นายกฯ ตรวจคันกั้นน้ำปทุมฯ ลั่นยังรับสถานการณ์ไหว เพราะเสริมกระสอบทรายให้สูงขึ้น ขอความร่วมมือ ปชช.อย่าดึงกระสอบทรายออก ยันไม่ได้เลือกช่วยเฉพาะบางพื้นที่ บอกจะพยายามแจงสถานการณ์ให้ ปชช.เข้าใจมากขึ้น พร้อมพา “น้องไปป์” แพกของช่วยน้ำท่วม
วันนี้ (14 ต.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมการทำงานของเจ้าหน้าที่ ที่ประตูแนวคันป้องกันน้ำ เทศบาลตำบลหลักหก อ.เมือง จ.ปทุมธานี โดยมี พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม และ ผอ.ศปภ. นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. นายพีรศักดิ์ หินเมืองเก่า ผวจ.ปทุธานี และ พล.ท.ยอดยุทธ์ บุญญาธิการ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก (นปอ.) รอต้อนรับ ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า วันนี้มาตรวจเพื่อให้เกิดความมั่นใจและความสบายใจต่อประชาชนในการทำงาน สัมพันธ์กันระหว่างศูนย์ปฎิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) กับกทม. และขณะนี้ตนเห็นว่าทุกฝ่ายทำงานอย่างเต็มที่อยากให้ประชาชนมีความมั่นใจ ว่าทางกรมชลประทานได้รายงานสถานการณ์ ว่าน้ำมีความคงที่และมีแนวโน้มที่จะลดลง
พล.ต.อ.ประชากล่าวว่า ขณะนี้แนวคันกั้นน้ำระหว่างคลองเปรมประชากรกับคลองรังสิตสูงกว่าระดับน้ำ 50 ซม. แต่เรายังไม่วางใจในสถานการณ์ ซึ่งที่จริงเราต้องการให้เพิ่มจำนวนกระสอบทรายสูงขึ้นอีก 50 ซม.แต่หากต้องการความเร็วเราสามารถเพิ่มได้แค่ 30 ซม.ไปก่อนเพื่อเป็นการสนับสนุนการป้องกันน้ำที่จะไหลทะลักเข้าคลองเปรมประชากร ซึ่งจะเป็นด่านแรกของกทม.
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กล่าวว่า ตนได้ลงตรวจพื้นที่รอยต่อปทุมธานีกับ กทม.หลายรอบแล้ว และมีการเสริมคันกั้นน้ำตลอดแนวคลองรังสิต คิดว่าหากเพิ่มขึ้นสูงอีก 30 ซม.จะสามารถกันได้อยู่เพราะว่ามีแนวคันดินของชาวบ้านอีกชั้นที่อยู่หลังแนว กระสอบทราย เพื่อเป็นแนวกั้นถ่วงเวลาให้เราเสริมกระสอบทรายหากมีจุดใดพังทลายลง และใช้เครื่องสูบน้ำออกได้ อย่างไรก็ตาม ตนยังมีความมั่นใจว่าจะสามารถกั้นน้ำไม่ให้เข้าตัว กทม.ได้ แต่ขอให้ ศปภ.จัดเวรยามดูแลแนวกระสอบทรายตลอด 24 ชั่วโมง
นายธีระกล่าวว่า เรามีปัญหาอีกจุดหนึ่งที่น้ำเหนือเอ่อล้นมาจาก จ.พระนครศรีอยุธยาที่จะไหล ผ่านคลองที่ 26 มายังคลองริต 1 ซึ่งชาวบ้านไม่พอใจมีการพังแนวกั้นน้ำ ตนจึงอยากให้ปิดประตูระบายน้ำคลอง 1 ตามที่ ผวจ.ปทุมฯ เสนอเพื่อให้น้ำไปไหลลงทางคลองรังสิต 6
จากนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์และคณะได้ขึ้นรถลำเลียงพลยูนิม็อกของ นปอ. เพื่อตรวจแนวคันกั้นน้ำเลียบคลองรังสิต 1 และให้กำลังใจชาวบ้าน จากสะพานประตูป้องกันน้ำคลองไปจนถึงประตูระบายน้ำจุฬาลงกรณ์ที่กั้นน้ำลง คลองเปรมประชากร โดยมีบรรดาชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณริมน้ำที่ถูกน้ำท่วมบ้านออกมานั่งรอ ต้อนรับบนแนวกระสอบทรายตลอดทาง โดยใช้เวลาประมาณ 45 นาที จึงเดินทางกลับเข้าไปยังศปภ.ท่าอากาศยานดอนเมือง
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวภายหลังลงพื้นที่สำรวจแนวป้องกันน้ำท่วมเทศบาลหลักหก อ.เมือง จ.ปทุมธานี ว่ามั่นใจว่ารับสถานการณ์ได้ เพราะหลังจากที่ดูแนวคลอง เราได้มีการเสริมกระสอบทรายให้สูงขึ้นอีก และในส่วนของการดูแลพื้นที่ในภาพรวมเราดูแลพี่น้องประชาชนทุกจังหวัดและมีความเป็นห่วงพี่น้องประชาชนที่อยู่ในต่างจังหวัดที่เจอกับภาวะน้ำท่วม แต่เนื่องจากเรามีความจำเป็นที่ต้องทำแนวคันกั้นน้ำเพื่อป้องกันไม่ให้พื้นที่เสียหายกระจายเป็นวงกว้างมากไปกว่านี้ จึงเป็นที่มาในการขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนที่จะทำแนวคันกั้นน้ำ วันนี้ได้ลงพื้นที่ตรวจกับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.เพื่อให้เห็นความมั่นใจและได้มอบให้กองทัพบกเข้าไปดูแลพื้นที่นี้เพิ่มเติม ในการทำแนวคันกั้นน้ำที่สูงขึ้นไปอีก แต่ภาพรวมเราได้คุยกันทุกหน่วยงานแล้ว ดังนั้นให้สบายใจว่าปริมาณน้ำนั้นยังไม่เพิ่มขึ้น สำหรับพื้นที่ กทม.นั้นอยู่ปลายทางข้างล่าง ฉะนั้นน้ำจะไม่ได้สูงเหมือน จ.นครสวรรค์ หรือ จ.พระนครศรีอยุธยา และประกอบกับช่วงนี้เราเร่งขุดคลองในส่วนของแม่น้ำท่าจีน และเจ้าพระยา เพื่อให้มีการระบายลงสู่ทะเล
ผู้สื่อข่าวถามว่าปัญหา การทำลายแนวคันกั้นน้ำจะขอความร่วมมือจากประชาชนอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ได้ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน เพราะในภาพรวมรัฐบาลเห็นใจพี่น้องประชาชนทุกจังหวัด ไม่ได้หมายความว่าจะมาเลือกดูแลเฉพาะที่จะปกป้องส่วนไหนแต่ภาพรวมเรามีความจำเป็นที่จะต้องปกป้องในส่วนของเขตเศรษฐกิจทั้งหมด โดยในหลักการ ตนได้ให้แนวทางกับผู้ว่าราชการจังหวัดทั้งหมดในการปกป้องเขตเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นอำเภอเมือง ต่างๆ โดยเฉพาะ กทม.ถือว่าเป็นหัวใจกลางเศรษฐกิจของประเทศ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องช่วยกันร่วมมือกันในการทำงาน ขณะเดียวกันจะพยายามหาทางในการระบายน้ำไปยังส่วนอื่นๆ เพื่อแบ่งเบาปัญหาที่พี่น้องประชาชนที่ประสบอยู่ สำหรับพื้นที่ กทม.นั้น นอกจากแนวคันกั้นน้ำที่เป็นโครงการพระราชดำริแล้ว ในส่วนแนวด้านนอกที่เป็นรอยต่อต่างๆ นั้น ทางด้านอธิบดีกรมชลประทาน ได้ทำแนวป้องกันน้ำไว้อีกชั้นหนึ่ง เชื่อว่าน้ำที่เข้ามาสู่ กทม. ก็ไม่ได้มาก วันนี้ให้ความมั่นใจมากว่า ทุกอย่างจากที่ไปตรวจดูแล้วไม่น่าจะมีผลกระทบอะไรมาก
เมื่อถามว่า วันนี้ทาง ศปภ.ได้ออกมาแถลงให้ความมั่นใจว่า กทม.ไม่ท่วมแน่นอน และให้คน กทม.สบายได้ จริงหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เราเองจากที่มีข่าวนั่นคือรอยต่อเชื่อมระหว่างจังหวัด แต่เราได้เข้าไปทำการซ่อมแซมและคิดว่าจะกลับเข้ามาสู่สภาพปกติ และจะให้ กทม.สูบน้ำออก เพื่อที่จะให้น้ำไม่กระทบมาก จึงอยากให้สบายใจว่าการทำงานในส่วนของ กทม.เรามีการป้องกันหลายอย่าง โดยเฉพาะในส่วนของพื้นที่ สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ แม้กระทั่งบริเวณหอประชุมธรรมศาสตร์ รังสิต ที่เป็นศูนย์อพยพ ซึ่งได้ดูแลในเรื่องของแนวคันกั้นน้ำด้วย
เมื่อถามว่า การให้ความมั่นใจในครั้งนี้จะไม่ผิดพลาดอีกใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ต้องเรียนว่าเป็นการให้ข่าว ไม่ใช่เป็นการประมาณการผิดพลาด เนื่องจากช่วงแรกต้องเข้าไปสำรวจอย่างจริงจัง และช่วงนั้นเป็นการวิเคราะห์อยู่ และหลังจากการวิเคราะห์จะเห็นว่ามีแนวคันกั้นน้ำรับอยู่แล้วตามคลองต่างๆ ซึ่งระดับคลองนั้นสูงพอที่จะรับน้ำได้ ทั้งนี้ ช่วงแรกข่าวอาจจะมีความสับสน รายงานสภาพความเป็นจริง แต่บางครั้งอาจจะทำให้พี่น้องประชาชนมีความวิตกกังวล ในการแถลงข่าวต่างๆ ตนจะพยายามสื่อสารให้พี่น้องประชาชนเข้าใจมากขึ้น