xs
xsm
sm
md
lg

ศปภ.เตือน 2 ช่วงน้ำทะเลหนุนสูง ต.ค.“ปู” นัดถกภาวะฉุกเฉินบ่ายนี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก
“ศปภ” ชี้ 3 ปัจจัยวัดปริมาณน้ำ น้ำฝน-น้ำเหนือ และน้ำทะเลหนุน เตือน 14-17 และ 28-31 ต.ค.น้ำทะเลหนุนสูงสุด แต่เตรียมแผนรองรับไว้แล้ว ลั่นนครสวรรค์เลวร้ายกว่าทุกปี เผย บ่ายนี้นายกฯเรียกหารือเรื่องประกาศภาวะฉุกเฉิน เล็งประสานขอลานจอดรถสุวรรณภูมิ เพิ่ม

วันนี้ (11 ต.ค.) ที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ท่าอากาศยานดอนเมือง พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานศูนย์ ศปภ.ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์น้ำท่วมในขณะนี้ โดยเฉพาะกรณีที่เขื่อนใจจังหวัดปทุมธานี พัง ว่า ขณะนี้น้ำได้ไหลเข้าท่วมจังหวัดปทุมธานี ซึ่งทางผู้ว่าราชการจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพยายามที่จะแก้ไขสถานการณ์อยู่ โดยพยายามซ่อมเขื่อนที่ อ.สามโคก เพื่อไม่ให้น้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่เกษตรกรของประชาชน ซึ่งประชาชนในจังหวัดปทุมคงจะประสบปัญหาน้ำท่วมแน่นอน โดยได้รับความช่วยเหลือจากทางกองทัพบก แต่ก็เกรงว่า น้ำจะท่วมลามไปถึงซีกจังหวัดนครปฐม ซึ่งก็ต้องฝากไปถึงชาว จ.นครปฐม ให้ทราบด้วย

พล.ต.อ.ประชา กล่าวต่อว่า ส่วนที่ จ.นนทบุรี พื้นที่ที่ประสบปัญหาหนัก คือ อ.ปากเกร็ด ที่น้ำไหลท่วม เมื่อถามว่า จะป้องกันไม่ให้น้ำไหลท่วมพื้นที่ กทม.ชั้นในได้อย่างไร พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า ในพื้นที่ กทม.เราพยายามป้องกันอยู่ แต่จะไหลเข้ามาท่วมได้หรือไม่ ไม่มีใครคาดการณ์ได้ ขึ้นอยู่กับ 3 ปัจจัย คือ น้ำฝน น้ำเหนือ และ น้ำทะเลหนุน ซึ่งเราก็พยายามป้องกันให้ดีที่สุด ขณะนี้เราพยายามผลักดันน้ำลงสู่ทะเลให้เร็วที่สุด และขณะนี้ได้เริ่มผลักดันแล้ว ทั้งนี้ เราได้เตรียมมาตรการไว้ 2 ทางที่จะปฏิบัติ คือ การผันน้ำลงทะเล และการเอาน้ำจากคลองที่มาจากแม่น้ำป่าสัก ลงมาทางคลองระพีพัฒน์ คลองหกวา คลองแสนแสบ และคลองเล็กๆ อีก 5-6 คลอง ซึ่งจะเป็นการผลักดันลงแม่น้ำบางปะกง และลงทะเล เราพยายามอย่างเต็มกำลังความสามารถไม่ให้น้ำท่วม กทม.ทั้งนี้ จะมีอีกหนึ่งช่วงที่ต้องเฝ้าระวัง คือ วันที่ 28-31 ต.ค.เพราะเป็นช่วงที่น้ำทะเลขึ้นสูงสุดเช่นกัน และอาจจะหนักกว่าช่วงวันที่ 14-17 ต.ค.ด้วย

เมื่อถามว่า มวลน้ำก้อนใหญ่ที่จะมาจากทางเหนือจะมาเมื่อไหร่ พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า ขณะนี้มาถึง จ.นครสวรรค์ แล้ว คาดว่า จะมาถึง จ.พระนครศรีอยุธยา วันที่ 14-15 ต.ค.ซึ่งเป็นช่วงที่น้ำทะเลหนุนพอดี เมื่อถามว่า มีการประเมินหรือไม่ว่าร้ายแรงที่สุดอยู่ในระดับไหน พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า ได้มีการเตรียมแผนไว้แล้ว ซึ่งทุกฝ่ายก็ยืนยันว่าสามารถป้องกันได้ และขณะนี้กทม.ร่วมกับปภ.ได้ทำคันกั้นน้ำ 3 แห่ง ตอนนี้กำลังเร่งดำเนินการ และคาดว่า จะแล้วเสร็จในวันพรุ่งนี้ ประกอบด้วย ที่เมืองเอก จุดที่สอง ศาลายา-ตลิ่งชัน และที่คลอง 1-8 ซึ่งกำลังเร่งดำเนินการกันอยู่ โดยมีระยะทาง 16 กม.ดังนั้น ตนก็ตอบไม่ได้และไม่มั่นใจว่าจะเสร็จภายใน2-3 วันนี้

เมื่อถามว่า สถานการณ์ที่ จ.นครสวรรค์ จะเลวร้ายไปกว่านี้ไหม พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า “ผมว่าเลวร้ายที่สุดแล้วที่นครสวรรค์ เพราะมีเขื่อนแตก 2-3 จุด” เมื่อถามว่า ที่จุดอื่นเลวร้ายแล้วอะไรจะเป็นเงื่อนไขให้รัฐบาลตอบได้ว่าเราควรจะปกป้อง กทม.ที่เป็นเมืองหลวงของประเทศและเป็นพื้นที่เศรษฐกิจพล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า ตนบอกไปแล้วว่าเราพยายามอย่างเต็มที่ แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่าตอนนี้ได้รับผลกระทบเกือบทุกจุด ซึ่งเราก็ต้องแชร์ความลำบากความยากเข็ญด้วยกันทุกส่วน ตนก็ยังไม่แน่ใจว่า กทม.จะรองรับได้แค่ไหน

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในพื้นที่เกาะเกร็ดขณะนี้ ต้องอพยพคนออกมาแล้วหรือไม่ พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับสภาวะการปัจจุบัน โดยผู้ว่าฯจะรู้ดีที่สุดว่าจำเป็นต้องอพยพประชาชนหรือไม่ และผู้ว่าฯจะตัดสินใจ โดยขณะนี้มีการอพยพออกมาบ้างแล้ว เมื่อถามว่า ในวันพรุ่งนี้จะมีน้ำทะเลหนุนจะดำเนินการอย่างไร ประธาน ศปภ.กล่าวว่า ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน ไม่มีใครคาดการณ์ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า สถานการณ์ในขณะนี้จำเป็นต้องประกาศภาวะฉุกเฉินหรือยัง พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า นายกฯจะนัดประชุมอีกครั้งในช่วงบ่ายวันนี้ แต่ส่วนตัวเห็นว่ายังไม่ถึงขั้นที่จะต้องประกาศ ขณะนี้พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบต่างก็เร่งช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่ สำหรับอยุธยาต้องยอมรับว่าจมแล้ว พูดไปได้เลยว่าจมไปแล้ว แต่ที่ดูต่อเนื่องมาแล้วพยายามที่จะช่วยเหลือก็คือจ.ปทุมธานี จ.นนทบุรี อ.แปดริ้ว จ.ฉะเชิงเทรา จ.สมุทรปราการ

พล.ต.อ.ประชา กล่าวด้วยว่า สำหรับในพื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ ที่เป็นห่วงว่า น้ำจะท่วมนั้น ตนคิดว่าไม่น่าจะท่วม เพราะสนามบินสุวรรณภูมิอยู่สูง อาจจะมีผลกระทบบ้างในแถบพื้นที่แถวมีนบุรี หนองจอก และ ลาดกระบัง เมื่อถามว่า ประตูจุฬาลงกรณ์จะรองรับน้ำได้ไหม พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า ทางกรมชลประทานคาดการณ์ว่าสามารถรองรับน้ำได้อยู่ เมื่อถามว่า น้ำที่อยู่ตามคลองสาขาจะระบายอย่างไร พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า ตอนนี้กำลังเร่งดำเนินการลอกคลองย่อยอยู่ แถวเขตหนองจอกและลาดกระบังที่มีอยู่ประมาณ 7 คลอง และยังมีเครื่องสูบน้ำอีก 10 กว่าเครื่องที่พยายามทำอย่างเต็มที่ ซึ่งที่บอกว่าตอนนี้น้ำปริ่มแล้วยอมรับว่าปริ่มจริง เพราะปริมาณน้ำฝนลงมามาก

เมื่อถามว่า มีการเสนอให้ใช้บางจุดในสนามบินสุวรรณภูมิให้เป็นจุดจอดรถผู้ประสบภัย พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า จะมีการประสานไป เชื่อว่าไม่มีปัญหา
กำลังโหลดความคิดเห็น