“ยิ่งลักษณ์” ถก ศปภ. สั่งเพิ่มคันกั้นน้ำโรจนะ จี้รายจังหวัดมีผู้สั่งการแค่คนเดียว หวังปกป้องเขตเศรษฐกิจ ชี้ถ้าพื้นที่ไหนป้องกันไม่ได้ ก็อพยพเสีย ด้าน “ปลอดประสพ” ยอมรับแล้ว ศปภ.ประเมินน้ำพลาด ยันอพยพผู้ป่วยกรุงเก่าแล้ว
วันนี้ (9 ต.ค.) ที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เข้าร่วมประชุมกับรัฐมนตรี และเจ้าหน้าที่ของ ศภป.เพื่อพิจารณาหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในหลายจังหวัด โดยนายกรัฐมนตรีได้เสนอต่อที่ประชุมว่า ภายหลังจากที่แนวทางการแก้ไขปัญหานิคมอุตสาหกรรมโรจนะ จ.อยุธยา ที่มีการสร้างคันดินกั้นน้ำแต่ยังไม่สามารถปกป้องดังกล่าวได้ จึงขอให้มีการทบทวนเรื่องการทำแนวคันกั้นน้ำเพื่อป้องกันน้ำท่วมเพิ่มเติม จากเดิมที่ จ.พระนครศรีอยุธยาได้ทำคันกั้นน้ำยาวถึง 30-40 กม. ก็ขอให้ทำคันกั้นน้ำขึ้นมาอีกชั้นหนึ่ง รวมทั้งยังเสนอแนวทางต่อที่ประชุมว่า
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวต่อว่า อยากให้แต่ละจังหวัดมีผู้รับผิดชอบในการสั่งการเพียง 1 คน เพื่อให้เป็นศูนย์กลางในการตัดสินใจและสั่งการได้ในทันทีว่าจะต้องมีการทำคันกั้นน้ำ หรือจะต้องอพยพประชาชน รวมทั้งให้มีการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ของกรมชลประทานที่จะมีการสำรวจพื้นที่ เพื่อปกป้องพื้นที่เศรษฐกิจของแต่ละจังหวัด โดยในขณะนี้ได้มี 10 จังหวัด ประกอบด้วย จ.อุทัยธานี, ชัยนาท, ลพบุรี, สิงห์บุรี, อ่างทอง, พระนครศรีอยุธยา, นครสวรรค์, ฉะเชิงเทรา ปทุมธานี และนนทบุรี ที่จะต้องมีการสำรวจพื้นที่การปกป้องพื้นที่เศรษฐกิจ โดยให้มีผู้แทนจากส่วนกลางให้ประสานกับผู้ว่าฯ แต่ละจังหวัด เพื่อให้มีการเสนอแผนเพื่อให้นำมาพิจารณาในการประชุมในเวลา 18.00 น. ที่จะมีการประชุมของ ศปภ. ทั้งนี้ หากมีการสำรวจแล้วพื้นที่ไหน พบว่าจะต้องมีการปกป้องได้ทัน ก็ให้เร่งดำเนินการ แต่หากไม่สามารถปกป้องได้ก็ให้มีการอพยพประชาชนออกพื้นที่ นอกจากนี้ให้มีการพิจารณาทำแนวกั้นน้ำฝั่งตะวันออกของ กทม.ด้วย
ในช่วงบ่ายวันนี้ นายกรัฐมนตรีจะเดินทางลงพื้นที่จังหวัดปทุมธานีเพื่อเยี่ยมประชาชน และตรวจดูสถานการณ์น้ำท่วม ซึ่งล่าสุดปริมาณน้ำได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ด้าน นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ยอมรับว่า ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ประเมินจำนวนมวลน้ำหลากใน จ.พระนครศรีอยุธยา ผิดพลาด จึงเกิดเหตุน้ำท่วมสูงขึ้น ขณะที่เมื่อเวลา 09.00 น.ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ได้มีการอพยพผู้ป่วยครั้งใหญ่ออกจาก รพ.พระนครศรีอยุธยา ไปยังศาลากลางจังหวัดแล้ว หากมีผู้ป่วยหนักจะอพยพทางเฮลิคอปเตอร์มาที่ กทม. วันนี้จะมีการประชุมเพื่อประเมินและแก้ไขอีกครั้ง
“มีการประเมินสถานการณ์น้ำหลากผิดพลาด แต่หลังจากนี้สิ่งที่ดีที่สุดคือการสั่งอพยพประชาชนไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัย ศปภ.สั่งให้ทางโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยาอพยพคนป่วย กว่า200 ราย ออกจากโรงพยาบาลไปยังศูนย์อพยพที่ศาลากลางของจังหวัด” นายปลอดประสพกล่าว
ขณะที่ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) กล่าวว่า ศปภ.ได้เปิดคู่สายโทรศัพท์เพิ่มอีก 100 คู่สาย และเพิ่มช่องทางส่ง SMS แจ้งขอความช่วยเหลือมาที่หมายเลข 4567892 โดยส่งฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย