“ยิ่งลักษณ์” ปล่อยเรือดันน้ำ 500 ลำ “โครงการเรือประชาอาสาผันน้ำลงทะเล” ยัน รบ.ทำทุกทาง กู้วิกฤตน้ำท่วม วอน ปชช.รวมพลังก้าวข้ามวิกฤต ด้าน ผวจ.นนทบุรี น้อมนำต้นแบบเรือดันน้ำ “ในหลวง” แก้ไขปัญหาน้ำท่วม “ปลอดประสพ” เชื่อ ดันน้ำลงสู่ทะเล 50 ลบ.ม.ต่อวัน
วันนี้ (16 ต.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางมายังบริเวณสะพานพระนั่งเกล้า จังหวัดนนทบุรี เพื่อเป็นประธานในการปล่อยเรือเร่งผลักดันน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาลงสู่ทะเล จำนวนเรือประมาณ 500 ลำ ได้แก่ เรือดันจูงขนาดเล็กและขนาดไหญ่ เรือโดยสาร เรือด่วนเจ้าพระยา เรือข้ามฟาก เรือเล็ก เรือหางยาว เรือสปีดโบ้ต เรือเจ็ตสกี ตามโครงการ “เรือประชาอาสาผันน้ำลงทะเล” ใช้เรือเร่งผลักดันน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาลงสู่ทะเล เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย พร้อมด้วย นายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และนายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี
นายวิเชียร กล่าวว่า ทาง จ.นนทบุรี ได้ร่วมกับโครงการประชาอาสาเพื่อผลักดันน้ำให้เร่งไหลลงสู่ทะเลได้อย่างรวดเร็ว โดยในส่วนของเรือดันน้ำที่อยู่ในเขต จ.นนทบุรี มีจำนวนเรือทั้งสิ้น 500 ลำ ใน 42 จุด ซึ่งจะทำการผลักดันน้ำอย่างต่อเนื่องทุกวันในช่วงที่น้ำลง จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายเพื่อเป็นการป้องกันน้ำท่วมอย่างเฉียบพลัน
ด้าน นายปลอดประสพ กล่าวว่า ขณะนี้มีการผลักดันน้ำใน 3 แม่น้ำ ได้แก่ แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำบางปะกง และแม่น้ำท่าจีน ซึ่งจะดำเนินการผลักดันน้ำในช่วงน้ำลงเท่านั้น โดยเรือผลักดันน้ำสามารถผลักดันน้ำได้ถึงวันละ 50 ลูกบาศก์เมตร ทั้งนี้ มีเรือที่จะผลักดันน้ำลงสู่ทะเลมี 3 ที่ทั้งแม่น้ำเจ้าพระยา มีเรือ 926 จำนวน 50 จุด แม่น้ำบางประกงมีเรือ 121 ลำ จำนวน 13 จุด และเรือที่แม่น้ำท่าจีน 102 ลำจำนวน15 จุด
ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 1 เดือน ที่ผ่านมา ปริมาณน้ำฝนได้ตกลงมาเป็นจำนวนมากทำให้เกิดน้ำท่วมหลากในทุกพื้นที่ของประเทศไทยถึง 56 จังหวัด ทำให้ประชาชนมีความเดือดร้อน น้ำท่วม ไม่มีที่อยู่อาศัย รวมถึงเส้นทางการคมนาคมต่างๆ ถูกตัดขาด แม้ทั้งอาหารการกินก็ยังขาดแคลน ดังนั้น ปัญหาต่างๆ รัฐบาลมีความเห็นใจประชาชนและมีความเข้าใจในปัญหาความทุกข์ยากของประชาชนด้วย
ทั้งนี้ โครงการระบายน้ำลงสู่ทะเลรัฐบาลมีความมุ่งมั่นในการที่จะต้องเร่งในการระบายน้ำเพื่อบรรเทาความทุกข์ยากของประชาชน ซึ่งแนวทางในการระบายน้ำนั้นมีหลายวิธีด้วยกัน ตั้งแต่การระบายน้ำและลดปริมาณระดับน้ำในเขื่อนเจ้าพระยา การระบายน้ำนั้นมี 3 เส้นทาง คือ 1.การระบายน้ำลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา การระบายน้ำโดยการขุดลอกคูคลองในฝังตะวันตกก็คือทางฝังแม่น้ำท่าจีน และการขุดลอกคูคลองในฝังตะวันออกคือแม่น้ำเจ้าพระยา
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนั้น ยังต้องเร่งระบายน้ำให้เร็วขึ้นนั้น โครงการเรือประชาอาสาดันน้ำออกทะเลนั้นก็เป็นอีกหนึ่งวิธี เป็นการช่วยระบายน้ำสู่ทะเลให้เร็วขึ้นเป็นวิธีที่เสริมธรรมชาติให้เร็วที่สุดและน้อมนำพระปรีชาสามารถของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระองค์เคยใช้เรือผลักดันน้ำลงสู่ทะเล ประสบความสำเร็จเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา ดังนั้น รัฐบาลได้มีการทำโครงการผลักดันน้ำมาแล้วที่คลองลัดโพธิ์ ได้มีการระบายออกสู่ทะเลนั้นปริมาณน้ำ 50 ลูกบาศเมตรต่อวินาที แม้ว่าจำนวนจะไม่มากเมื่อเทียบกับปริมาณน้ำที่มีอยู่ แต่ก็ถือว่าเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพและคุ้มค่าที่จะทำ ดังนั้น เราจึงมีการขยายต่อในโครงการนี้ในการผลักดันน้ำลงสู่ทะเล โดยการขออาสาทั้งหมดจากประชาชนผู้ที่มีเรือและร่วมถึงของภาครัฐกับภาคเอกชนทั้งหมด โดยหมดรวมมาเป็นโครงการเรือประชาอาสาดันออกสู่ทะเลและถือทำตามโครงการพระราชดำริด้วยอีกอย่างหนึ่ง
“วันนี้ถือเป็นวันสำคัญที่เราได้มาร่วมมือร่วมใจกันแสดงความสามัคคีและความแข็งแกร่งของประชาชนชาวไทย โดยวันนี้เรือจำนวนกว่า 1,000 ลำนั้น จะได้ร่วมกันผลักดันน้ำลงสู่ทะเล ซึ่งเรือจำนวนนี้ในการผลักดันน้ำแม้ว่าจะมีน้ำจำนวนมหาศาล แต่ก็ต้องมีจังหวะเพื่อประกอบให้สัมพันธ์กับน้ำลงสู่ทะเล ดิฉันเชื่อว่า จะเป็นการบรรเทาการท่วมขังของน้ำ เพื่อที่จะคลายทุกข์ให้กับประชาชนอีกระดับหนึ่งด้วย” นายกรัฐมนตรี กล่าว
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะปล่อยขบวนเรือ ได้มีการทำพิธีบรวงสรวงของคาวหวานหมากพลูในการปล่อยเรือพร้อมทั้งกดหวูดเพื่อส่งสัญญาณในการปล่อยเรือด้วย จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้ลงเรือที่บริเวณท่าน้ำวัดไทรม้าเหนือ เพื่อลงไปเยี่ยมเยียนผู้ประกอบการที่นำเรือมาร่วมในโครงการดังกล่าว