แก้น้ำท่วมอย่างไร หัดฟังคนไทยเสียบ้าง

วานนี้ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สั่งการให้ตนติดต่อกับทางสถานทูตอเมริกัน เพื่อขอความรู้เกี่ยวกับการแก้ปัญหาภัยพิบัติที่อเมริกาเคยทำสำเร็จที่รัฐนิวออร์ลีนส์ กับทางตอนเหนือของอเมริกาที่เกิดน้ำท่วม ว่าอเมริกามีขั้นตอนดำเนินการอย่างไร

ในความรับรู้ของชาวโลก รัฐบาลประธานาธิบดี จอร์จ บุช โดนด่าเละในการแก้ปัญหาภัยพิบัติ จากพายุเฮอริเคนที่นิวออร์ลีนส์ เพราะทั้งช้า ทั้งไม่ได้ทุ่มเทให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เหมือนรัฐบาลโคลนนิ่งในขณะนี้

ระหว่างที่รอคำตอบจากทางสหรัฐฯ นั้น ขอแนะนำนายสุรพงษ์ให้ไปบอกกับนายกรัฐมนตรีว่า เรื่องที่ทำได้เลยและมีประโยชน์ต่อส่วนรวมคือ เลิกถ่ายทอดสด เรียลิตีโชว์ การทำงานของศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือ ศปภ.ทางสถานีช่องโทรทัศน์ช่อง 11 เสีย เพราะเป็นรายการที่ทำให้ผู้ชมซึ่งกำลังผจญกับทุกข์จากน้ำท่วม ยิ่งรู้สึกสลดหดหู่ กับการทำงานของรัฐบาล เพราะรายการนี้ได้สะท้อนถึงความไม่รู้ ความไม่เป็นงานของคนที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้รับผิดชอบแก้ไขสถานการณ์ภัยพิบัติที่ร้ายแรงที่สุด นับตั้งแต่ตัวผู้อำนวยการ ศปภ. คือ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ลงมา

อยากจะโชว์ผลงานของพรรคเพื่อไทย ก็ควรใปออกอากาศทางทีวีเสื้อแดง อย่าได้ประจานความห่วยโดยใช้ทีวีของประชาชนเป็นเครื่องมือเลย

ข้าราชการฝ่ายปกครองระดับสูงคนหนึ่งในจังหวัดที่ถูกน้ำท่วมหนักรายหนึ่ง บ่นกับเจ้าหน้าที่ของบริษัทเอกชนที่นำสิ่งของไปช่วยเหลือประชาชนว่า ทุกๆ เช้าต้องมาเสียเวลากับการ รายงานสถานการณ์ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ให้ที่ประชุม ศปภ.รับทราบ และมีการถ่ายทอดสดผ่านช่อง 11 ไปทั่วประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องไร้สาระที่สุดในยามที่ข้าราชการในพื้นที่มีภาระล้นมืออยู่แล้วในการช่วยประชาชน เพราะเมื่อรายงานสถานการณ์ไปแล้ว ไม่เคยมีคำแนะนำ ไม่เคยมีการเสนอทางออก หรือความช่วนเหลือใดๆ จากที่ประชุม ศปภ.เลย

การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ในขณะนี้ ข้าราชการในพื้นที่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชนในพื้นที่ และจากส่วนกลาง ลงมือกันเอง เพราะไม่เคยมีความช่วยเหลือใดๆจาก ศปภ.เลย

หากนายกรัฐมนตรีอยากรู้ว่า จะแก้ปัญหาน้ำท่วมในขณะนี้อย่างไร ในระยะเฉพาะหน้านี้ ไม่ต้องไปขอคำแนะนำจากฝรั่งหรือจีนหรอก ลองเปิดใจให้กว้าง รับฟังคำแนะนำจากคนไทย ด้วยกันก็พอแล้ว

วานนี้เช่นกัน นายสมมาต ขุนเศษฐ เลขาธิการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า สิ่งที่เอกชนต้องการจากรัฐบาลขณะนี้มี 3 ประเด็นที่สำคัญ คือ

1. ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ของรัฐบาลจะต้องแจ้งข่าวให้ประชาชนได้รับทราบข้อเท็จจริงต่างๆ เป็นระยะๆ รวมถึงทำความเข้าใจต่อสถานการณ์ต่างๆ ตลอดเวลาเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาข่าวลือเช่นปัจจุบันจนทำให้เกิดความวุ่นวายและวิตกจริต

2. ถ้าหากเห็นว่าไม่สามารถจะควบคุมปริมาณน้ำที่จะไหลเข้าท่วมพื้นที่ใดได้จะต้องประกาศแจ้งล่วงหน้าก่อน 12 ชั่วโมงให้ประชาชนได้อพยพหนีได้ทันไม่ใช่แจ้งก่อน 3 ชั่วโมงเช่นปัจจุบันและ

3. สุดท้ายหากเห็นว่าพื้นที่ใดจำเป็นจะต้องประกาศภาวะฉุกเฉินก็ควรจะต้องประกาศเพื่อที่จะรัฐบาลจะสามารถเข้าไปแก้ไขและจัดการกับเหตุการณ์ต่างๆ ได้มีประสิทธิภาพมากกว่านี้

ข้อเรียกร้องของ เลขาธิการ ส.อ.ท. ซึ่งเป็นตัวแทนของภาคอุตสาหกรรม ซึ่งได้รับความเสียหายอย่างหนักในครั้งนี้ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อุตสาหกรรมที่เป็นฐานการผลิตสำคัญของทุนญี่ปุ่น คือ ความเห็นต่อการบริหารจัดการปัญหาของ ศปภ.อย่างนิ่มๆ แต่ตรงไปตรงมาว่า ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง