
ผศ.ดร.พิชายกล่าวต่อว่า ส่วนคณะนิติราษฎร์ ก็เป็นความฝันเฟื่องของนักวิชาการที่มีวิธีคิดแบบเดิมๆ เมื่อปี 2526 สมัยนั้นนักวิชาการก็พูดว่าจะเอาปืนหรือเอาทุน 20 กว่าปีผ่านไป ก็ยังพูดเหมือนเดิม โดยที่เขาเลือกทุนและผลักคนอื่นว่าเลือกรัฐประหาร
แต่เขาลืมไปว่าตอนนี้ แม้กระทั่งอเมริกาก็ดี อังกฤษก็ดี มันเกิดวิกฤติการณ์ของระบอบประชาธิปไตยแบบตัวแทน แบบทุนนิยมสามานย์ ขึ้นมาทุกประเทศ ไม่เอาประชาธิปไตยแบบนั้นแล้ว ที่นายทุนมาครอบงำ สร้างความเหลื่อมล้ำ
เพราะฉะนั้น วิธีคิดแบบขาวดำ แบบเป็นขั้ว ว่าไม่เอาทุนก็เป็นรัฐประหาร เป็นวิธีคิดแบบเก่า ประชาธิปไตยแบบที่นิติราษฎร์ต้องการมันก็มีปัญหาหมด มันไม่ใช่คำตอบ ว่าจะเอาประชาธิปไตยจากการเลือกตั้ง จากการซื้อเสียง แต่เราต้องการประชาธิปไตยในแบบที่เหมาะสมกับสังคมไทย จะได้ไม่ซ้ำรอยประเทศเหล่านั้น
นายประพันธ์กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ และรัฐบาลยิ่งลักษณ์กำลังหลงทางในการแก้ปัญหาบ้านเมือง หลงทางในการรักษาอำนาจตัวเอง ถ้าเขาจะรักษาอำนาจตัวเอง ไม่ต้องโวยวายว่าทหารจะมายึดอำนาจล้มรัฐบาล ไม่มีประโยชน์ เพราะสิ่งที่จะปกป้องรัฐบาลได้ดีที่สุด อยู่ที่ประสิทธิภาพการทำงานของรัฐบาล ผลงานต่างหากที่จะเป็นเกราะคุ้มกันตัวรัฐบาล ไม่ใช่ร้องโหวกเหวกโวยวาย ทำงานไร้ประสิทธิภาพ ไม่ต้องมีใครมา ประชาชนก็หันหลังให้รัฐบาลชุดนี้ เรียกได้ว่าการชนะเลือกตั้งของรัฐบาลชุดนี้เป็นทุกข์ลาภ ดีใจที่ได้อำนาจมา แต่พอเจอปัญหากลับทำงานไม่เป็นเลย ศปภ. (ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย) ไม่มีใครดูทำงานเป็นสักคนเดียว ประสิทธิภาพในการทำงานต่ำมาก ตัวนายกฯไม่ต้องพูดถึง ทุกวันนี้ตนยังไม่รู้สึกว่าเป็นนายกฯเลย รู้สึกว่าเป็นเด็กละอ่อนทางการเมืองคนหนึ่ง ปรเทศเลยเกิดสภาพไร้ผู้นำ
ครม.ที่ตั้งอยู่ก็ไม่สามารถเป็นรัฐบาลได้ หลังน้ำท่วมปัญหายิ่งหนัก การที่จะมีผู้นำที่กล้า เข้มแข็ง เป็นคนดี เป็นสิ่งที่ประชาชนโหยหา ยิ่งมีการเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ไร้กาลเทศะยิ่งเป็นตัวเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ยิ่งเสื้อแดงออกมา คณะนิติราษฎร์ออกมา ยิ่งทำให้คนอยากกวาดพวกนี้ลงไปพร้อมกับน้ำ
“เชื่อว่าเวลานี้ถ้ามีใครกล้าหาญพอ และหาทางออกให้ประเทศ มีความเป็นผู้นำ และกล้ารับผิดชอบ ประชาชนจะเดินตาม” นายประพันธ์กล่าว
ผศ.ดร.พิชายกล่าวเสริมว่า ฝากถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถึงเวลานี้น่าจะตระหนักศักยภาพตัวเอง ยอมรับความจริงว่าถ้าขืนบริหารประเทศต่อไปจะสร้างความเสียหายให้ประเทศอีกมหาศาล อาจได้รับการจารึกในประวัติศาสตร์ว่าเป็นนายกฯหญิงคนแรกของประเทศไทยแต่ประสบความล้มเหลวมากสุดในประเทศไทย ตอนนี้ยังมีเวลา ถอนตัวซะ
