“ประชา” ประชุมคอนเฟอเรนซ์ติดตามสถานการณ์น้ำ เผย “ยิ่งลักษณ์” ตั้ง 8 รัฐมนตรีสั่งการ-ดูแลช่วยเหลือแทน ให้ทันต่อเหตุการณ์ พร้อมรายการทุกเหตุการณ์ต่อ ศปภ. ก่อนเตือนประชาชน 24 ชั่วโมง พร้อมส่งกระสอบทราย 1 แสนกระสอบป้องกันเสริมแนวกั้นน้ำปทุมธานี หวั่นน้ำทะลักเข้ากรุงเทพฯ ทั้งจัดพื้นที่อาคารในดอนเมืองเป็นที่พักชั่วคราวให้ผู้ประสบภัย เพิ่มคู่สายด่วน 1111 ให้ ปชช.โทร.ขอความช่วยเหลือ
วันนี้ (8 ต.ค.) พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือ ศปภ. ประชุมซักซ้อมและเตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ที่ ศปภ. บริเวณท่าอากาศยานดอนเมือง โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมรับฟัง เช่น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมชลประทาน กรมอุตุนิยมวิทยา กรมอุทกศาสตร์ทหารเรือ และหน่วยทหารพัฒนา
โดย พล.ต.อ.ประชากล่าวว่า ศปภ.พร้อมที่จะให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างทันท่วงทีและทันต่อเหตุการณ์เพราะขณะนี้ปัญหาอุทกภัยได้ลุกลามกลายเป็นปัญหาวิกฤตใหญ่ของประเทศไปแล้ว โดยเฉพาะจังหวัดท้ายเขื่อนเจ้าพระยาที่จะได้รับผลกระทบอย่างหนัก รวมถึงกรุงเทพมหานครระหว่างวันที่ 15-17 ตุลาคมนี้ที่จะเป็นช่วงน้ำทะเลหนุน รวมทั้งยังมีพายุที่ยังคงมีอิทธิพลเป็นร่องความกดอากาศต่ำพัดผ่านประเทศไทยอยู่ และส่งผลให้มีฝนตกหนักในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยอยู่แล้ว เช่น ภาคเหนือตอนล่าง และภาคกลาง ดังนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จึงแต่งตั้งรัฐมนตรีจำนวน 8 คน เป็นผู้สั่งการและอำนวยการแทน เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนเป็นไปอย่างทันต่อเหตุการณ์ เพื่อให้ประชาชนได้รับการเยียวยาอย่างดีที่สุด
ทั้งนี้ เหตุการณ์ทุกอย่างจะต้องรายงานเข้ามายัง ศปภ. และศปภ.จะรายงานแจ้งให้กับประชาชนได้ทราบตลอดเวลา 24 ชั่วโมง เพื่อสามารถเตือนประชาชนให้เตรียมพร้อมรับมือได้ทันท่วงที
อย่างไรก็ตาม ภายในท่าอากาศยานดอนเมืองได้จัดเตรียมอาคาร 1 เพื่อเป็นจุดรับบริจาคสิ่งของช่วยเหลือ และรับเรื่องราวร้องทุกข์จากประชาชนและเป็นคลังอาหารสำรองไว้ สำหรับแจกจ่ายประชาชนได้ทั่วประเทศ และคลังสินค้าที่ 3 และคลังสินค้าที่ 4 จัดเป็นแหล่งที่พักชั่วคราวให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ไร้ที่อยู่อาศัย ซึ่งสามารถรองรับได้จำนวนมาก สำหรับอาคารจอดรถมีทั้งหมด 5 ชั้น สามารถจอดรถได้ 400-500 คัน พร้อมเปิดรับฝากรถจากประชาชนตั้งบัดนี้เป็นต้นไป
พล.ต.อ.ประชากล่าวภายหลังการประชุมว่า ได้มอบแนวทางการป้องกันสถานการณ์อุทกภัยในจังหวัดปทุมธานีผ่านการประชุมระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยเน้นย้ำให้ นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เบื้องต้นได้มอบหมายให้กองทัพบกจัดส่งกระสอบทรายจำนวน 100,000 กระสอบ การจัดหาทรายเพื่อนำมาบรรจุถุง ขณะเดียวกันยังสั่งการให้อธิบดีกรมราชทัณฑ์จัดส่งผู้ต้องขังจากเรือนจำจังหวัดปทุมธานี และอาสาสมัครคุมประพฤติ จากกรมคุมประพฤติ เข้าบรรจุกระสอบทราย เพื่อไปเสริมคันกั้นน้ำในวันนี้ เพราะหากไม่เร่งดำเนินการน้ำอาจจะไหลทะลักเข้าสู่เขตดอนเมือง และสายไหม สร้างความเสียหายอย่างหนัก
พร้อมกันนี้ยังได้ประสานให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดส่งกำลังพลจำนวน 150 นาย เรือท้องแบน และอุปกรณ์เข้าไปสมทบ และดูแลทรัพย์สินของประชาชนในเวลา 15.00 น. รวมถึงประสานขอความร่วมมือกับห้างสรรพสินค้า ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต เพื่อให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนเข้าไปจอดรถ ควบคู่กับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิตด้วย นอกจากนี้ สั่งเพิ่มคู่สายด่วน 1111 กด 5 เป็น 254 คู่สาย หลังมีประชาชนโทรศัพท์เข้าหลายพันคนเพื่อขอความช่วยเหลือ ซึ่งเพียงไม่ถึงชั่วโมงที่เริ่มเปิดศูนย์ มีผู้ประสบภัยโทรศัพท์เข้ากว่า 2,000 สาย และถึงตอนนี้มีมากเกือบ 30,000 สายแล้ว ส่วนมากขอความช่วยเหลือเรื่องอาหาร น้ำดื่ม และเต็นท์ที่พักอาศัย แต่ว่าปัญหาตอนนี้คือ การส่งความช่วยเหลือค่อนข้างเป็นไปอย่างยากลำบาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือ ศปภ. ประกาศฉบับที่ 1 สั่งหัวหน้าหน่วยงานรัฐช่วยน้ำท่วมถือเป็นการปฏิบัติราชการ ให้ทหาร ตำรวจสนับสนุนการดำเนินงาน