รอง ปธ.สภาฯแนะ กมธ.ตีปี๊บผลงาน เตรียมเทงบปรับระบบพีอาร์

“เจริญ จรรย์โกมล” แนะกรรมาธิการตีปี๊ปผลงาน เข้ม รปภ.เข้า-ออกสภาฯ ห้ามพกอาวุธเด็ดขาด พร้อมเทงบปรับปรุงระบบพีอาร์เต็มสูบ หลังสื่อของสภาฯ ทำงานไม่เข้าเป้า

ที่ รร.แกรนด์แปซิฟิก ซอฟเฟอริน รีสอร์ท แอนด์ สปา ชะอำ จ.เพชรบุรี วันนี้ (24 ก.ย.) สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จัดเสวนาสื่อมวลชนเป็นวันที่ 2 โดยมีนายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ได้เสวนาเรื่อง “สภาชุดใหม่กับการทำงานเพื่อประชาชน” ตอนหนึ่งว่า สำหรับการทำงานของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สามัญประจำสภาผู้แทนราษฎร ทั้ง 35 คณะนั้น ตนมีความคิดที่จะพยายามให้สื่อมวลชนได้เข้าไปติดตามการทำงานในเกือบทุกคณะ เพราะถ้ารอให้แต่โฆษกกมธ.แต่ละคณะมาแถลงมักไม่ค่อยเป็นข่าวเท่าที่ควร ดังนั้นตนจะเปิดกว้างให้สื่อมวลชนเข้าไปทำหน้าที่ในการประชุม กมธ.เพราะการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนจะทำให้ประชาชนสามารถเห็นข้อเท็จจริงทั้ง2ฝ่าย แต่ก็อาจจะยกเว้น ใน กมธ.บางชุด เช่น กมธ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ป.ป.ช.) ที่ต้องมีการสืบสวน สอบสวน รวมถึงมีเอกสารสำคัญที่ไม่อาจเผยแพร่ทางสื่อมวลชนได้ เป็นต้น

นอกจากนี้ ต้องยอมรับว่าสภาผู้แทนราษฎรนั้นมีเงินแต่ปัญหาคือการสื่อสารในการเผยแพร่งานของสภาผู้แทนราษฎรออกไปค่อนข้างน้อยทั้งๆ ที่มีสภาผู้แทนราษฎรมีสื่อเป็นของตัวเอง ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้แต่งตั้งนายวัฒนา เซ่งไพเราะ เป็นโฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยประธานสภาผู้แทนราษฎรและตนเห็นตรงกันวารัฐบาลมีสำนักงานโฆษกรัฐบาล ดังนั้นสภาผู้แทนราษฎรก็ควรมีสำนักงานโฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อทำหน้าที่เผยแพร่งานของสภาผู้แทนราษฎรออกไปให้กับประชาชน รวมถึงรับทราบช่วงระยะเวลาการพิจารณากฎหมายฉบับต่างๆมีผลกระทบอย่างไรบ้าง เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบและเข้ามามีส่วนร่วม เพราะปัจจุบันจะพบว่าประชาชน 40 ล้านคน ไม่รู้ว่าตัวเองถูกควบคุม สิทธิ เสรีภาพ ด้วยกฎหมายอะไรบ้าง ดังนั้นก็จะหารือกับโฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่าจะทำอย่างไรให้สื่อของสภาผู้แทนราษฎรประสบผลสำเร็จเหมือนกับสื่อเอกชน

นายเจริญกล่าวถึงการรักษาความปลอดภัยในรัฐสภาว่า ช่วงนี้เป็นช่วงเปลี่ยนถ่ายผู้บริหารใหม่ จึงต้องมีการจัดระเบียบในเรื่องความปลอดภัย ต้องมีความเด็ดขาด โดยเฉพาะการพกอาวุธเข้ามาในสภาผู้แทนราษฎรจะนำเข้ามาไม่ได้ ทำให้ช่วงนี้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสภาฯจึงต้องมีความเข้มงวดบ้าง เพราะมีหลายคนมาร้องเรียนถึงเรื่องการพกอาวุธปืน ตนจึงอนุมัติงบประมาณในการจัดซื้อเครื่องมือในการตรวจสอบอาวุธ เพราะว่าสภาฯไม่ใช่สถานที่ที่ใครอยากมาทำอะไรก็ได้ จึงขอความร่วมมือสักระยะหนึ่ง ส่วนในเรื่องของสื่อมวลชน ขณะนี้กำลังพิจารณาในเรื่องการจักระเบียบสื่อใหม่ โดยจะมีการออกแบบบัตรสื่อมวลชนในการเข้าพื้นที่ต่างๆ เช่น พื้นที่หวงห้ามภายในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเป็นการป้องกันผู้ที่แอบอ้างว่าเป็นนักข่าวหรือเป็นนักข่าวผี เพราะต้องยอมรับว่าในรัฐสภามีทั้งสื่อจริงและสื่อไม่จริง ดังนั้นจะต้องสกัดคนเหล่านี้ออกไป