“คุณชาย” ห่วง 4 เขต กทม.ฝั่งตะวันออก “ลาดกระบัง-คลองสามวา-หนองจอก-มีนบุรี” สั่งเตรียมการช่วยเหลือน้ำหนุนสูงภายใน 1-2 วัน ประสาน ขสมก.เตรียมรถเมล์อพยพ 24 ชั่วโมง ด้านกรมชลฯ เตือนชาวคลองรังสิต 1-6 รับมือน้ำจากโรจนะที่จะไหลมาใน 3 วันนี้ ชี้ระดับน้ำอาจสูงกว่าถนนเกือบเมตร คาดไม่กระทบดอนเมือง
วันนี้ (11 ต.ค.) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยระหว่างการประชุมศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย กทม.ว่า ขณะนี้เป็นห่วงพื้นที่ฝั่งตะวันออกที่มีเขตลาดกระบัง คลองสามวา หนองจอก และมีนบุรี จึงขอกำชับให้เตรียมระบบการช่วยเหลือประชาชนทุกประเภทในพื้นที่ เช่น กระสอบทราย ไม้ และยานพาหนะ ให้เสร็จสิ้นภายใน 3 วัน เพื่อรองรับสภาวะน้ำทะเลหนุนในอีก 1-2 วันนี้ ในส่วนของการเตรียมอพยพคนออกจากพื้นที่นั้นทางองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้เตรียมรถประมาณ 400 คัน พนักงานกว่า 1,000 คน พร้อมอพยพคนออกจากพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง
ด้าน นายวีระ วงศ์แสงนาค ที่ปรึกษาอธิบดีกรมชลประทาน แถลงว่า สิ่งที่น่าห่วงขณะนี้คือ ปริมาณน้ำที่ท่วมในนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งมวลน้ำจะเดินทางมาถึงคลอง 26 รังสิต ในอีก 1-2 วันข้างหน้า จากนั้นน้ำจะไหลเข้าสู่คลองระพีพัฒน์ แยกตกภายใน 3 วัน ซึ่งขณะนี้กรมชลฯจำเป็นต้องระบายน้ำจากคลองระพีพัฒน์ แยกตก เข้าสู่คลองรังสิต 1-6 เพื่อทำให้คลองระพีพัฒน์แยกตกสามารถรองรับน้ำเพิ่มเติมได้ โดยน้ำที่ไหลมาจากนิคมฯโรจนะ อาจสร้างผลกระทบให้ให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่คลองรังสิต 1-6 ซึ่งอาจทำให้น้ำล้นคลองได้ และคาดว่าระดับน้ำอาจสูงกว่าถนนไม่เกิน 1 เมตร จึงขอแจ้งเตือนให้ประชาชนขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงเพื่อความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าปริมาณน้ำจะไม่ไหลพ้นคลองรังสิตออกมาได้ ดังนั้นจึงไม่สร้างผลกระทบต่อประชาชนที่อาศัยอยู่ในย่าน เขตดอนเมือง
นอกจากนี้ กรมชลประทาน และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ได้ลดการระบายน้ำจากเขื่อนภูมิพล จากวันละ 100 ล้าน ลบ.ม. ลงเหลือ 93 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งจะคงลักษณะนี้ไปจนถึงวันที่ 14 ต.ค. เพื่อดูสถานการณ์น้ำที่จะเข้าอ่างเก็บน้ำอีกครั้ง หากปริมาณน้ำที่เข้าเขื่อนลดลงก็จะลดการระบายต่อเนื่อง ขณะที่เขื่อนสิริกิติ์ก็จะลดการระบบายน้ำเช่นกัน โดยระบายเหลือ 30 ล้าน ลบ.ม. จากเดิมที่ระบายอยู่ที่ 40 ล้าน ลบ.ม. ไปจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงของปริมาณน้ำที่เข้าเขื่อน ซึ่งจะมีผลให้ช่วยผลกระทบประชาชนสองฝั่งแม่น้ำปิง
สำหรับสถานการณ์น้ำล่าสุดที่ไหลผ่าน จ.นครสวรรค์ วันนี้อยู่ที่ 4,650 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ที่บางไทร มีปริมาณน้ำไหลผ่าน ที่ 3,476 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ซึ่งระดับขนาดนี้จะยังไม่ส่งผลกระทบต่อกทม.
นายวีระกล่าวว่า ขณะที่สถานการณ์คันกั้นน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาที่ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี พัง ขณะนี้กำลังเร่งกู้กันอยู่ซึ่งจะเป็นผลน้ำที่ทะลักเข้ามามาถึงคลองเชียงราก แต่ยังไม่กระทบ ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต
