โฆษก พท.ฉุน ปชป.ใส่ร้ายใช้ช่อง 11 จัดเรียลิตีโชว์แก้น้ำท่วม ท้า ปชป.หากจริงใจแก้ปัญหาร่วมกิจกรรมด้วยกัน ไม่บ้าจี้รับข้อเสนอประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จับมือ กท.พาณิชย์ เอาผิดพ่อค้ากักตุนสินค้า ปัด กก.บห.ไม่มีเอี่ยวกดดันให้ รมต.ลาออกจาก ส.ส.
วันนี้ (16 ต.ค.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีที่ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมาให้ข่าวว่า รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยใช้ช่อง 11 ทำเรียลิตีโชว์ มุ่งหาเสียงให้กับรัฐบาล และพรรคเพื่อไทย ว่า เป็นการให้ข่าวใส่ร้ายป้ายสี พรรคเพื่อไทย และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทั้งที่รัฐบาลต้องการความร่วมมือกับพรรคการเมืองทุกพรรค วันนี้ฝ่ายค้านก็สามารถใช้สิทธิตรงนี้ไปชี้แจงกับประชาชน รวมถึงร่วมทำกิจกรรมช่วยประชาชน แต่ปรากฏว่า วันนี้ ตนแถลงข่าวเชิญชวนให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ ครม.เงาของพรรคประชาธิปัตย์ ไปร่วมกิจกรรม แต่ไม่มีใครไป แต่กลับให้โฆษกพรรคประชาธิปัตย์มากระแหนะกระแหนรัฐบาล นี่คือ ลักษณะที่ประเภทมือไม่พายเอาเท้าราน้ำตลอดเวลา ซึ่งเป็นลักษณะดีแต่พูดแล้ว ดีแต่ค้านอีก วันนี้ควรทำอะไรอย่างสร้างสรรค์มากกว่า
“อยากฝากขอให้นายอภิสิทธิ์ และ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ไปร่วมช่วยประชาชน อย่าดีแต่ค้านออกมากล่าวหาพรรคเพื่อไทย และรัฐบาลตลอดเวลา เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง และถ้าหากพรรคประชาธิปัตย์มีข้อเสนอดีๆ รัฐบาลก็รับฟัง แต่การที่พรรคประชาธิปัตย์เสนอตัวเลขความเสียหายด้านเศรษฐกิจ ที่ทำให้ประชาชนตกใจ น่าจะเป็นเกมการเมือง ไม่ใช่เสนอโดยหลักวิชาการ และเสนออย่างสร้างสรรค์ เพราะปัจจุบันนี้รัฐบาลเองก็มีคณะทำงานที่ดูตัวเลขและรัฐมนตรีที่มีความเชี่ยวชาญที่คอยประเมินความเสียหายด้านหลักวิชาการที่ถูกต้องอยู่แล้ว รวมถึงนายกรัฐมนตรีก็ใช้ความสามารถในการบริหารตัดงบประมาณกระทรวงละ 10 เปอร์เซ็นต์เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมอยู่แล้ว” นายพร้อมพงศ์ กล่าว
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า และล่าสุด ไปกันใหญ่ คือ เสนอให้นายกรัฐมนตรี ออก พ.ร.ก.ฉุกเฉินเรื่องนี้แก้ปัญหาน้ำท่วม ความจริงแล้วการจะประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ใช้เฉพาะเกี่ยวกับคน อีกทั้งวันนี้รัฐบาลเองได้รับความร่วมมือจากทหาร จากกองทัพ ตำรวจ พลเรือน และประชาชนทุกหมู่เหล่า เขาร่วมมือร่วมใจที่จะแก้ปัญหาวิกฤตน้ำท่วม มีแต่พรรคประชาธิปัตย์เท่านั้น ที่น่าจะยังเสพติดอำนาจกับ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งวันนี้ในฐานะเป็นตัวแทนของประชาชน พรรคเพื่อไทย และสมาชิกพรรคนับพันคนได้ลงพื้นที่ ก็เห็นว่า ทุกภาคส่วนของทางราชการ และภาคเอกชน สื่อมวลชน ศิลปินดารานักร้อง ค่ายเพลงต่างๆ เขาร่วมมือกันหมด ยังขาดแต่สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ที่ยังไม่มีส่วนร่วม ตนยืนยันว่า รัฐบาลนี้ไม่เลือกปฏิบัติแน่นอน และยินดีให้ฝ่ายค้านออกทีวีร่วมช่วยเหลือกัน และขอให้นายอภิสิทธิตบปากโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ด้วย ซึ่งถ้าจริงใจขอให้ไปที่ ศปภ.ครั้งก่อน นายอภิสิทธิ์ ไป ศปภ.นายกรัฐมนตรี เองก็ไปรับด้วยตัวเอง วันนี้จึงอยากให้พรรคประชาธิปัตย์ ทำการเมืองอย่างสร้างสรรค์
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีการที่พ่อค้ากักตุนสินค้าและขึ้นราคาสินค้าช่วงน้ำท่วม ว่า ขณะนี้มีการร้องเรียนจากประชาชน ว่า มีพ่อค้าพยายามกักตุนสินค้า ซึ่งทางพรรคได้ส่งเจ้าหน้าที่หาข้อมูลแล้วขณะนี้ รวมถึงตนได้ประสานกับทาง นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อขอให้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ตรวจสอบว่าได้เป็นไปอย่างที่ประชาชนร้องเรียนมาหรือไม่ และอยากเรียกร้องอย่ากักตุนสินค้า เพราะประชาชนกำลังเดือดร้อน และขอให้ประชาชนส่งหลักฐานมายังพรรค เพราะจะได้เอาผิดกับพ่อค้าที่เอาเปรียบประชาชน ดังนั้น จึงฝากไปยังพ่อค้าที่เอาเปรียบประชาชนยามเกิดวิกฤตน้ำท่วม ขอให้หยุดพฤติกรรมดังกล่าวมิเช่นนั้นจะต้องถูกลงโทษตามกฎหมาย
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่ารัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ถูกกดดันจากผู้บริหารพรรคเพื่อไทยให้ลาออกจากการเป็น ส.ส.เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ ได้ขยับเลื่อนขึ้นมารับตำแหน่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อแทน ว่า เรื่องนี้ขอปฏิเสธไม่เป็นความจริง จากการตรวจสอบเป็นเรื่องนี้เป็นสปิริตของตัวบุคคลและหลายคนก็เปิดโอกาสให้สมาชิกเข้ามาทำหน้าที่เนื่องจากเกรงว่าจะทำหน้าที่ไม่เต็มที่ ซึ่งเรื่องนี้น่าชื่นชม และไม่มีการกดดันจากกรรมการบริหารพรรคแต่อย่างใด
ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึง พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ที่สมาชิกพรรคเพื่อไทย และนายทหารบางท่านรวมทั้งนักวิชาการต้องการให้แก้ไขเพราะมองว่าไม่มีการถ่วงดุลอำนาจเป็นการออกกฎหมายในขณะที่มีการรัฐประหาร น่าจะเอื้อประโยชน์ให้กับ คมช.ทำให้กองทัพนำการเมืองมากกว่าจะเป็นการที่การเมืองนำกองทัพนั้น ว่า เป็นการใช้สิทธิ์ในการให้ความเห็นของสมาชิกแต่ละคน เรื่องนี้ยังไม่มีการประชุมพรรค เพราะในวันอังคารที่ 18 ต.ค.ทางกรรมการบริหารพรรคได้หารือกันว่าพี่น้องประชาชนยังประสบภัยน้ำท่วม ได้ขอร้องให้ ส.ส.และสมาชิกพรรคลงพื้นที่ช่วยไปประสานงานกับรัฐบาลที่ ศปภ.อยู่ จึงงดการประชุม รวมถึงทางสภาผู้แทนราษฎรก็สั่งงดการประชุมสภาอีกสัปดาห์ ส่วนเรื่อง พ.ร.บ.กลาโหม รอน้ำลดทางพรรคจะหารืออีกครั้งว่จะมีการแก้ไขหรือไม่ ซึ่งถ้าแก้ไขก็ไม่ใช่เพื่อฟื้นระบบทักษิณ เหมือนที่ฝ่ายค้านกล่าวหา และไม่ใช่ให้รัฐบาลไปคุมกองทัพ แต่เป็นไปเพื่อให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย การเมืองต้องนำกองทัพ เหมือนอารยะประเทศที่เป็นประชาธิปไตยทั้งหลายไม่ใช่กองทัพหรือทหารนำการเมือง เหมือนที่ผ่านมา
“ถ้าพิจารณากันแล้ว พ.ร.บ.กลาโหม ทำให้ฝ่ายการเมืองที่เป็นตัวแทนประชาชนเป็นตรายาง ไม่มีบทบาท ซึ่งต่างจากหน่วยงานอื่น ไม่ว่าจะเป็นทางตำรวจ หรือข้าราชการพลเรือน ทั้งๆ ที่กองทัพก็เป็นข้าราชการเหมือนกัน เรื่องนี้ไม่ใช่ผลประโยชน์ของพรรคเพื่อไทย แต่เป็นผลประโยชน์ของประชาชนให้มีอำนาจเข้าไปถ่วงดุล และต้องการเข้าไปขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล เพื่อสนองตอบความต้องการของประชาชน ขณะนี้ถึงจะแก้ พ.ร.บ.กลาโหม ในเรี่องการแต่งตั้งนายทหารที่บอกจะเอื้อประโยชน์นั้นก็เสร็จสิ้นไปแล้ว ถ้าจะแก้กันจริงทุกรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งที่ได้อำนาจจากประชาชนมาก็จะมีบทบาทในการถ่วงดุลอำนาจ ตนรู้สึกแปลกใจที่สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาคัดค้านเรื่องนี้อย่างหัวชนฝา ทั้งๆ ที่อ้างว่าเป็นพรรคเก่าแก่ยึดมั่นในประชาธิปไตยและหลักการ แต่กลับมาคัดค้านและไม่ยอมให้อำนาจประชาชนเข้าไปถ่วงดุล” นายพร้อมพงศ์ กล่าว
