ASTVผู้จัดการรายวัน -"เพื่อไทย"เลื่อนถกแก้พ.ร.บ.กลาโหม อ้างประชาชนกำลังเดือดร้อน รอหลังน้ำลดก่อน ย้ำรัฐบาลต้องคุมกองทัพ ไม่ใช่กองทัพคุมรัฐบาล ข้องใจปชป.ออกมาค้านหัวชนฝา
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงปัญหา พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ที่สมาชิกพรรคเพื่อไทย และนายทหารบางท่าน รวมทั้งนักวิชาการต้องการให้แก้ไข เพราะมองว่าไม่มีการถ่วงดุลอำนาจ เป็นการออกกฎหมายในขณะที่มีการรัฐประหาร น่าจะเอื้อประโยชน์ให้กับคมช. ทำให้กองทัพนำการเมืองมากกว่าจะเป็นการที่การเมืองนำกองทัพ ว่า ถือเป็นการใช้สิทธิ์ในการแสดงความเห็นของสมาชิกแต่ละคน เรื่องนี้ยังไม่มีการประชุมพรรค เพราะในวันอังคารที่ 18 ต.ค. ทางกรรมการบริหารพรรคได้หารือกันว่า พี่น้องประชาชนยังประสบภัยน้ำท่วม ได้ขอร้องให้ ส.ส. และสมาชิกพรรคลงพื้นที่ช่วยไปประสานงานกับรัฐบาลที่ ศปภ. อยู่ จึงงดการประชุม รวมทั้งทางสภาผู้แทนราษฎร ก็สั่งงดการประชุมสภาอีกสัปดาห์
ทั้งนี้ เรื่อง พ.ร.บ.กลาโหม รอน้ำลดก่อน ทางพรรคจะหารืออีกครั้งว่าจะมีการแก้ไขหรือไม่ ซึ่งถ้าแก้ไข ก็ไม่ใช่เพื่อฟื้นระบบทักษิณ เหมือนที่ฝ่ายค้านกล่าวหา และไม่ใช่ให้รัฐบาลไปคุมกองทัพ แต่เป็นไปเพื่อให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย การเมืองต้องนำกองทัพ เหมือนอารยะประเทศที่เป็นประชาธิปไตยทั้งหลาย ไม่ใช่กองทัพหรือทหารนำการเมือง เหมือนที่ผ่านมา
" ถ้าพิจารณากันแล้ว พ.ร.บ.กลาโหม ทำให้ฝ่ายการเมืองที่เป็นตัวแทนประชาชนเป็นตรายาง ไม่มีบทบาท ซึ่งต่างจากหน่วยงานอื่น ไม่ว่าจะเป็นทางตำรวจ หรือข้าราชการพลเรือน ทั้งๆ ที่กองทัพก็เป็นข้าราชการเหมือนกัน เรื่องนี้ไม่ใช่ผลประโยชน์ของพรรคเพื่อไทย แต่เป็นผลประโยชน์ของประชาชน ให้มีอำนาจเข้าไปถ่วงดุล และต้องการเข้าไปขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล เพื่อสนองตอบความต้องการของประชาชน ขณะนี้ ถึงจะแก้ พ.ร.บ. กลาโหม ในเรี่องการแต่งตั้งนายทหารที่บอกจะเอื้อประโยชน์นั้น ก็เสร็จสิ้นไปแล้ว ถ้าจะแก้กันจริง ทุกรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งที่ได้อำนาจจากประชาชนมาก็จะมีบทบาทในการถ่วงดุลอำนาจ ผมรู้สึกแปลกใจที่สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาคัดค้านเรื่องนี้อย่างหัวชนฝา ทั้งๆ ที่อ้างว่าเป็นพรรคเก่าแก่ ยึดมั่นในประชาธิปไตยและหลักการ แต่กลับมาคัดค้าน และไม่ยอมให้อำนาจประชาชนเข้าไปถ่วงดุล" นายพร้อมพงศ์ กล่าว
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงปัญหา พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ที่สมาชิกพรรคเพื่อไทย และนายทหารบางท่าน รวมทั้งนักวิชาการต้องการให้แก้ไข เพราะมองว่าไม่มีการถ่วงดุลอำนาจ เป็นการออกกฎหมายในขณะที่มีการรัฐประหาร น่าจะเอื้อประโยชน์ให้กับคมช. ทำให้กองทัพนำการเมืองมากกว่าจะเป็นการที่การเมืองนำกองทัพ ว่า ถือเป็นการใช้สิทธิ์ในการแสดงความเห็นของสมาชิกแต่ละคน เรื่องนี้ยังไม่มีการประชุมพรรค เพราะในวันอังคารที่ 18 ต.ค. ทางกรรมการบริหารพรรคได้หารือกันว่า พี่น้องประชาชนยังประสบภัยน้ำท่วม ได้ขอร้องให้ ส.ส. และสมาชิกพรรคลงพื้นที่ช่วยไปประสานงานกับรัฐบาลที่ ศปภ. อยู่ จึงงดการประชุม รวมทั้งทางสภาผู้แทนราษฎร ก็สั่งงดการประชุมสภาอีกสัปดาห์
ทั้งนี้ เรื่อง พ.ร.บ.กลาโหม รอน้ำลดก่อน ทางพรรคจะหารืออีกครั้งว่าจะมีการแก้ไขหรือไม่ ซึ่งถ้าแก้ไข ก็ไม่ใช่เพื่อฟื้นระบบทักษิณ เหมือนที่ฝ่ายค้านกล่าวหา และไม่ใช่ให้รัฐบาลไปคุมกองทัพ แต่เป็นไปเพื่อให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย การเมืองต้องนำกองทัพ เหมือนอารยะประเทศที่เป็นประชาธิปไตยทั้งหลาย ไม่ใช่กองทัพหรือทหารนำการเมือง เหมือนที่ผ่านมา
" ถ้าพิจารณากันแล้ว พ.ร.บ.กลาโหม ทำให้ฝ่ายการเมืองที่เป็นตัวแทนประชาชนเป็นตรายาง ไม่มีบทบาท ซึ่งต่างจากหน่วยงานอื่น ไม่ว่าจะเป็นทางตำรวจ หรือข้าราชการพลเรือน ทั้งๆ ที่กองทัพก็เป็นข้าราชการเหมือนกัน เรื่องนี้ไม่ใช่ผลประโยชน์ของพรรคเพื่อไทย แต่เป็นผลประโยชน์ของประชาชน ให้มีอำนาจเข้าไปถ่วงดุล และต้องการเข้าไปขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล เพื่อสนองตอบความต้องการของประชาชน ขณะนี้ ถึงจะแก้ พ.ร.บ. กลาโหม ในเรี่องการแต่งตั้งนายทหารที่บอกจะเอื้อประโยชน์นั้น ก็เสร็จสิ้นไปแล้ว ถ้าจะแก้กันจริง ทุกรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งที่ได้อำนาจจากประชาชนมาก็จะมีบทบาทในการถ่วงดุลอำนาจ ผมรู้สึกแปลกใจที่สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาคัดค้านเรื่องนี้อย่างหัวชนฝา ทั้งๆ ที่อ้างว่าเป็นพรรคเก่าแก่ ยึดมั่นในประชาธิปไตยและหลักการ แต่กลับมาคัดค้าน และไม่ยอมให้อำนาจประชาชนเข้าไปถ่วงดุล" นายพร้อมพงศ์ กล่าว
