โฆษกประชาธิปัตย์ซัดรัฐใช้ช่อง 11 โฆษณาหาเสียงนายกฯ-ส.ส.สอบตก จัดฉากเหมือนแก้ปัญหาได้ ขำไม่ออกมิวสิกบ้านทรายทอง ชี้ทำสถานการณ์หนักกว่าเดิม จี้พูดความจริง อย่ามัวเล่นปาหี่ เสนอ 4 แนวทางแก้ แนะหยุดดรามาทำคะแนน
วันนี้ (16 ต.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำท่วมของรัฐบาลว่า จากการประเมินสถานการณ์ 2-3 วันที่ผ่านมา เห็นว่าทิศทางการปรับปรุงการทำงานของรัฐบาลไม่ได้เป็นไปเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง แต่กลับมุ่งใช้ทีวีของรัฐ เช่น ช่อง 11 ทำโฆษณาชวนเชื่อให้แก่ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยที่สอบตก และหาเสียงให้นายกรัฐมนตรี โดยจัดฉากให้เหมือนสถานการณ์ปกติและรัฐบาลสามารถแก้ปัญหาได้ เพื่อให้ประชาชนได้ชื่นชมนายกรัฐมนตรี แต่ที่ซ้ำหนักคือมีการจัดทำมิวสิควีดีโอเพลงประกอบบ้านทรายทอง ซึ่งเป็นเรื่องที่ขำไม่ออก เพราะมีการใช้เวลาของรัฐ ทีวีของรัฐ โฆษณาให้กับตัวเองเพื่อกลบเกลื่อนปัญหาที่แท้จริงและความไร้ประสิทธิภาพ ทำให้สถานการณ์ หนักกว่าเดิมถึงสองเท่า และจะหนักกว่านี้ในเวลาอันใกล้ๆนี้
“รัฐบาลต้องพูดความจริงกับประชาชน ไม่ใช่ปาหี่เล่นละครการเมือง ให้ผู้สมัครสอบตกมีความสุขได้ออกทีวีพูดจาไม่รู้เรื่องไม่ได้ประโยชน์อะไรกับประชาชน สะท้อนถึงความไม่จริงใจของรัฐบาล เพราะถ้าจริงใจและเอาใจใส่ปัญหาประชาชนจะไม่ทำเช่นนี้” นายชวนนท์กล่าว
นายชวนนท์กล่าวว่า พรรคขอฝากหลักการบริหารสถานการณ์อุทกภัยไปยังรัฐบาล คือ 1.ต้องพูดความจริงกับประชาชนว่ามูลน้ำที่จะเข้ามาจากภาคเหนือมีปริมาณเท่าไหร่ 2.การแจ้งเตือนไปยังชุมชน จังหวัด เขตนิคมอุตสาหกรรม ต้องครบถ้วนและให้เวลาในการเตรียมตัว 3.มีมาตรการป้องกันที่เหมาะสมแต่ละพื้นที่หรือยัง และ 4.เมื่อรู้ว่าความเสียหายจะเกิดขึ้น มีมาตรการเยียวยายฟื้นฟูอย่างไร แต่ที่ผ่านมาไม่ได้เป็นไปตามหลักสากล มีการประเมินปริมาณน้ำที่ผิดพลาด และไม่มีการแจ้งเตือน เช่น นิคมอุตสาหกรรมจนทำให้นักลงทุนญี่ปุ่นออกมาตำหนิรัฐบาลอย่างรุนแรงว่าไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า และการให้ข่าวประชาสัมพันธ์ของรัฐบาลไม่รู้จะเชื่อใครดี มีการแจ้งข้อมูลปะติดปะต่อ และโกลาหล สุดท้ายจึงไม่ทันรณ์ การที่นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ออกมาเสียน้ำตานั้น ทางนักลงทุนญี่ปุ่นพูดว่าสถานการณ์แบบนี้ผู้นำต้องเข้มแข็ง การร้องไห้ไม่ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น ต้องสู้กับปัญหาไม่ใช่ยอมแพ้ง่ายๆ จึงอยากให้หยุดเล่นละคร เพราะระยะหลังรู้สึกจะเอาปัญหาวามทุกข์ของสังคมมาเป็นซีนอารมณ์ให้รัฐบาลใช้หาเสียง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง