“เทพไท” ฉะ “ยิ่งลักษณ์” เลิกทำตัวเป็นอีแอบทางการเมือง ออกมาเผชิญความจริงในการสนับสนุนแก้ พ.ร.บ.กลาโหม เปิดทางการเมืองล้วงลูกโยกย้ายทหารได้ ชี้เป็นเรื่องความแค้นส่วนตัวของ “แม้ว” กับกองทัพ ซัดตั้งธงแก้ ซ้ำเติมทุกข์คนไทย
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย ยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการเคลื่อนไหวในการแก้ไข พ.ร.บ.จัดระเบียบข้าราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ. 2551 ของพรรคเพื่อไทยว่า เป็นเรื่องการเล่นละครตีสองหน้าของคนในพรรคเพื่อไทยอย่างชัดเจน เพราะมีหลายเรื่องที่ส.ส.พรรคเพื่อไทยเคลื่อนไหวในประเด็นต่างๆ แต่รัฐบาลกลับออกมาปฏิเสธว่าไม่ใช่นโยบายรัฐบาล นับตั้งแต่การเคลื่อนไหวเรื่องนิรโทษกรรมให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จึงถึงเรื่องการเคลื่อนไหวแก้ไข พ.ร.บ.จัดระเบียบข้าราชการกระทรวงกลาโหม ครั้งนี้ จึงไม่อยากให้ผู้นำรัฐบาลนำตัวเป็นอีแอบทางการเมือง ควรกล้าที่จะออกมาเผชิญกับความจริง เพื่อให้สังคมได้รับรู้ว่าทั้งรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยมีจุดยืนทางการเมืองเดียวกันหรือไม่ เพราะขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศยืนยันอย่างชัดเจนว่าเป็นแผนการที่ต้องการให้รัฐบาลแก้ พ.ร.บ.ดังกล่าวเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ทหารปฏิวัติอีก ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องของความแค้นส่วนตัว ที่พ.ต.ท.ทักษิณมีต่อกองทัพ
“การมี พ.ร.บ.จัดระเบียบข้าราชการกระทรวงกลาโหม ก็เพราะไม่ต้องการให้ฝ่ายการเมืองเข้าไปยุ่งหรือแทรกแซงกองทัพ ถ้าการแก้กฎหมายดังกล่าวตามแนวทางของพรรคเพื่อไทยก็ยิ่งเป็นการสุ่มเสี่ยงให้เกิดการปฏิวัติมากกว่าป้องกันการปฏิวัติ ตามที่ พ.ต.ท.ทักษิณประกาศ แต่สาเหตุที่แท้จริงของการพยายามแก้กฎหมายครั้งนี้ก็เพราะพ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการที่จะเข้าไปยึดกุมกองทัพให้เบร็ดเสร็จ หลังจากได้สร้างฐานมวลชนคนเสื้อแดงให้เป็นฐานเสียงทางการเมืองได้สำเร็จแล้ว”
นายเทพไทกล่าวว่า ความเคลื่อนไหวของนายวัฒนา เซ่งไพเราะ โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ออกมาแถลงข่าวพลาดพิงถึงบุคคลต่างๆ และแสงความคิดเห็นเรื่องการแก้กฎหมาย พ.ร.บ.จัดระเบียบข้าราชการกระทรวงกลาโหม ว่า เป็นการแสดงความเห็นส่วนตัว หรือพูดในนามประธานสภาฯ เพราะตัวประธานสภาฯ จะต้องมีความเป็นกลางทางการเมือง ไม่ควรที่จะแสดงความเห็นเอนเอียงเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือตำนิความเห็นของบุคคลอื่นที่เป็นสมาชิกของรัฐสภา คนเป็นประธานสภาฯ ควรให้ความเคารพความคิดเห็นของสมาชิกทุกคน การปล่อยให้โฆษกของตัวเอง ออกมาพูดจาระรานสมาชิกคนอื่นที่มีความคิดเห็นเป็นขอตัวเอง ประกาศจุดยืนสนับสนุนกฎหมายบางฉบับ และยังพาดพิงมายังพรรคประชาธิปัตย์ให้ทบทวนบทบาทว่ายังเชื่อมั่นในรระบอบรัฐสภาหรือไม่ ทั้งๆ ที่พรรคประชาธิปัตย์ได้เชื่อมั่นในระบอบรัฐสภามาโดยตลอด มีแต่พรรคเพื่อไทยเท่านั้นที่ปล่อยให้ส.ส.ของพรรคไปเคลื่อนไหวข้างถนนเป็นแกนนำบุกระดมมวลชนให้เผาบ้านเผาเมือง ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่ไม่เชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตย
นายเจะอามิง โตะตาหยง ส.ส.นราธิวาส ในฐานะ รมช.มหาดไทยเงา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศ ยืนยันรัฐบาลชุดนี้แก้ไข พ.ร.บ.กลาโหม อย่างแน่นอนว่า พ.ต.ท.ทักษิณต้องยุติบทบาทแล้วหันมาดูแลความเดือดร้อนของประชาชนที่ประสบปัญหาอุทกภัย ไม่ทราบว่าการที่ออกมาแสดงความเห็นดังกล่าวเป็นการชี้ให้เห็นว่าไม่สนใจความเดือดร้อนของประชาชนหรือไม่ แต่กลับมาแก้ พ.ร.บ.กลาโหมเพื่อตัวเอง จึงเห็นว่าอย่าเอาเรื่องมาซ้ำเติมประชาชน ขณะนี้บ้านเมืองต้องการความสามัคคี พ.ต.ท.ทักษิณเคยให้แนวทางแก้ปัญหาหรือไม่ ทั้งเรื่องการบริจาค ซึ่งเท่าที่ทราบมาบริจาคไปแล้วแค่ 1 ล้านบาทเท่านั้น
ทั้งนี้ จากการติดตามข่าวพบว่านักการเมืองหรือหน่วยงาน นักวิชาการจำนวนมากต่างไม่รู้สึกว่า พ.ร.บ.กลาโหมฉบับนี้เป็นปัญหา มีเพียงนักการเมืองกลุ่ม พ.ต.ท.ทักษิณ เท่านั้นที่เห็นว่า กฎหมายฉบับนี้มีปัญหา และ พ.ต.ท.ทักษิณต้องย้อนกลับไปพิจารณาว่าก่อนการรัฐประหาร กันยายน 2549 มีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นบ้าง ในส่วนนักการเมืองไม่มีใครอยากเห็นการรัฐประหารอยู่แล้ว